Tag: บิทคอยน์ คือ

Bitcoin มาจากไหนกัน? ทำไมมันถึงมีมูลค่า

Bitcoin คือ สกุลเงินดิจิตอลสกุลแรกของโลก เป็นสกุลเงินที่ไม่มีธนาคารหรือองค์กรใดควบคุม ค่าเงินของบิทคอยน์มีการเพิ่มขึ้น และการเข้าถึงเงินสกุลนี้ก็ทำได้ง่ายมากขึ้น เพียงแต่ว่าต้องเข้าใจระบบและศึกษาให้ดีเท่านั้นเอง

ถ้าเราลองย้อนกลับไปเมื่อปี 2010 บิทคอยน์นั้นยังมูลค่าไม่สูงมาก คือ ไม่ถึง  $0.01 ~ หรือ 34 สตางค์ เท่านั้นเอง เพราะว่ายังไม่มีคนให้ความสนใจ และไม่ค่อยเข้าใจในระบบของเงินสกุลนี้มากนัก แต่พอตอนนี้ลองมาเทียบกันดู ในวันนี้ 18 กุมภาพันธ์ 2018 มูลค่าของบิทคอยน์นั้นมากกว่า 300,000 บาทแล้ว

อ้างอิงจาก Coinmarketcap.com

 

 

มูลค่าของบิทคอยน์นั้นเจริญเติบโตอย่างมาก ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับมูลค่าของบิทคอยน์ โดยปกติแล้ว สกุลเงินต่างๆ นั้นจะมีการใช้ทองคำ เงินสกุลอื่น เครดิตของประเทศ หรือพันธบัตรรัฐบาล ค้ำประกันมูลค่า แต่ในเมื่อบิทคอย์ไม่มีสิ่งเหล่านี้ค้ำประกันอยู่ แล้วจะมีค่าได้อย่างไร ?  แล้วบิทคอยน์คือสกุลเงินดิจิตอล แล้วเราจะได้มายังไงล่ะ

 

บิทคอยน์ได้มายังไง?

ขอยกตัวอย่างเลยแล้วกัน

สมมติว่า นาย ก ซื้อจอบขุดดินอันหนึ่ง เพื่อมาขุดดินหลังบ้าน แต่ไปเจอหินชนิดหนึ่ง แล้วก็นำหินนี้ไปขายในตลาด แลกกับค่าแรงที่เขาขุด แต่ว่าตอนแรกไม่ค่อยมีคนเห็นประโยชน์เท่าไร คิดว่าน่าจะไปตกแต่งบ้านมากกว่า ราคาของหินชนิดนี้จึงถูกมาก  แต่ต่อมาวันหนึ่ง คนพึ่งรู้ว่าหินนี้คือทองคำ ซึ่งในตัวหินนั้นอาจไม่มีมูลค่าเลย (no intrinsic value) แต่พอเริ่มมีการใช้ทองคำเป็นตัวกลางแทนมูลค่า (store of value) เช่นแรงงานและมูลค่าสินค้าต่างๆ ก็ทำให้ทองนั้นมีมูลค่าขึ้นมา

บิทคอย์ก็ไม่ต่างกันเลย แค่เราเปลี่ยนจากจอบขุด มาเป็น คอมพิวเตอร์

จากแรงงานมาเป็น การประมวลผลและตรวจสอบ transaction ของบิทคอยน์  และ ค่าอาหาร คือ ค่าไฟ

เรามาดูตัวอย่าง อธิบายการขุดบิทคอยน์ เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น

สรุปว่า ถ้าไม่ขุดก็จะไม่ได้บิทคอยน์ ซึ่งต่างกับเงินในเกมหรือแอปที่เจ้าของเพิ่มเองได้



 

การใช้งานทำให้บิทคอยน์เกิดมีมูลค่า

ในช่วงแรกที่ผ่านมา ยังไม่มีใครรู้ว่าจะนำบิทคอยน์ไปใช้ได้อย่างไร ทำให้มีมูลค่าต่ำ ไม่ต่างอะไรกับคนที่มองทองคำเป็นก้อนหินหรอก แต่ปัจจุบันนี้เรานำบิทคอยน์มาใช้ได้หลายงานมาก เช่น

  • เป็นสกุลเงินที่ใช้ชำระสินค้าได้ เช่น ประเทศญี่ปุน
  • เป็นตัวกลางการโอนเงินต่างประเทศโดยที่ไม่ต้องผ่านหรือใช้เรทธนาคาร
  • ใช้เป็น store of value เสมือนทองคำ
  • มีไว้เพื่อซื้อขายหรือเก็งกำไร

แถมยังเป็นทรัพยากรที่มีจำนวนจำกัดด้วย สามารถขุดได้ไม่เกิน 21 ล้านบิทคอยน์

*แต่อย่าเข้าใจผิดว่าบิทคอยน์มีมูลค่า เพราะมันมีจำนวนจำกัด

และการที่บิทคอยน์นั้นเป็นทรัพยากรที่มีจำกัด ทำให้บิทคอยน์เป็น store of value ที่เชื่อถือได้ แต่ในขณะเดียวกัน เมื่อไม่มีคนใช้งานบิทคอยน์แล้ว ยังไงก็กลายเป็นสิ่งไม่มีค่าอยู่ดี  อย่างเช่น น้ำมันบนโลกนั้นมีจำกัดแต่ถ้าวันหนึ่งเราหันไปใช้พลังงานทดแทนอย่างอื่นหมด ก็คงไม่มีคนต้องการน้ำมันอีก

 

Bitcoin เป็นเหรียญที่สามารถใช้ซื้อ เหรียญทางเลือกอื่นๆ (Altcoin) ได้

ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ Bitcoin ได้ถูกใช้เสมือนประตูไปสู่ Altcoin  พูดง่ายๆว่า ตอนนี้เรามีเหรียญใหม่ๆที่เรียกได้ว่าแทบจะล้นตลาด มีมากถึง 1545 เหรียญ หาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก  https://coinmarketcap.com/ แต่เราก็สามารถไปซื้อเหรียญต่างๆ ตามสถานที่แลกเปลี่ยน พวก Binance หรือ Bittrex  เหมือนว่า เราซื้อบิทคอยน์เพื่อไปแลกเป็นเหรียญอื่นๆ หรือถ้าเหรียญ altcoin ทั้งหลายร่วง คนส่วนใหญ่มักจะแลกกลับมาถือเป็นบิทคอยน์ จึงทำให้บิทคอยน์นั้นมีมูลค่าขึ้นมา

4 เว็บเทรดบิทคอยน์ในไทย ที่ได้รับการรับรอง จาก ก.ล.ต ประจำปี 2563

วันนี้เราได้รวบรวม 4 เว็บเทรดบิทคอยน์ในไทย ที่ได้รับการรับรอง จาก ก.ล.ต โดยเว็บเทรดทั้ง 4 นี้ สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามบทเฉพาะกาลตามคำสั่งของ ก.ล.ต. หรือ ได้รับ License แล้วนั่นเอง

อ่านต่อที่นี่

3 เว็บเทรด Bitcoin ต่างประเทศ ที่น่าเชื่อถือ และมีการซื้อขายสูงสุดปี 2020

ใครที่อยากลองเทรดในตลาดต่างประเทศ เพื่อกระจายความเสี่ยง บทความนี้ เรามาดูกันว่า 3 เว็บเทรด Bitcoin ต่างประเทศ ที่น่าเชื่อถือ และมีปริมาณการซื้อขายสูงสุดในปี 2020 มีเจ้าไหนบ้าง ไปดูกัน

อ่านต่อที่นี่

 

มูลค่าและความต้องการของตลาด

เราอาจจะพูดถึงธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยน้อย อสังหาริมทรัพย์ที่ใช้ทุนสูง เป็นหนี้ระยะยาว  หุ้นถึงจุดอิ่มตัว แล้วเราจะนำเงินไปลงทุนที่ไหนดี ทำให้หลายคนหันมาลงทุนบิทคอยน์ เพราะว่ามีสถิตที่ให้ผลตอบแทนมาก และไม่เหมือนที่มีในท้องตลาด ตราบใดที่ยังมี Demand มี“คนเชื่อว่ามันมีมูลค่า”และพร้อมที่จะซื้อ ไม่ว่าจะไปใช้จ่าย หรือใช้ลงทุนก็จะยังมีคนที่แย่งกันลงทุนขุดบิทคอยน์

ผลลัพธ์คือ บิทคอยน์ก็จะมีมูลค่าต่อไป



 

Credit: https://coinman.co/2017/06/28/bitcoin-value/

 

5 วิธีเริ่มต้นเล่นบิทคอยน์ สำหรับมือใหม่

บิทคอยน์ กำลังเป็นกระแสที่คนกำลังพูดถึงกันมากขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นเรื่องที่หลายๆคน กำลังติดตามราคาของ บิทคอยน์ หรือ สกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ (Altcoin ) กันมากขึ้น  แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังไม่เข้าใจว่า บิทคอยน์ ที่กำลังเป็นกระแสอยู่นี้คืออะไร  เชื่อว่า ต่อไปนี้เราจะได้เห็นข่าวและคนโพสต์ราคา บิทคอยน์ กันมากยิ่งขึ้น และสำหรับคนที่ไม่รู้จักหรือเพียงได้ยินแค่คำว่า บิทคอยน์ ก็อาจจะมึนงงว่าที่มันข่าวอะไรกัน หลายคนเข้ามาเล่นบิทคอยน์โดยที่ยังไม่เข้าใจดีพอด้วยซ้ำ

 

วันนี้จึงขอใช้พื้นที่นี้ อธิบายให้กับมือใหม่ ในวงการ Bitcoin ให้ได้เข้าใจ ในการเริ่มต้นเล่นบิทคอยน์ กันอย่างคร่าวๆ   โดยขอเริ่มอธิบายความหมายง่ายๆของ Bitcoin ก่อนเลย

 

Bitcoin คือ หนึ่งในกลุ่มสกุลเงินดิจิตอล  หรือที่เรียกว่า Cryptocurrency เป็นเงินดิจิตอล ที่สามารถนำไปแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการได้ บิทคอยน์มีความแตกต่างกับสินทรัพย์แบบอื่นที่ไม่อิงกับทองหรือถูกพิมพ์ออกมา  บิทคอยน์มีจำนวนจำกัดเพียงแค่ 21 ล้านเหรียญเท่านั้น  เป็นสกุลเงินดิจิตอลที่เกิดขึ้นมาช่วงปี 2008 โดยบุคคลที่ใช้นามแฝงว่า ซาโตชิ นากะโมโตะ

 

คุณสมบัติเด่นของ บิทคอยน์ คือ

  • เป็นเงินดิจิตอล 100 % จับต้องไม่ได้
  • ไม่ต้องมีบัญชีธนาคารก็ใช้ได้ เพียงแค่มีอินเตอร์เน็ต เท่านั้น
  • ไม่มีองค์กรใด หรือ มีรัฐ มาคอยควบคุมกำกับ
  • การทำธุรกรรมไม่จำเป็นต้องผ่านแบงค์
  • ทุกธุรกรรมจะถูกบันทึกและเปิดเผย
  • ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนจริงๆ

 

ข้อดีของบิทคอยน์

ข้อเสียของบิทคอยน์

  • มูลค่าของมันไม่ได้ตกอยู่ในการควบคุมของรัฐบาล ถือว่าเราเป็นเจ้าของเงินอย่างแท้จริง
  • มูลค่าสูงขึ้น เนื่องจากความต้องการมากขึ้น ในขณะที่จำนวนบิทคอยน์เท่าเดิม
  • เราสามารถรับหรือส่งบิทคอยน์ให้กับใครก็ได้ในโลกนี้ได้อย่างรวดเร็วด้วยตัวของเราเอง
  • ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตโดยไม่ต้องตัวกลางเช่น bank, paypal, moneygram
  • เสียค่าธรรมเนียมน้อยมากๆ
  • ราคามีความผันผวนสูง
  • ยังไม่มีกฎหมายรองรับ จากธนาคารแห่งประเทศไทย
  • ยังไม่เป็นที่นิยมแพร่หลายในไทย และบางประเทศ
  • การซื้อ ขาย และการใช้งาน อาจจะดูยุ่งยาก สำหรับมือใหม่
  • มีหลายกลุ่มใช้ BitCoin เป็นช่องทางของธุรกิจด้านมืด
  • มีความเสี่ยงในการถูก Hack

 

3 เว็บเทรด Bitcoin ต่างประเทศ ที่น่าเชื่อถือ และมีการซื้อขายสูงสุดปี 2020

ใครที่อยากลองเทรดในตลาดต่างประเทศ เพื่อกระจายความเสี่ยง บทความนี้ เรามาดูกันว่า 3 เว็บเทรด Bitcoin ต่างประเทศ ที่น่าเชื่อถือ และมีปริมาณการซื้อขายสูงสุดในปี 2020 มีเจ้าไหนบ้าง ไปดูกัน

อ่านต่อที่นี่

มือใหม่ต้องการเล่นบิทคอยน์ ต้องทำอย่างไร ?

ขั้นตอนในการเริ่มต้นเล่นบิทคอยน์ มีคร่าวๆดังนี้  

1. ต้องศึกษา ทำความเข้าใจพื้นฐานเรื่องบิทคอยน์ก่อน ว่า บิทคอยน์ คือ อะไร?

อย่าพึ่งลงทุน หากยังไม่มีความรู้เรื่องบิทคอยน์

 

2.ต้องลงทะเบียนสมัคร กับ บริษัทซื้อขายบิทคอยน์ในประเทศไทย

การเริ่มต้นซื้อบิทคอยน์ เราสามารถเลือกซื้อได้หลายเว็บไซต์ แต่ส่วนใหญ่คนไทยจะใช้บริการซื้อบิทคอยน์ที่ BX.in.th เนื่องจากเป็นบริษัทอันดับ 1 ในไทย ที่น่าเชื่อถือที่สุด ดูรายชื่อเว็บไซต์ที่ให้บริการซื้อขายบิทคอยน์ทั้งหมดได้ ที่นี่..เลย

5 เว็บไซต์ซื้อขาย Bitcoin ในไทย มือใหม่ห้ามพลาด!

ถูกถามกันมาเยอะมาก ว่า ซื้อบิทคอยน์ ได้ที่ไหน เว็บไหนน่าเชื่อถือ ? ถ้าคุณกำลังมองหาแหล่งซื้อขายเงินบิทคอยน์ วันนี้เรามีบทความที่จะพาคุณไปทำความรู้จัก กับ 5 เว็บไซต์ซื้อขาย Bitcoin ในไทย ที่คุณเป็นสมาชิกได้ทันที!

>>>อ่านต่อ ที่นี่<<<

 

3. หลังจากที่มีบัญชีเป็นของตัวเองแล้ว ก็สามารถทำการซื้อบิทคอยน์ได้ 

มือใหม่สามารถเข้าไปดูการเปิดบัญชี และ การซื้อบิทคอยน์ ได้ที่นี่

มาดู วิธีใช้งาน กับ bx.in.th เว็บเทรดเหรียญอันดับ 1 ในเมืองไทย

หลังจากที่ระบบอนุมัติบัญชีให้แล้วเรามาดูกันว่า จะเริ่มฝากเงินอย่างไร เข้าเทรดอย่างไร และระบบของ bx.in.th เป็นอย่างไร ไปดูกันเลย

>>>อ่านต่อ ที่นี่<<<

คุณสามารถซื้อบิทคอยน์ ได้ตามกำลังทรัพย์ที่มี ยกตัวอย่างเช่น

สมมุติ ราคา 1 บิทคอยน์ วันนี้ เท่ากับ 500,000 บาท           1 บิทคอยน์ มีหน่วย เท่ากับ 1.00 000 000  Satoshi 

ถ้าคุณมีเงิน 500 บาท สามารถซื้อบิทคอยน์ ได้ประมาณ 100 000 Satoshi  หรือ 0.00100000 BTC

ถ้ามีเงิน 1000 บาท สามารถซื้อบิทคอยน์ ได้ประมาณ 200 000 Satoshi  หรือ 0.00200000 BTC

บิทคอยน์ที่คุณซื้อจะถูกเก็บไว้ในกระเป๋าบิทคอยน์ เว็บไซต์ซื้อขายบิทคอยน์จะมีบริการกระเป๋าบิทคอยน์ฟรีให้ผู้ใช้บริการอยู่แล้ว ในกระเป๋าบิทคอยน์จะมีกระเป๋า รับ ส่ง ซึ่งต้องระวังให้ดี อย่ากดสลับกันนะ เพราะมือเก่าแล้วยังเคยกดผิดบ่อยๆ

หน้าตาของกระเป๋าบิทคอยน์ ในเว็บ BX.in.th

 

4.เมื่อคุณได้บิทคอยน์ มาครอบครองแล้ว คราวนี้มาถึงการตัดสินใจว่าเราอยู่สายไหน 

  • ถ้าเป็นสายลงทุนระยะยาว ควรย้าย บิทคอยน์ ไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัย เช่น กระเป๋าแบบ Hardware Trazer Nano หรือ กระเป๋าบิทคอยน์ ที่มีระบบความปลอดภัย เชื่อถือได้

รวบรวม กระเป๋าบิทคอยน์ ประเภทต่าง ๆที่คุณควรรู้

ก่อนจะเริ่มใช้บิทคอยน์ หรือเหรียญดิจิตอลอื่นๆ เราต้องมี กระเป๋าบิทคอยน์ (wallet) เสียก่อน เพราะ ถ้าไม่มีกระเป๋าบิทคอยน์ เราก็จะไม่สามารถรับ เก็บ หรือใช้บิทคอยน์ได้ กระเป๋าสตางค์บิทคอยน์เปรียบเสมือนตัวกลางที่เชื่อมระหว่างเรากับระบบบิทคอยน์

>>>อ่านต่อ ที่นี่<<<
  • ส่วนใครที่เป็นนักเทรดสามารถทำการโอนย้ายบิทคอยน์ไป เทรดในเว็บไซต์ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงได้ เช่น Binance.com, Bitfinex.com, Bittrex.com เป็นต้น
  • สำหรับผู้เขียนจะซื้อเหรียญบิทคอยน์ที่ BX.in.th แล้วโอนบิทคอยน์ไปเทรดทำกำไรในตลาดที่มีการซื้อขายสูง เช่น Binance.comBitfinex.comBittrex.com เมื่อทำกำไรได้ก็โอนบิทคอยน์ มาขายที่ BX ซึ่งสามารถขายและถอนเงินบาทได้อย่างรวดเร็วมาก

10 เว็บเทรด Bitcoin ที่มีการซื้อขายสูง ที่อาจทำให้คุณรวย!!

สำหรับมือใหม่หลายคน ไม่รู้จะเลือกเทรดบิทคอยน์ที่ไหนดี?? การเลือกเว็บเทรดบิทคอยน์ที่ดีนั้น จะมีผลต่อการเทรดของคุณอย่างมาก มันอาจจะเป็นตัวชี้วัดในการทำกำไรในอนาคตของคุณเลยก็ว่าได้

>>>อ่านต่อ ที่นี่<<<

การเทรดเหรียญ Altcoin หรือเหรียญดิจิตอลทางเลือก

มีเหรียญดิจิตอลให้เทรดทำกำไรมากกว่า 2,000 ตัว สามารถเข้ามาเช็คได้ที่ Coinmarketcap.com  เพื่อให้ไปศึกษาให้รู้จักตัวย่อเหรียญเบื้องต้นก่อน   ในการซื้อเหรียญ Altcoin จะต้องมี Bitcoin หรือ Etherium ซึ่งเป็นเหรียญมาตรฐานในการซื้อขาย แลกเปลี่ยนก่อนเสมอ

วิธีการเลือกเทรดขั้นต้น สำหรับมือใหม่ไม่เคยทราบข้อมูลเกี่ยวกับแวดวงเงินดิจิตอล แนะนำให้ลองเลือกเทรด จาก Top 20 เหรียญในตารางการซื้อขายดูก่อน  โดยทำการศึกษาข้อมูลของเหรียญแต่ละตัว ให้เข้าใจ และ เรียนรู้การดูกราฟเทคนิคอลเบื้องต้น ในการเข้าใจจังหวะในการลงทุนก่อนที่จะตัดสินใจซื้อเหรียญด้วย

Altcoin คือ อะไร? แนะนำวิธีหารายได้กับ Altcoin

เมื่อได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และ มันใกล้ตัวเรา มากขึ้นแล้ว เลยต้องศึกษาและติดตามมันให้ทันซะหน่อย เพราะเงินสกุลเงินดิจิตอล เป็นเรื่องที่น่าสนใจ และใกล้ตัวเราเรื่อยๆๆ วันนี้จึงอยากหยิบยกเรื่อง Altcoin สกุลเงินดิติตอลทางเลือก มาฝากกัน จะได้ทันโลกไม่ตกยุค

>>>อ่านต่อ ที่นี่<<<

 

5. หาข้อมูล ข่าวสารเกี่ยวกับบิทคอยน์ ให้มากๆ

สำหรับมือใหม่ อยากจะเน้นให้มองภาพใหญ่ของตลาดบิทคอยน์ก่อน เพราะมีความสำคัญมากๆต่อเหรียญรายตัว  บิทคอยน์มีข่าว ทั้งด้านบวก ด้านลบ มันส่งผลให้ราคาผันผวนอย่างมาก อันนี้ต้องใช้วิจารณญาณให้มากๆด้วย สำหรับมือใหม่ไม่รู้เทคนิคขั้นเทพ ลองศึกษาดูทีละขั้นไป ส่วนคนที่เล่นมาก่อน เล่นเก่งแล้วต้องปล่อยเค้าไป อย่าไปตาม การศึกษาการลงทุนบิทคอยน์ถือว่าเป็นเรื่องใหม่มากในบ้านเรา อาจจะต้องใช้เวลาศึกษา และ เริ่มอย่างระวังดีกว่า




เรามาดู Step by Step คร่าวๆการเล่นบิทคอยน์ ให้เห็นภาพชัดๆกันอีกที 

ยกตัวอย่าง เช่น นาย B ต้องการเริ่มเล่นบิทคอยน์ โดยมีเงินลงทุน 1,000 บาท

Step แรก : นำเงิน 1,000 บาท ไปแลกซื้อบิทคอยน์ ที่ Bx.in.th ได้บิทคอยน์จำนวน 0.00150000 บิทคอยน์นี้จะถูกเก็บในกระเป๋าบิทคอยน์ที่ BX 

Step สอง : เมื่อได้บิทคอยน์แล้ว ต่อไปก็เป็นการตัดสินใจว่าจะไปสายไหน

  • สายลงทุน : นำบิทคอยน์ ไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัย ถือระยะยาว เมื่อได้ราคาที่พอใจ ก็นำมาขายที่ Bx.in.th
  • สายเทรด : นำบิทคอยน์ไปเทรดในตลาดที่มีการซื้อขายปริมาณสูง เช่น  Binance.comBitfinex.comBittrex.com เมื่อได้กำไรก็นำเหรียญมาแลกเงินบาทที่ Bx.in.th  >>หาข้อมูลเรื่อง เว็บเทรดบิทคอยน์ ที่นี่ 
  • สายเทรดหรือลงทุนในเหรียญทางเลือกอื่นๆ (Altcoin) : นำบิทคอยน์ไปแลกซื้อเหรียญดาวรุ่งอื่นๆ เช่น OMG, TRX, ADA อื่นๆ เพื่อถือไว้ระยะยาว หรือ เทรดระยะสั้น เมื่อได้กำไรก็นำเหรียญมาแลกเงินบาทที่ Bx.in.th เช่นกัน >> หาข้อมูลเรื่องเหรียญทางเลือก Altcoin ได้ที่นี่
  • สายขุด : นำบิทคอยน์ไปซื้อกำลังขุดเหรียญบิทคอยน์ หรือ ขุดเหรียญทางเลือกอื่นๆได้ เข้าไปดูกำลังขุดที่ Genesis Mining, ViaBTC.comezacoin.com >> หาข้อมูลเรื่องการขุดเหรียญต่างๆได้ ที่นี่

**สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เข้าใจ ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง หรือมีคำถามอื่นๆ สามารถสอบถาม หรือ ติดต่อเราได้ที่ https://www.facebook.com/GoalBitcoin/

————————————————————————————————————————————————-

เป็นกำลังใจให้ทุกคน และขอให้ทุกคนโชคดี ร่ำรวย และทำกำไรจากตลาด Cryptocurrency

ได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ 




คำเตือน : ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนบิทคอยน์ มือใหม่ถอดด้ามทุกคนต้องศึกษาหาความรู้ก่อนลงสนามจริง !!!

4 เว็บเทรดบิทคอยน์ในไทย ที่ได้รับการรับรอง จาก ก.ล.ต ประจำปี 2563

วันนี้เราได้รวบรวม 4 เว็บเทรดบิทคอยน์ในไทย ที่ได้รับการรับรอง จาก ก.ล.ต โดยเว็บเทรดทั้ง 4 นี้ สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามบทเฉพาะกาลตามคำสั่งของ ก.ล.ต. หรือ ได้รับ License แล้วนั่นเอง

อ่านต่อที่นี่

คนรวยด้วยบิทคอยน์ มีสักกี่คน? มือใหม่อยากรวย ตามมาดูกัน

เดี๋ยวนี้หันหน้าไปทางไหนก็มีแต่คนพูดถึง บิทคอยน์ บิทคอยน์ แล้วก็บิทคอยน์ อ้าว…บิทคอยน์ คือ อะไรล่ะ? กลายเป็นคำถามที่มีแต่คนอยากรู้? เพราะมีข่าวว่าบางคนสามารถทำรายได้จากบิทคอยน์วันละหลายพัน หลายหมื่น ถือว่าไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ เลย  แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่า บิทคอยน์ คือ อะไร ผู้เขียนแนะนำให้หาข้อมูลในเว็บ GoalBitcoin นี้ก่อน หรือ หาข้อมูลเพิ่มเติมในอินเตอร์เน็ตที่มีอยู่มากมายได้เช่นกัน

ราคาบิทคอยน์วันนี้ ทะลุ New high ไปอยู่ที่ $10,327.50  หรือ เท่ากับ 340,000 บาท (อ้างอิงตาม Coinmarketcap)สำหรับใครที่เป็นนักลงทุนหรือนักเทรด หรือหน้าใหม่ในวงการบิทคอยน์  ผู้เขียนก็ยังแนะนำให้ทะยอยซื้อบิทคอยน์เก็บสะสมไว้  ตามกำลังทรัพย์ที่มี  แล้วอีกหน้าปีค่อยมาเช็คราคากันอีกที

 

วันนี้ผู้เขียนอยากจะมาคลายข้อสงสัย ว่า ราคาบิทคอยน์ วิ่งทะลุไป $10,000 ยังเข้าทันมั้ย? คนที่ถือ Bitcoin ในโลกนี้มีมากน้อยแค่ไหน? และมีคน รวยจาก Bitcoin สักกี่คน ?? 

 

คนที่ถือบิทคอยน์ Bitcoin ในโลกนี้มีมากน้อยแค่ไหน?

จากสถิติบัญชี Bitcoin ทุกบัญชีทั่วโลกมาเปิดให้ดูกันเลย

อ้างอิง https://bitinfocharts.com/

จากสถิติบัญชี Bitcoin ในภาพทำให้เห็นว่า

  • ทั่วโลกมีบัญชี Bitcoin 23.15 ล้านบัญชี  บัญชีบิทคอยน์ มีการใช้งานไม่ต่างกับเลขบัญชีธนาคาร และหนึ่งคนสามารถมีได้หลายบัญชี แสดงว่า น่าจะมีคนที่มีบัญชี Bitcoin ประมาณ 15-20 ล้านคนทั่วโลก
  • เมื่อนำทุกบัญชีทั่วโลกมาหาค่าเฉลี่ย ยอดบิทคอยน์เฉลี่ย คือ 0.72 BTC 
  • แต่บัญชีบิทคอยน์ส่วนใหญ่คือ 13.22 ล้านบัญชี  มี Bitcoin อยู่ในบัญชีไม่เกิน 0.001 BTC  เหมือนเปิดบัญชีไว้ลองเล่นเฉยๆ
  • บัญชีที่มี Bitcoin ตั้งแต่ 10,000 BTC  ซึ่งอาจจะเรียกกลุ่มนี้ว่าเป็นมหาเศรษฐี Bitcoin มีจำนวน 111 บัญชีทั่วโลก
  • บัญชี Bitcoin ที่มียอดคงเหลือมากกว่า 100,000 BTC มี 2 บัญชีในโลกเท่านั้น มี Bitcoin รวมกัน 252,798 BTC
  • บัญชี Bitcoin ที่มียอดคงเหลือมากที่สุดในโลก ถือ Bitcoin อยู่ 130,215 BTC  ซึ่งมีการเปิดเผยว่าเป็นบัญชีของ Bitfinex ที่เป็นเว็บเทรดซื้อขายเหรียญดิจิตอลใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก



เห็นตัวเลขเหล่านี้ พอจะสรุปได้ว่า

  • Bitcoin มีการกระจุกตัวอยู่ในมือคนจำนวนไม่มาก Bitcoin 96.29% อยู่ในมือคนแค่ 2.93%
  • แม้เราจะได้ยินเรื่อง Bitcoin กันคุ้นหู มีคนกล่าวถึงตลอด แต่จำนวนคนที่มี Bitcoin อยู่ในมือจริง ๆ อย่างมากก็ไม่เกิน 23 ล้านคนทั่วโลก ถ้าเทียบกับประชากรโลกที่ี 7,600 ล้านคน ก็แค่ 0.3% ….. แปลว่า ทุก ๆ 1,000 คนในโลก จะมีแค่ 3 คนเท่านั้นที่มีบัญชี Bitcoin จึงนับว่ายังเป็นเรื่องใหม่มากสำหรับยุคนี้มาก (แม้จะถือกำเนิดมา 8 ปีแล้วก็ตาม) ซึ่งก็แปลว่า ถ้า Bitcoin ไม่ล้มหายตายจากไปซะก่อน ยังมีโอกาสอีกมากในการเข้าถึงคนอีกหลายร้อยหลายพันล้านคนทั่วโลก
  • นอกจากนั้น ถ้าเทียบปริมาณ Bitcoin ทั่วโลก ซึ่งมีมูลค่ารวมกัน 1.67 แสนล้านเหรียญ เมื่อเทียบกับปริมาณเงิน USD ทั้งหมดที่มี 13.74 ล้านล้านเหรียญ Bitcoin ก็แค่ 1.2% เท่านั้น .. Bitcoin ยังถือว่าน้อยมากๆๆ (ข้อมูล US Money Supply M2 )
  • ทั้งนี้ ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ราคา Bitcoin ขยับขึ้นมาแล้ว 12.60 เท่าตัว จาก $737 มาเป็น $10,327 .. แต่ถ้าคิดว่า 12.60 เท่าเยอะแล้ว ก็ยังเทียบไม่ได้กับเหรียญ Ethereum ที่ช่วง 1 ปีที่ผ่านมาพุ่งขึ้นมา 53.22 เท่าตัว จาก $8.81 มาเป็น $473 และถ้าเทียบกับเงินสกุล Dash ที่พุ่งขึ้นมา 67.28 เท่าตัว จาก $9.12 มาเป็น $622 ราคา Bitcoin ที่พุ่งขึ้นมา ก็แค่ธรรมดา ๆ ไปเลย

มาดูหน้าตา 5  คนรวยระดับมหาเศรษฐีจาก Bitcoin กันหน่อย

1. Cameron and Tyler Winklevossสองศรีพี่น้อง Winklevoss ผู้อ้างว่าเป็นเจ้าของไอเดียสร้าง Facebook ฟ้อง Mark Zuckerberg  ผู้ก่อตั้ง Facebook สองพี่น้อง Winklevoss มีบิทคอยน์มูลค่ารวมมากถึง  400 ล้านดอลลาร์

2. Tony Gallippi  :เป็นผู้ก่อตั้งและเป็น CEO ของบริษัท Bitpay มีบิทคอยน์มูลค่ารวมมากถึง  100 ล้านดอลลาร์

3. Roger Ver :เป็นนักลงทุน ในบริษัท Start Up ที่เกี่ยวกับ Bitcoin  มีบิทคอยน์มูลค่ารวมมากถึง  52 ล้านดอลลาร์

4. Charlie Shrem  :เป็นนักลงทุนและเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Start Up ชื่อ BitInstant,มีบิทคอยน์มูลค่ารวมมากถึง  45 ล้านดอลลาร์

5. Jared Kenna : เป็นผู้ก่อตั้ง บริษัท Tradehill and Money & Tech  มีบิทคอยน์มูลค่ารวมมากถึง 30 ล้านดอลลาร์




การคาดการณ์ราคาบิทคอยน์ในปี 2020-2030

Bitcoin ถือเป็นเรื่องใหม่มากสำหรับยุคนี้ (แม้จะถือกำเนิดมา 8 ปีแล้วก็ตาม) ซึ่งก็แปลว่า ถ้า Bitcoin ไม่ล้มหายตายจากไปซะก่อน ยังมีโอกาสอีกมากในการเข้าถึงคนอีกหลายร้อยหลายพันล้านคนทั่วโลก

Note : การคาดการณ์อาจจะไม่เป็นตามในรูปก็เป็นได้  ขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นของแต่ละคน โปรดใช้วิจารณญาณ!!

 

แล้วตอนนี้บิทคอยน์ ซื้ออะไรได้บ้าง?

รวมแหล่งร้านค้า รับชำระเงินด้วยบิทคอยน์ ที่คุณอาจยังไม่รู้

เทคโนโลยีที่ใกล้ตัวเรามากที่สุดเห็นจะเป็นเทคโนโลยีด้านการชำระเงิน โดยในปัจจุบันนั้น เราต่างก็เห็นการใช้จ่ายเงินผ่านมือถือ โดยที่เราไม่ต้องพกเงินสดกันอีกต่อไปแล้ว เราจะพาคุณไปดู แหล่งร้านค้า ที่รับชำระเงินด้วยบิทคอยน์ ที่คุณอาจยังไม่รู้

>>>อ่านต่อ ที่นี่<<<

ต้องบอกว่าปัจจุบันบิทคอยน์ไม่ใช่เรื่องไกลตัวของเราอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากชีวิตประจำวันของทุกคนต้องข้องเกี่ยวกับระบบอินเทอร์เน็ตแน่นอน และบิทคอยน์คงจะมีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ กับระบบการเงินของโลกในอนาคต ซึ่งผู้เขียนอยากให้ทุกท่านศึกษา เรียนรู้และทำความเข้าใจเรื่องนี้เอาไว้ซักหน่อยก็ไม่เสียหาย เพราะใครจะไปรู้อนาคตข้างหน้า “บิทคอยน์” อาจกลายเป็นสกุลเงินหลักที่ใช้กันอย่างแพร่หลายก็ได้

การลงทุนมีความเสียง แต่การลงทุนโดยที่ไม่มีความรู้นั้นมีความเสี่ยงมากที่สุด ก่อนลงทุนใน Bitcoin, Altcoin หรือ ICO ตัวไหน ควรศึกษาให้แน่ใจก่อนทุกครั้ง



10 เว็บเทรด Bitcoin ที่มีการซื้อขายสูง ที่เหมาะสำหรับนักเทรด!!

ปัจจุบันมี เว็บเทรด Bitcoin เพื่อซื้อขายแลกเปลี่ยนเหรียญผุดขึ้นมามากมายทั่วโลก สำหรับมือใหม่หลายคน ไม่รู้จะเลือกเทรดบิทคอยน์ที่ไหนดี?? การเลือกเว็บเทรดบิทคอยน์ที่ดีนั้น จะมีผลต่อการเทรดของคุณอย่างมาก มันอาจจะเป็นตัวชี้วัดในการทำกำไรในอนาคตของคุณเลยก็ว่าได้ มีเว็บเทรดจำนวนมากก็จริง แต่เว็บเทรดที่น่าเชื่อถือ และมีปริมาณการซื้อขายสูงมีอยู่ไม่กี่เจ้า

>>>อ่านต่อ ที่นี่<<<

Credit: Coinmarketcap.com, thailandinvestmentforum.com/

6 กลโกงการลงทุนบิทคอยน์ มือใหม่ทุกคนต้องระวัง!

ลงทุนบิทคอยน์กระแสความนิยมของ Bitcoin และ Alcoin เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ราคาบิทคอยน์นับวันจะยิ่งสูงขึ้นทะลุดาวอังคาร ทำ New high ทุกวัน ล่าสุด 1 บิทคอยน์ มีค่าเท่ากับ 320,000 บาท ($9953) ข้อมูลจาก Coinmarketcap.com วันที่ 28 พฤศจิกายน 2560

การลงทุนบิทคอยน์ หรือ Cryptocurrency ตัวอื่นๆ จึงเริ่มเป็นอะไรที่คนทั่วโลกสนใจ ทำให้เกิดการดึงดูดให้คนที่ไม่ได้ศึกษา และไม่ได้มีความรู้ ความเข้าใจที่แท้จริงเข้ามาลงทุน ลงเงินในแวดวงสกุลเงินดิจิตอลนี้  คนเหล่านี้อาจจะโดนหลอกลวงโดยนำบิทคอยน์ มาบังหน้าได้ และเมื่อเกิดการโกงที่มากขึ้น ข่าวแย่ๆเหล่านี้จะส่งผลร้ายแรงต่อภาพลักษณ์ของ บิทคอยน์ ในสายตาของคนส่วนมาก ยิ่งทำให้คนต่อต้านการลงทุนบิทคอยน์ มากขึ้น

ในบทความนี้ Goalbitcoin จะมาสร้างภูมิคุ้มกันให้มือใหม่ทุกๆท่าน ปลอดภัยจากภัยหลอกลวงอันตรายจากการลงทุนในบิทคอยน์ และเหรียญ Cryptocurrency อื่นๆกัน  รูปแบบกลโกงแฝงจากการนำบิทคอยน์ และ Cryptocurrency มาใช้เป็นเครื่องมือในการหลอกลวง ฉ้อโกงนั้น หลักๆแล้วมักจะมีอยู่ 6 ประเภทด้วยกัน คือ

 

1.เว็บเทรดบิทคอยน์ หลอกลวง (Fake Bitcoin Exchange)

การเทรดบิทคอยน์ หรือ Cryptocurrency อื่นๆ เป็นช่องทางการลงทุนที่ง่ายที่สุด แต่เสี่ยงมากเช่นกัน เมื่อเจอภาวะผันผวนของตลาด ปัจจุบันมี เว็บเทรด Bitcoin  เพื่อซื้อขายแลกเปลี่ยนเหรียญผุดขึ้นมามากมายทั่วโลก สำหรับมือใหม่หลายคน ยังไม่ได้ศึกษาให้ดี ไม่รู้จะเลือกเทรดบิทคอยน์ที่ไหน อาจจะทำให้เลือกเว็บเทรดปลอม ที่หลอกลวงนักลงทุน เกิดปัญหาในการโอนเหรียญออกไม่ได้ ไม่มี Support ช่วยเหลือ หรือไม่ยอมจ่ายเหรียญได้

 ในโลกออนไลน์มีเว็บเทรดจำนวนมากก็จริง แต่เว็บเทรดที่น่าเชื่อถือ และมีปริมาณการซื้อขายสูงมีอยู่ไม่กี่เจ้า

วิธีป้องกันตัวเองเว็บเทรดบิทคอยน์ หลอกลวง

  • ศึกษาที่มาที่ไปของบริษัทเว็บเทรด และดูประวัติเจ้าของบริษัท CEO ว่าเคยมีข่าวเสียหายหรือไม่ และจดทะเบียนมานานแค่ไหน ผลประกอบการเป็นอย่างไร ได้รับการรับรองอนุมัติจากประเทศนั้นๆหรือไม่
  • ศึกษาข้อมูลความโปร่งใสของบริษัท ว่ามีการแจกแจงชัดเจน เช่น https://bx.in.th/info/transparency/ แบบนี้หรือไม่ และถ้ามีแล้ว ให้เข้าไปตรวจสอบด้วยว่าข้อมูลเหล่านี้จริงเท็จแค่ไหน เราอาจจะเจอกรณีแปลกๆที่ปริมาณเหรียญที่เทรดๆกันอยู่ อาจจะมากกว่าปริมาณที่เว็บเทรดถือไว้ ณ ปัจจุบันก็ได้
  • ดูระบบความปลอดภัยที่เว็บเทรดนั้นๆมีให้ ถ้ามีระบบอย่าง 2 Factor Authentication หรือ SMS Verification และมาตรการความปลอดภัยที่ดูมีมาตรฐานเป็นสากล ก็จะเพิ่มความน่าเชื่อถือ แต่ถ้าไม่มี หรือมีแค่ไม่กี่อย่างและทำงานได้ไม่ดีด้วย ก็ให้เพิ่มความระมัดระวัง
  • นำเหรียญที่อยู่ในเว็บเทรดออกไปเก็บใน Wallet ที่ปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ เพราะถึงแม้เป็นบริษัทที่น่าเชื่อถือแค่ไหนก็ตาม ก็มีโอกาสถูกขโมยเหรียญจากเว็บเทรดได้  อย่างเช่น MTGOX บริษัทใหญ่ที่เคยเป็นอันดับหนึ่งในการเทรดบิทคอยน์ ถูกขโมยเหรียญ ทำให้บริษัทต้องถูกฟ้องล้มละลาย

3 เว็บเทรด Bitcoin ต่างประเทศ ที่น่าเชื่อถือ และมีการซื้อขายสูงสุดปี 2020

ใครที่อยากลองเทรดในตลาดต่างประเทศ เพื่อกระจายความเสี่ยง บทความนี้ เรามาดูกันว่า 3 เว็บเทรด Bitcoin ต่างประเทศ ที่น่าเชื่อถือ และมีปริมาณการซื้อขายสูงสุดในปี 2020 มีเจ้าไหนบ้าง ไปดูกัน

อ่านต่อที่นี่

2.กระเป๋าบิทคอยน์ปลอม (Fake Bitcoin Wallets)

ในช่วงหลังๆมานี้ การใช้กระเป๋าอิเล็กทรอนิคสำหรับเงินดิจิตอลต่างๆ หรือที่เรียกว่า วอลเล็ท (wallet ) มีความนิยมเพิ่มมากขึ้นมาก จึงทำให้พวกแฮกค์เกอร์ต่างๆจ้องที่จะฉกข้อมูลการเข้า wallet ของเหรียญชนิดต่างๆของเรา โดยส่วนมากพวกนี้จะส่งข้อความเข้ามาในอีเมล์เรา หลอกให้เราคลิ๊กลิงค์ โดยการส่งข้อความประมาณว่า บัญชี wallet ของเราจะถูกปิดถ้าเราไม่เข้าไปยืนยันตัวเอง ทั้งที่เรายืนยันตัวตนแล้ว หรือประมาณว่าเว็บไซต์มีการอัพเดท อะไรประมาณนี้ทั้งนี้ ขอให้ทุกท่านโปรดตรวจสอบ ที่อยู่ผู้ส่งอีเมลล์ที่ส่งมาให้เรา ว่าเป็นของทางเว็บจริงหรือไม่ บางทีแค่ชื่ออีเมลล์ที่ส่งมา ตัวอักษรขนาดเล็กหรือใหญ่ ก็ทำให้เปลี่ยนเป็นคนละเว็บไซต์แล้ว

ดังตัวอย่างเช่น  จากตัวอย่าง blogchain.Info อันที่จริงควรจะเป็น blockchain.info

 

วิธีป้องกันตัวจากกระเป๋าบิทคอยน์ปลอม

  • ศึกษาข้อมูลของบริษัทกระเป๋าบิทคอยน์ให้ดี ว่ามีความน่าเชื่อถือ ปลอดภัย สามารถเข้าไปเช็ครายชื่อกระเป๋าที่น่าเชื่อถือที่ Bitcoin.org
  • ตรวจสอบลิงค์ให้แน่ใจ ว่าใช้ลิงค์จากบริษัทกระเป๋าจริงๆ
  • กระเป๋าแบบฮาร์ดแวร์มีความปลอดภัยและสะดวกสบาย ถึงแม้ว่าตัวเครื่องอุปกรณ์จะหาย ถูกขโมย หรือชำรุด หากเรามีการสร้างรหัสแบคอัพสำรองไว้ บิทคอยน์ก็จะไม่หายไปไหน กระเป๋าแบบฮาร์ดแวร์เปรียบเสมือนห้องนิรภัยใต้ดินของเรา ถ้าใครมีบิทคอยน์มาก ๆ ก็ควรที่จะเลือกเก็บบิทคอยน์ ในกระเป๋าแบบฮาร์ดแวร์ แทนกระเป๋าแบบออนไลน์

รวบรวม กระเป๋าบิทคอยน์ ประเภทต่าง ๆที่คุณควรรู้

ในการใช้งานจริง สิ่งที่ต้องเก็บรักษาอย่างปลอดภัยไม่ใช่ตัวบิทคอยน์โดยตรง แต่เป็นกุญแจส่วนตัวของแต่ละคนที่ใช้อนุมัติการทำธุรกรรมบิทคอยน์ แต่ละกระเป๋าสตางค์จะมีโค๊ดยาวๆเป็นตัวอักษรสลับตัวเลข เรียกว่า Address เป็นบัญชี แบบฝาก และถอน เวลาใครจะส่งบิทคอยน์มาให้เรา เราก็ให้ Address แบบฝากได้เลยค่ะ ในทางกลับกัน ถ้าเราจะส่งเงิน เราก็ต้องมี Address แบบถอน การฝากถอนทำได้ง่าย และรวดเร็วมาก

>>>อ่านต่อ ที่นี่<<<

3.โจรกรรมข้อมูลทางเว็บไซต์ หรือ อินเตอร์เน็ต (Phishing Scams)

เว็บไซต์หลอกลวงเป็นภัยทางอินเตอร์เน็ตที่จะแอบอ้างเป็นธนาคาร เว็บไซต์บริการด้านธุรกรรม หรือบริการชำระเงินออนไลน์ที่คุณใช้บริการอยู่ เพื่อหลอกเอาข้อมูล Password หรือข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆในการเข้าถึงบัญชีกระเป๋าของคุณ

วิธีป้องกันตัวจากโจรกรรมข้อมูลทางเว็บไซต์

ต่อไปนี้เป็นวิธีการง่ายๆและรวดเร็วที่จะทำให้บัญชีของคุณปลอดภัยจากมิจฉาชีพ

1) ตรวจสอบ URL หรือลิงค์โดยละเอียดก่อนกดเข้าไป

พวกเว็บไซต์หลอกลวงต่างๆมักจะสร้างลิ้งค์เว็บไซต์ปลอมที่ดูคล้ายคลึงกับเว็บไซต์ที่คุณใช้บริการอยู่ ควรตรวจสอบให้ละเอียดก่อนกดเข้าไปว่าเป็นลิ้งค์เว็บไซต์ที่ใช้งานอยู่จริงและสังเกตว่าหน้าเว็บไซต์ที่ปรากฏแตกต่างจากเว็บไซต์ที่ใช้งานอยู่ปกติหรือไม่ หากเข้าไปในเว็บนั้นแล้ว อย่ากรอกข้อมูลใดๆลงไป

2) กรอกข้อมูลส่วนบุคคลในเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้เท่านั้น

HTTPS เป็นกระบวนการที่ใช้ในเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้เพื่อการติดต่อสื่อสารทางอินเตอร์เน็ตที่ปลอดภัย เมื่อใดก็ตามที่กรอกข้อมูลส่วนตัวหรือทำธุรกรรม ต้องแน่ใจว่ามีสัญลักษญ์รูปแม่กุญแจปรากฏอยู่ที่สเตตัสบาร์ร่วมกับ “https:” เสมอ โดยตัว s นั้นย่อมาจาก secure

3) ตั้งพาสเวิร์ดที่คาดเดาได้ยาก

โดยปกติเรามักใช้ username และพาสเวิร์ดเดิมซ้ำๆกันในหลายบัญชีที่เราสมัคร และนี่คือช่องโหว่ที่ก่อให้เกิดการโจรกรรมข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตได้ ดังนั้น เวลาตั้งพาสเวิร์ดควรกำหนดให้มีความซับซ้อนและคาดเดาได้ยากโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบัญชีที่มีข้อมูลสำคัญหรือข้อมูลทางการเงิน

4) เปิดการใช้งานเครื่องมือ two-factor authentication (2FA) กับบัญชีของคุณ

Two-factor authentication (2FA) หรือเครื่องมือยืนยัน 2 ขั้นตอน เพิ่มความปลอดภัยให้บัญชีของคุณมากยิ่งขึ้น ด้วยการยืนยันเพื่อความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นอีกขั้น บัญชีของคุณจะถูกโจรกรรมข้อมูลได้ยากยิ่งขึ้น คุณสามารถเปิดการใช้งาน 2FA สำหรับบัญชี coins.co.th ได้ เพียงแค่เข้าไปที่ Account Settings(การจัดการบัญชี)แล้วเปิดใช้ด้วยแอพพลิเคชั่น Google Authenticator

5) หลีกเลี่ยงการติดตั้งโปรแกรมหรือโปรแกรมเสริมที่ไม่น่าเชื่อถือลงในคอมพิวเตอร์

ติดตั้งและอัพเดทโปรแกรมแอนตี้ไวรัส, ไฟร์วอลล์(Firewall-เครื่องมือที่ใช้ในการป้องกันเน็ตเวิร์กจากการสื่อสารทั่วไปที่ไม่ได้รับ อนุญาต)รุ่นล่าสุดลงในคอมพิวเตอร์ส่วนตัวหรือคอมพิวเตอร์สำนักงาน เปิดใช้งานโปรแกรมเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ




4.การลงทุนแชร์ลูกโซ่โดยใช้ Cryptocurrency (Ponzi Scams)

หลาย ๆ ครั้งเราคงได้พบกับเพื่อนสนิท หรือคนรู้จัก สักคนที่ชอบมาแนะนำการลงทุนที่ดีให้กับเรา ทั้งการบอกว่านี่เป็นโอกาสที่จะสร้างอนาคตให้ตัวเอง หรือแม้แต่บอกว่าต้องการแบ่งปันสิ่งดี ๆ ให้กับเรา และหลายครั้งอีกเช่นกันที่เรามักจะเผลอเชื่อใจคนสนิทและลงทุนไปกับการลงทุนที่ “ดูท่าทาง” จะไปได้สวย บางธุรกิจนั้นดูดีและน่าเชื่อถือจริง ๆ แถมยังมีคนดังๆ ผู้เชี่ยวชาญร่วมลงทุนในโครงการนี้ไปอีกตั้งเยอะ ในเมื่อคนที่มีความรู้มากกว่าเรายังลงทุนไปกับโครงการนี้ แล้วทำไมเราถึงไม่ลงทุนตามเขาไป ดูยังไงโอกาสกำไรก็เห็นอยู่ชัด ๆ

ซึ่งทุกครั้งการต้มตุ๋นทางการเงินเองก็มีจุดประสงค์ให้เราเชื่อเช่นนั้นจริง ๆ เพื่อจะทำการหลอกลวงเงินจากผู้ลงทุนจำนวนมากมาย ก่อนที่จะเชิดเงินหายไปอย่างไร้ร่องรอย ทิ้งไว้เพียงคราบน้ำตา (กับความซวยและหนี้) ของนักลงทุนที่ไม่ใส่ใจกับการลงทุนของตนเอง โดยการต้มตุ๋นเหล่านี้หลายครั้งสามารถลอยนวลอยู่ได้นับสิบปี และกวาดเงินไปได้หลายพันล้านเลยทีเดียว

 

วิธีป้องกันตัวจากการลงทุนแชร์ลูกโซ่โดยใช้ Cryptocurrency

  • อยากให้ทุกท่านฉุกคิด และทำความเข้าใจว่า การลงทุนไม่ว่าอะไรก็ตาม แม้แต่สุดยอดนักลงทุน ก็ต้องมีจังหวะขาลงที่ขาดทุนบ้าง การที่เราเจอกับโฆษณาชวนเชื่อว่าเป็นการลงทุนที่มีแต่ได้กับได้ ด้วยกำไรที่สูงและสม่ำเสมอนั้น แทบเป็นไปไม่ได้จริง
  • การลงทุนที่สำเร็จไม่ใช่การที่เราชนะตลอด ไม่ใช่การที่เราหยั่งรู้ได้ล่วงหน้าอย่างถูกต้องแม่นยำว่าควรจะลงทุนกับอะไรในจังหวะไหน แต่การกระจายและจัดการกับความเสี่ยงอย่างชาญฉลาดและรอบคอบต่างหากที่สร้างความสำเร็จให้กับการลงทุน เพราะเราไม่สามารถตอบได้เลยว่าเราจะได้หรือเราจะเสียกันแน่

3 คดีดังแชร์ลูกโซ่ ล่าเหยื่อ“คนอยากรวย” (รู้ทันการต้มตุ๋นทางการลงทุน)

วันนี้จะขอเล่าถึงการต้มตุ๋นทางการลงทุน รูปแบบที่เคยส่งผลกระทบต่อผู้คนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งก็คือ กลยุทธ์ต้มตุ๋นแบบพอนซี (Ponzi’s Scheme) และ แบบปิรามิด (Pyramid Scheme) นั่นเอง พร้อมทั้ง 3 คดีดัง ที่ยังคงเป็นที่กล่าวถึงในปัจจุบัน

>>>อ่านต่อ ที่นี่<<<

5.Cloud Mining ปลอม (Fake Cloud mining)

Cloud Mining ถือเป็นสิ่งที่สร้างความสะดวกสบายให้กับนักลงทุน Cryptocurrency ระดับเริ่มต้นที่สนใจการขุดเหรียญได้เป็นอย่างดี โดยการที่เราไม่จำเป็นต้องเสียเวลา และทรัพยากรในการดูแลเหมืองขุดของเราเอง แต่เราจะทำการซื้อหรือเช่ากำลังขุดจากเหมือง Cloud Mining นี้ สำหรับบางที่ มีการเปิดเผยชัดเจนว่าเหมืองอยู่ที่ไหน มีการถ่ายวีดีโอทัวร์รอบโรงงาน แต่สำหรับบางเจ้าก็ไม่ได้มีการเปิดเผยที่ภาพถ่าย โดยที่ Cloud Mining บางเจ้าก็อาจจะไม่ได้เป็นเจ้าของกำลังขุดที่ปล่อยขายอยู่ 100% บางส่วนอาจจะทำการซื้อกำลังขุดมาจาก Cloud Mining เจ้าอื่นก็ได้ แต่ยังไงก็ตาม Cloud Mining ก็เป็นการลงทุนที่เสี่ยง ถึงแม้เจ้าที่เราลงเงินไปจะมีชื่อเสียงก็ตาม แต่ไม่ได้แปลว่าเขาพลาดไม่ได้ หรืออย่างล่าสุด Cloud mining สายเสี่ยง ที่ชื่อ bitpetite ก็ปิดเว็บหนี พร้อมกับเหรียญที่นักลงทุนทั่วโลก นำมาฝากขุดที่เว็บนี่

 

วิธีป้องกันตัวจาก Cloud Mining ปลอม

  • เลือกผู้ให้บริการที่โปร่งใส จัดการอย่างมีระบบ น่าเชื่อถือ ไม่มีข่าวเสียหายในอดีต หรือถ้ามีก็ต้องพิจารณาจากการแก้ปัญหานั้นๆว่าทำได้อย่างถูกต้องและยุติธรรมต่อลูกค้าหรือไม่
  • หมั่นนำเงินที่ได้จากการขุด Cloud Mining ออกมาเก็บในที่ที่ปลอดภัยอยู่เป็นประจำ

รีวิว Cloud mining คืออะไร สร้างรายได้จริง? ไม่หลอกลวง?

บริษัท Cloud mining ส่วนใหญ่นั้นตั้งอยู่ในฐานต่างประเทศมันจึงมีความเสี่ยงอยู่พอสมควร ซึ่งในอดีตมีบริษัท Cloud mining ที่ตั้งขึ้นหลอกๆ ที่ปิดตัวลงไป เราจึงต้องระมัดระวังกับเรื่องนี้ ดังนั้นแนะนำผู้ที่ลงทุนใน Cloud mining ไม่ควรลงเงินกับที่เดียวควรจะกระจายความเสี่ยงออกไปหลายๆแห่ง

>>>อ่านต่อ ที่นี่<<<

6.เหรียญปลอม (Fake Cryptocurrency)

เงินดิจิตอลสกุลใหม่ ICO ปรากฏตัวขึ้นมาแทบทุกๆวัน แต่ละเหรียญนั้นก็มีข้อแตกต่างและจุดประสงค์ของตัวเองในการสร้างมันขึ้นมา เหรียญเหล่านี้มักมีอะไรที่เหมือนๆกัน อย่างเช่น ใช้ Blockchain เหมือนกัน ใช้ Proof of Work สำหรับการขุดเหมือนกัน หรือถูกใช้งานเหมือนเป็นสกุลเงินได้เหมือนกัน แต่ภัยร้ายที่มักแอบแฝงเข้ามาได้คือ Cryptocurrency ปลอมที่อาจจะสร้างโดยองค์กรแชร์ลูกโซ่ที่จะล่อลวงให้คนมาเข้าร่วมกลุ่มและลงทุนในสิ่งนี้ อีกทั้งอาจจะยังมีการแบ่งลำดับขั้นให้สำหรับผู้ที่ชักชวนคนมาลงทุนเพิ่มพร้อมสิทธิประโยชน์อีกมากมาย

ถึงแม้เหรียญจอมปลอมบางเจ้าจะทำการบ้านมาดี อ้างว่าตนเองนั้นตั้งอยู่บน Blockchain อันสุดแสนจะน่าเชื่อถือก็ตาม พร้อมทั้งมี Blockexplorer ของตัวเองด้วย ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะพูดจริงตามที่ว่ามา มันอาจจะเป็นเว็บที่ทำหลอกๆให้ดูเหมือนว่ามี Block และ Transaction เกิดขึ้นเรื่อยๆก็ได้ อย่างล่าสุด เหรียญปลอมที่ชื่อ Confido ปิดเว็บหนี ทำให้ราคาเหรียญล่วงลงมาถึงจุดต่ำสุด

 

วิธีป้องกันตัวจากเหรียญปลอม

  • ศึกษาหลักการทำงานของเหรียญแต่ละเหรียญที่จะลงทุนให้เข้าใจ
  • สิ่งที่ควรเน้นคือการศึกษาว่าเหรียญนี้มีความโดดเด่นต่างจากเหรียญอื่นๆยังไง ถ้าเหรียญนี้ไม่ได้นำเสนออะไรที่ใหม่ๆ ให้โยนทิ้งได้เลย เพราะในเมื่อในตลาดมันมีอยู่แล้ว มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ของซ้ำๆเดิมๆจะมาทำรายได้หรือมีอนาคต
  • อย่าหลงเชื่อคำกล่าวอ้างว่ามีคนดัง ที่น่าเชื่อถือเป็นผู้พัฒนาและเป็นเจ้าของ หรือใช้เทคโนโลยี Blockchain เหมือนเหรียญอื่นๆ ให้ศึกษาและพิสูจน์ด้วยตัวเองก่อนว่าคนดังเหล่านี้น่าเชื่อถือจริงแน่ๆนะ และ Blockchain นี้มันย้อมแมวหรือเหล่า
  • ถ้าเข้าเว็บไซต์ Coinmarketcap.com  แล้วไม่เจอชื่อเหรียญนี้ ก็ควรจะคิดทบทวนซ้ำๆก่อนลงทุนแล้วล่ะครับว่าจะเสี่ยงกับเหรียญนี้หรือไม่ เพราะเว็บนี้คือเว็บที่รวบรวมข้อมูลอย่างละเอียดถี่ถ้วนทั้ง Market Cap และ Daily Trade Volume ของแต่ละเหรียญ ถ้ามาอยู่ในเว็บนี้แล้ว แปลว่าต้องมีความน่าเชื่อถือในระดับหนึ่ง



เว็บ BadBitcoin.org เป็นที่รวมเว็บไซต์หรือเหรียญที่หลอกลวงชาวบ้านไว้โดยเป็นฝีมือของผู้ใช้งานทั่วไปในวงการ Cryptocurrency ที่ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ถ้ามีชื่ออยู่ในเว็บนี้ก็ให้ระวังตัวไว้ให้มากยิ่งขึ้น

 

ทุกวันนี้เทคโนโลยีก้าวไปไกลมากขึ้น เมื่อมีทั้งการเกิดขึ้นมาของ Bitcoin, Blockchain หรือ Cryptocurrency ตัวอื่นๆมากมาย ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ก็ทำเงินได้อย่างมหาศาล ทำให้เป็นสิ่งที่ดึงดูดคนที่ชอบฉวยโอกาสจากความไม่รู้ ความประมาท และความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของคน เพื่อหาประโยชน์เข้าตัวเอง หลังจากอ่านบทความนี้จบ ผู้เขียนเชื่อว่าผู้อ่าน จะสามารถตื่นตัวในการระมัดระวังแชร์ลูกโซ่และการหลอกลวงที่ใช้การลงทุนบิทคอยน์ หรือ Cryptocurrency มาบังหน้าได้มากขึ้น เพื่อลดโอกาสการโดนหลอกและทำให้สังคมของ Cryptocurrency เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้และสังคมแห่งความเป็นไปได้ของเทคโนโลยีแห่งอนาคตนี้ สืบต่อไป



Credit: https://australianfintech.com.au , https://siamblockchain.com

 

10 เรื่องราวของ “บิทคอยน์” ที่หลายคนอาจไม่รู้

ในช่วงนี้ กระแสของบิทคอยน์ กำลังมาแรงและเป็นที่กล่าวถึงกันในหลายวงการด้วยกันไม่ว่า จะเป็นวงการทางเศรษฐกิจ การเงิน การธนาคาร รวมทั้งการลงทุน ซึ่งต่างก็ให้ความสนใจใน บิทคอยน์ แต่ก็ยังไม่ทราบถึงข้อเท็จจริง ตลอดจนเรื่องราวต่างๆ ของบิทคอยน์ ดีนัก

ดังนั้นในวันนี้ เราจึงขอนำเสนอ เรื่องราวข้อเท็จจริงของ เงินดิจิตอลที่เรียกว่า “บิทคอยน์” กัน

 

เรื่องจริงข้อที่ 1: ผู้ให้กำเนิดบิทคอยน์

ผู้ให้กำเนิดบิทคอยน์

Satoshi Nakamoto คือ ชื่อบุคคล (หรืออาจเป็นของกลุ่มคน) ผู้ที่ก่อตั้งบิทคอยน์เป็นคนแรกของโลก ในปี 2009 เชื่อกันว่า Nakamoto อาจจะมีบิทคอยน์อยู่ประมาณ 1 ล้านบิทคอยน์ หรือมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท แต่อย่างไรก็ตามนั้น ไม่มีใครรู้ว่า ตัวตนที่แท้จริงของ Satoshi Nakamoto นั้นเป็นใครกัน บางทีอาจจะเป็นแค่ชื่อสมมติก็อาจเป็นได้ มีทฤษฎีอื่นอีกว่าบริษัทอิเลคทรอนิคส์ คือ โตชิบา ซัมซุง นากามิชิ และโมโตโลร่า คือ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังของการสร้างบิทคอยน์ (หรืออาจจะเป็นแค่เรื่องโจ๊ก พูดเล่นกันเท่านั้น ) ถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถยืนยันได้แน่นอน จนกลายมาเป็นปริศนาถึงวันนี้

 

เรื่องจริงข้อที่ 2: WikiLeaks

-บริษัท WikiLeaks ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2006 ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่เอาข่าวฉ้อฉลภายในของรัฐบาลอเมริกา ออกมาตีแผ่ผ่านเว็บไซต์ พวกเขาหาเลี้ยงชีพด้วยการรับเงินบริจาคเท่านั้น  WikiLeaks นั้นพึ่งพาบิทคอยน์เป็นอย่างมากในการดำเนินงาน โดยมีการรับบริจาคเงินผ่านบิทคอยน์ เนื่องจากสถาบันการเงินที่อื่นๆ ปฏิเสธที่จะร่วมทำธุรกรรมกับ WikiLeaks

ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ผู้ก่อตั้ง WikiLeaks  ได้ขอบคุณรัฐบาลอเมริกาที่มาบล็อกบัญชีธนาคารของพวกเขา รวมถึงโพสภาพกราฟของราคา Bitcoin ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2010 และ 14 ตุลาคม 2017 โดยทางผู้ก่อตั้ง WikiLeaks กล่าวว่าทางพวกเขาได้หันมาพึ่งพิง Cryptocurrency หลังจากที่ถูกรัฐบาลเล่นไม่ซื่อกับพวกเขา ทำให้พวกเขามีกำไรไปประมาณ 50,000%

 

เรื่องจริงข้อที่ 3: การแบนการใช้บิทคอยน์

– เดือน ก.ค. ปี 2013 ประเทศไทย เป็นประเทศแรกในโลกที่มีการสั่งแบนและสั่งห้ามการใช้เงินบิทคอยน์ แต่หลังจากนั้นก็ได้มีการอนุญาตให้มีการใช้กันได้ในเวลาต่อมา

– รัฐบาลจีนสั่งห้ามธนาคารทำการค้าขายหรือแลกเปลี่ยนบิทคอยน์ ในปี 2013 แต่ยังอนุญาตให้เอกชนนั้นทำธุรกิจเกี่ยวกับบิทคอยน์ได้
– กระทรวงการคลังของอเมริกาสั่งปิดบริษัทที่ผลิตเครื่องมือที่เกี่ยวกับเงินบิทคอยน์ไปจำนวนหนึ่ง

เรื่องจริงข้อที่ 4: เงินบิทคอยน์ และ Silk Road 


– ในเว็บไซต์ของขาย Silk Road ใช้เงินบิทคอยน์เป็นตัวกลางในการซื้อขายสินค้าที่ผิดกฎหมายต่างๆ  เช่น ยาเสพติด และสารตั้งต้นชนิดต่างๆ ดังนั้นเมื่อเจ้าของเว็บไซต์ Silk Road ได้ถูกจับกุมและยึดทรัพย์ จึงเชื่อได้ว่า ยังมีเงินบิทคอยน์อีกมากกว่าครึ่งถูกซ่อนไว้

 

เรื่องจริงข้อที่ 5: มูลค่ารวมของบิทคอยน์

– เดือน พ.ย. ปี 2011 บิทคอยน์ มีมูลค่าประมาณ 60 บาท แต่หลังจากนั้น 2 ปี คือ ปี 2013 บิทคอยน์ มีมูลค่าเพิ่มขึ้นคือ มากกว่า 30,000 บาท ปัจจุบัน ปี 2017  1 บิทคอยน์ ราคา พุ่งสูงสุดที่ 255,000 บาท

– ในช่วงนี้ บิทคอยน์มีมูลค่ามากกว่าทองคำ หลายเท่า

– ตู้เอทีเอ็มที่สามารถถอนเงินได้จริงจากบิทคอยน์เครื่องแรกของโลก ตั้งอยู่ที่เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา

 

 

เรื่องจริงข้อที่ 6: เงินบิทคอยน์มีจำนวนจำกัด


– เงินบิทคอยน์มีจำนวนจำกัด 21 ล้านบิทคอยน์

– จำนวนบิทคอยน์ที่ขุดได้จะลดลงครึ่งหนึ่ง ทุก 4 ปี และ ค่าความยากในการขุด (Difficulties) เพิ่มมากขึ้นด้วย

– ในปี 2140 คาดว่า จะไม่สามารถขุดบิทคอยน์ได้อีกต่อไป แต่จะยังได้รับการค่าธรรมเนียมจากธุรกรรมของบิทคอยน์ที่มีอยู่ต่อไป

– ทุกวันนี้ประมาณ 64% ของบิทคอยน์ที่อยู่ในระบบนั้นไม่ได้ถูกนำมาใช้

 

เรื่องจริงข้อที่ 7: ข้อมูลของบิทคอยน์

– เป็นเงินดิจิตอล ผู้ถือเงินไม่มีโอกาสได้สัมผัสรูปร่างหน้าตาว่า บิทคอยน์ เป็นยังไง นอกจากเป็นกระแสของอิเล็กทรอนิคส์ ในคอมพิวเตอร์และเครื่องมืออิเลคทรอนิคส์เท่านั้น
– ยังไม่มีสถาบันทางการเงินใดๆ เข้ามาควบคุมได้ ดังนั้นมูลค่าของบิทคอยน์จึงขึ้นอยู่กับปริมาณดีมานด์และซัพพลายล้วนๆ

 

เรื่องจริงข้อที่ 8: ซื้อสินค้าด้วยบิทคอยน์


– Virgin Galactic ของเซอร์ริชาร์ด แบรนด์สัน รับเงินบิทคอยน์ ในการจองเที่ยวบินไปยังอวกาศ ที่กำลังจะมาถึงในอนาคตนี้
– รถยนต์ยี่ห้อแลมโบกินี่ เป็นยี่ห้อแรก ที่รับเงินบิทคอยน์

 

เรื่องจริงข้อที่ 9: ปริมาณของบิทคอยน์


– เงินบิทคอยน์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันนั้น ได้มาจากกระบวนการขุดบิทคอยน์ โดยผ่านการประมวลผลของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ขึ้น
– พลังของการประมวลผลคอมพิวเตอร์ที่ขุดบิทคอยน์ทั้งหมดรวมกันมีมากกว่า ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์รวมกัน 500 เครื่อง

 

เรื่องจริงข้อที่ 10: เงินบิทคอยน์และการล้มลาย


– ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2014 Mt Gox โบรกเกอร์ชื่อดังของบิทคอยน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในขณะนั้นถูกโจรกรรมข้อมูลไป และขาดทุนไปเกือบ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ จนทำให้ต้องประกาศล้มละลายลงในที่สุด
ทั้งหมดนี้คือ 10 เรื่องราวข้อเท็จจริงของบิทคอยน์ที่คุณควรจะทราบ ดังนั้น ก่อนที่คุณจะเริ่มลงทุนในสิ่งใด รวมทั้งบิทคอยน์ก็ตาม ควรคำนึงถึงประโยคนี้เป็นอันดับแรก “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน” แล้วสุดท้าย การลงทุนในบิทคอยน์ก็จะเป็นไปได้ด้วยดี




10 เว็บเทรด Bitcoin ที่มีการซื้อขายสูง ที่อาจทำให้คุณรวย!!

เว็บเทรด Bitcoin เพื่อซื้อขายแลกเปลี่ยนเหรียญผุดขึ้นมามากมายทั่วโลก สำหรับมือใหม่หลายคน ไม่รู้จะเลือกเทรดบิทคอยน์ที่ไหนดี?? การเลือกเว็บเทรดบิทคอยน์ที่ดีนั้น จะมีผลต่อการเทรดของคุณอย่างมาก มันอาจจะเป็นตัวชี้วัดในการทำกำไรในอนาคตของคุณเลยก็ว่าได้ ในโลกออนไลน์มีเว็บเทรดจำนวนมากก็จริง แต่เว็บเทรดที่น่าเชื่อถือ และมีปริมาณการซื้อขายสูงมีอยู่ไม่กี่เจ้า

>>>อ่านต่อ ที่นี่<<<




เศรษฐกิจขาลง แล้ว บิทคอยน์ ทำไมถึงอยู่ในช่วงขาขึ้น

บิทคอยน์

เศรษฐกิจขาลง แล้ว บิทคอยน์ ทำไมถึงอยู่ในช่วงขาขึ้น

พูดถึงเรื่องเศรษฐกิจในตอนนี้ ใครๆก็นึกถึงเงินมาก่อนเป็นอันดับแรก เงินเท่านั้นที่จะช่วยบันดาลทุกสิ่งทุกอย่างตรงหน้าให้เกิดขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกได้ งานนี้บอกเลยว่า สกุลเงินอย่าง Bitcoin กำลังเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ

บางคนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อเจ้าสกุลเงินบิทคอยน์นี้มาก่อน เพราะจะรู้จักกันแค่สาวกที่ชอบนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์เท่านั้น เป็นเงินสำหรับการใช้จ่ายสำหรับกลุ่มที่ซื้อขายอะไรผ่านทางคอมพิวเตอร์ หรือผ่านแอพพลิเคชั่นกันบ่อยๆ ซึ่งดูเหมือนว่ามันจะกลายเป็นแค่ของเล่นในหน้าจอเท่านั้น ไม่อาจจะที่เอาออกมาทำให้กลายเป็นจริงๆ ใช้จริงๆได้เลย

เพราะอีกปัจจัยหนึ่งก็คือ สกลุเงิน “บิทคอยน์” ที่โลดแล่นอยู่ตามหน้าจอคอมพิวเตอร์ ไม่ได้ถูกดูแลด้วยรัฐบาล ไม่ได้ถูกดูแลด้วยธนาคารกลาง หรือมีความเป็นทางการตามกฎหมายใดใดเลย แต่ใครจะรู้ถึงอนาคตได้ว่าในเวลาต่อมา เงิน “บิทคอยน์” นั้นจะมีค่าพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจที่กำลังอยู่ในช่วงขาลง

          ราคาบิทคอยน์ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2560 อยู่ที่ 7,436 ดอลล่าร์  หรือ 1 บิทคอยน์ เท่ากับ 245,000 บาท

            และเมื่อมีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นเหตุการณ์ที่โปรแกรมเมอร์ชาวอเมริกัน ได้ทดลองซื้อพิซซ่า 2 ถาด ด้วยเงินบิทคอยน์ ในตอนนั้นด้วยราคาถูกจำนวน 10,000 บิทคอยน์ แต่ปรากฏว่าในตอนนี้ มันมีมูลค่ามากกว่า 74 ล้าน ดอลล่าร์ไปแล้ว ซึ่งการซื้อขายไม่ว่าจะเป็นการซื้อตั๋ว ซื้อสินค้า ซื้ออาหาร ผ่านเว็บไซต์ ทางธุรกิจใหญ่ๆของแต่ละองค์กรที่ทำการซื้อขายในตอนนี้ ตัวอย่างเช่นร้านอาหาร เว็บไซต์สำหรับจองตั๋วในการเดินทาง หรือการซื้อขาย Microsoft หรืออาจจะเป็น App อะไรต่างๆนานาที่จำเป็นต้องใช้และมันสะดวกที่จะใช้กระเป๋าเงินดิจิตอลอย่าง Bitcoin หันมาให้การยอมรับ “บิทคอยน์” กันมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ถึงแม้ว่ามันอาจจะเป็นสกุลเงินที่ดูไม่มั่นคงมากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนบางกลุ่มที่อยู่ในช่วงเศรษฐกิจขาลงได้ดีทีเดียว และกำลังสร้างความมั่นคงให้เป็นทางเลือกสำหรับผู้อื่นได้มากยิ่งขึ้น

 

มองและให้คุณค่า กับ “บิทคอยน์”

เชื่อหรือไม่ว่าในสมัยก่อนนั้น เจ้าเงินตรานี่ก็คือเหล่าใบไม้และเปลือกหอย รวมไปถึงแร่ธาตุต่างๆที่เราให้คุณค่ามันเพียงเพราะว่ามันมีคุณสมบัติที่เด่น เงินบิทคอยน์ก็เช่นเดียวกัน แม้มันอาจจะเป็นเงินดิจิตอลที่ไม่สามารถจับต้องเป็นตัวเงินได้ แต่การมองว่าบิทคอยน์เป็นเงินก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร และด้วยความที่มันคือเงินที่อยู่ในระบบดิจิตอล ผู้คนจึงมักกังวลในเรื่องของการ Hack ข้อมูลกันมาก

เพราะนั่นหมายความว่ากระเป๋าเงินแบบดิจิตอลของคุณก็อาจจะถูกขโมยออกไปได้ง่ายๆด้วย อีกทั้งความผันผวนที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ ทำให้บิทคอยน์ยังคงต้องพัฒนามากขึ้นอีกเยอะ ยังไงก็ยังคงไม่ได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็วแน่นอน ยังต้องแพ้สกุลเงินหลักๆอยู่ดี แต่ในอนาคตนั้นไม่แน่ เพราะเมื่อมันมีการพัฒนา ก็อาจจะทำให้บิทคอยน์กลายเป็นตัวเลือกที่ดีได้ไม่ยากเลย แล้วเงินดิจิตอลอย่างบิทคอยน์ จะมีการเปลี่ยนแปลง ได้รับผลกระทบมากขึ้นอันเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ลง ซึ่งผลกระทบเหล่านั้นแม้จะเป็นความพังของเศรษฐกิจ แต่เจ้าตัวบิทคอยน์ เองกลับถูกให้ค่ามากยิ่งขึ้น


ปัญหาเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อราคาบิทคอยน์ (Bitcoin)

ประเทศเวเนซุเอลา จากคำบอกกล่าวของคนกลุ่มหนึ่งที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในเวเนซุเอลาที่กำลังอยู่ในช่วงขาลงสุดๆ ดูเหมือนว่าช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่บ้านเมืองหมดหนทางไป เหมือนกำลังจะพังพินาศลงอย่างไม่เป็นท่า ผู้คนออกหาอาหารรับประทานแต่อาหารก็มีไม่เพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ต การออกจากบ้านในช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ตกดินกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อและน่ากลัว เงินเฟ้อสูงมากแบบที่ไม่น่าเกิดขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้อัตราและเปลี่ยนสกุลเงินในตอนนั้นก็คือ 1 ดอลล่าร์สหรัฐต่อ 6000 โบลิวาร์ของเวเนซุเอลาไปในทันที ดูจำนวนการแลกเปลี่ยนก็โหดอยู่พอสมควร ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับชาวเวเนซุเอลามากขึ้นเมื่อผู้คนหันมาใช้บิทคอยน์กันมากขึ้น จากผู้ใช้ที่อยู่ในหลักร้อยเท่านั้น เพียงในเวลาไม่นานที่เกิดความพังพินาศของเงินเฟ้อ ยอดผู้ใช้บิทคอยน์ ก็พุ่งสูงขึ้นในหลักแสน นั่นเป็นเพราะว่าพวกเขาก็เริ่มหมดความน่าเชื่อถือสกุลเงินของพวกเขาเสียแล้ว

ไม่ว่าภาวะเงินเฟ้อของเวเนซุเอลานี้จะเกิดขึ้นด้วยเหตุใด แต่ผลของมันกลายเป็นความพังพินาศของใครหลายคนที่กำลังใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินใดใดก็ตามที่มีอยู่ ก็แทบไม่มีค่าจนต้องถอนออกจากสกุลเงินโบลิวาร์เวเนซุเอลา และถึงแม้ว่าจะสามารถแลกเป็นเงินดอลล่าร์สหรัฐได้ แต่ก็ไม่ปลอดภัยเลยกับการที่ต้องซ่อนเอาไว้กับตัวหรือที่อยู่อาศัย เพราะใครๆต่างก็ต้องการมากขึ้น สำหรับคนที่มีความสามารถในการใช้เงินบิทคอยน์มากหน่อยก็เพียงแค่แลกเป็นเงินบิทคอยน์เพื่อสั่งซื้อของใช้มากขึ้นด้วย แต่ถ้ามีเพื่อนบ้าน มีญาติ ก็ยังสามารถฝากโอนบิทคอยน์เพื่อให้ญาติสั่งซื้อทั้งสินค้าและอาหารส่งมาให้ได้ แต่ก็คงไม่ใช่ทั้งหมด เพราะสำหรับคนที่ไม่มีความรู้ความสามารถทางดิจิตอลมากนัก ก็คงต้องทนทุกข์อยู่ไม่น้อยเมื่อพบเจอกับภาวะลุกเป็นไฟขนาดนี้

เหตุการณ์ต่างๆเหล่านี้ ระหว่างที่รอรัฐกำลังแก้ไขปัญหา พวกเขาประชาชนคนธรรมดาก็ยังต้องดิ้นรนให้ตัวเองพ้นจากไฟที่กำลังสุมเวเนซุเอลาอยู่ บิทคอยน์ ก็เลยเป็นตัวดึงดูดให้คนหันเข้ามาให้ความสนใจและใช้กันมากขึ้น ในขณะที่บิทคอยน์ชนะสกุลเงินหลักของประเทศ การจับจ่ายใช้สอยก็ยากขึ้น การเก็บทรัพย์สินในรูปแบบที่เคยเป็นก็เปลี่ยนไป เพราะอย่างไรการเอาตัวรอดของประชาชนก็คงต้องแลกเงินที่มีอยู่ให้เป็นบิทคอยน์เสียยังดีกว่าเก็บแผ่นกระดาษที่ไม่มีค่าเอาไว้ในมือ มันทำให้บิทคอยน์ เป็นเหมือนฮีโร่ของเวเนซุเอลาไปแล้วในขณะนั้น และภายในอนาคต เราไม่อาจรู้ได้ว่าสกุลเงินอย่างบิทคอยน์ นั้นจะสามารถขึ้นมาเป็นสกุลเงินที่มีผู้ใช้มากที่สุดในเวเนซุเอลาหรือไม่ แต่ในตอนนั้นก็คงได้รับการยอมรับมากยิ่งขึ้น และอาจจะนำหน้าสกุลเงินปกติของเวเนซุเอลาได้ด้วย

ประเทศซิมบับเว  วิกฤตของประเทศซิมบับเวที่กำลังพบเจออยู่ในขณะนี้ก็ไม่น้อยเลยทีเดียว เมื่อประเทศนั้นขาดอาหาร ขาดน้ำมัน ขาดยารักษาโรค ซึ่งมันก็คือปัจจัยหลักในการดำเนินชีวิต การสะสมเงินอาจจะไม่ใช่ทางออกสำหรับพวกเขาแล้วในประเทศซิมบับเว เพราะเงินสกุลหลักก็สูญเสียค่าของตัวเองไปแล้ว ใครๆต่างก็เริ่มหันมาสะสมข้าวของ อาหาร กักตุนน้ำมันกันมากยิ่งขึ้น และเจ้าทรัพย์สินดิจิตอลอย่าง บิทคอยน์ (Bitcoin) ก็กลายเป็นของสะสมหนึ่งของชาวซิมบับเวในช่วงที่ขาดอาหารขาดสินค้าแบบนี้ เพราะอย่างไรมันก็มีประโยชน์ในการสั่งซื้อสินค้าอย่างอาหารและสินค้าที่มีความจำเป็นอื่นๆมากักตุนไว้ได้

ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ของซิมบับเวก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงข้อดีของบิทคอยน์ ซึ่งนั่นก็คือมันเป็นเงินที่ไม่สามารถย่อยสลายไปตามกาลเวลาได้ ไม่เหมือนเงินที่อยู่ในรูปของธนบัตร ที่สามารถเสื่อมสภาพและย่อยสลายได้ไปตามกาลเวลา เมื่อเงินมาอยู่ในรูปของบิทคอยน์แล้ว การซื้อขายหรือว่าทำธุรกรรมใดใดก็จะง่ายแสนง่ายมากขึ้น อีกทั้งผู้ให้บริการอย่าง Bitmari นั้นก็เป็นบริการที่เข้าถึงได้ง่ายสำหรับคนใช้บิทคอยน์ แถมยังมีค่าบริการที่ถูกมากอีกด้วย คุณสมบัติทั้งความถูกของค่าบริการและความรวดเร็วของ Bitcoin ทำให้มันพัฒนาและเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย คราวนี้ก็จะมีคนหันมาใช้งานกันมากขึ้นอย่างแน่นอน

ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศซิมบับเวยังคงต้องใช้ระยะเวลานานในการแก้ไขปัญหา และในช่วงระหว่างการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลนี้ ประชาชนที่กำลังประสบปัญหาด้วยตัวเองก็ยังต้องดิ้นรนด้วยตัวเองกันต่อไป ซึ่งบางวิธีนั้นก็อาจจะช่วยแก้ปัญหาไปได้บ้าง อย่างเช่นการแลกเงินเป็นสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐเพื่อให้สามารถใช้ได้จริง การซื้อพันธบัตรของรัฐบาลที่จำเป็นจะต้องซื้อเพื่อความอยู่รอด แต่ดูเหมือนว่าประชาชนที่กำลังประสบปัญหาส่วนหนึ่งนั้นก็หันมาใช้ บิทคอยน์ (Bitcoin) กันมากยิ่งขึ้นด้วย เพราะเมื่อดูจากปัญหาเศรษฐกิจแล้ว “บิทคอยน์” ก็เป็นทางเลือกที่ดีมากเช่นเดียวกันในภาวะที่เศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาลงสุดๆแบบนี้

5 เว็บไซต์ซื้อขาย Bitcoin ในไทย มือใหม่ห้ามพลาด!

ถูกถามกันมาเยอะมาก ว่า ซื้อบิทคอยน์ ได้ที่ไหน และเว็บไหนน่าเชื่อถือ ? วันนี้เราจะพาคุณ ไปรีวิวกับ 5 เว็บไซต์ซื้อขาย Bitcoin ในไทย ที่คุณเป็นสมาชิกได้เลย ทันที ฟรีค่ะ!! ถ้าคุณกำลังมองหาแหล่งซื้อขายเงินบิทคอยน์ วันนี้เรามีบทความที่จะพาคุณไปทำความรู้จัก กับ 5 เว็บไซต์ซื้อขาย Bitcoin ในไทย ที่คุณเป็นสมาชิกได้ทันทีค่ะ!

>>>อ่านต่อ ที่นี่<<<




Top 10 Bitcoin Wallets กระเป๋าสตางค์บิทคอยน์  ที่มือใหม่ควรทำความรู้จัก

กระเป๋าสตางค์บิทคอยน์เมื่อพูดถึง บิทคอยน์ หรือสกุลเงินดิจิทัล นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักสกุลเงินดิจิตัลที่ว่านี้ จุดเด่นของ บิทคอยน์ นั่นก็คือ สามารถโอนเงินให้กันได้อย่างง่ายดาย โดยไม่มีตัวกลาง โอนได้ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ หรือผ่านเครือข่ายของบิทคอยน์เอง แต่ก่อนจะใช้รับหรือส่งบิทคอยน์ได้ เราคงต้องมี กระเป๋าสตางค์บิทคอยน์ เสียก่อน

 

อะไรคือสิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาในการเลือก กระเป๋าสตางค์บิทคอยน์ ?

 

สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณา ในการเลือกใช้กระเป๋าสตางค์ บิทคอยน์ นั่นควรประกอบไปด้วย ชื่อเสียงของบริษัท, โปรแกรมที่บริษัทนำมาใช้ (Open Source หรือซอฟท์แวร์ควรเปิดเผยแหล่งที่มาของเทคโนโลยี) ความปลอดภัย, การรักษาความเป็นส่วนตัวของลูกค้า, บัญชี ฟีเจอร์รองรับหลายลายเซ็น (MultiSig), ฟีเจอร์สำหรับสำรองข้อมูล (Backup features) และการเข้าถึงข้อมูลทางเว็บไซต์ (Web Platform Availability)

 

วันนี้เราจะพา มาทำความรู้จักกับกระเป๋าสตางค์บิทคอยน์ Bitcoin Wallets 10 อันดับยอดนิยมในปี 2560 กัน

 

1. Mycelium

Mycelium เป็นกระเป๋าสตางค์ที่นิยมใช้มากที่สุดบน Android เนื่องจากใช้งานในการรับและจ่ายบิทคอยน์ได้ง่าย มีการสอนวิธีการสำรองข้อมูลหรือการแบคอัพไว้อย่างละเอียด

 

2Copay

Copay เป็นกระเป๋าสตางค์บิทคอยน์ อีกแบบที่ช่วยรักษาความปลอดภัยให้เงินทุนส่วนตัวของคุณ ด้วยการใช้หลายลายเซ็นหรือแค่ลายเซ็นเดียวก็ได้ รองรับโปรโตคอลการชำระเงินด้วยบิทคอยน์อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งมีความปลอดภัยสูงมาก ปัจจุบันนี้ Copay มีอยู่ใน ios stores , Google Play, Windows Store

 

3. Armory

Armory เป็นกระเป๋าสตางค์ที่ปลอดภัยและมีลูกเล่นครบถ้วนที่สุดสำหรับผู้ใช้งาน สามารถออกและเก็บ private key ของบิทคอยน์ ได้

 

4. Breadwallet

เราเห็นว่า breadwallet และ Copay  เป็นกระเป๋าบิทคอยน์ที่ดีที่สุดสำหรับ iPhone เพราะป็น open source และให้อำนาจแก่ผู้ใช้เต็มที่ในการควบคุมกุญแจส่วนตัวของตน นอกจากนี้แล้วดีไซน์ยังดูสะอาดตา ทำให้การรับส่งบิทคอยน์เป็นเรื่องง่าย

 

5. Electrum

Electrum เป็นโปรแกรมกระเป๋าสตางค์บิทคอยน์สำหรับ Mac, Linux และ Windows ตัวโปรแกรมขนาดเล็กไม่หนักเครื่อง Electrum เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2011 ฟีเจอร์หลักของโปรแกรมได้แก่ การรองรับกระเป๋าฮาร์ดแวร์ (เช่น TREZOR, Ledger Nano และ KeepKey) และการจัดเก็บบิทคอยน์อย่างปลอดภัยไว้ในคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้เชื่อมต่อออนไลน์ Electrum เป็นตัวเลือกที่ดีไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือผู้ใช้ที่มีความชำนาญ

 

6. MultiBit

MultiBit HD เป็นผลิตภัณฑ์ของ KeepKey บริษัทผลิตกระเป๋าสตางค์บิทคอยน์แบบฮาร์ดแวร์  สามารถเชื่อมต่อกับเดสก์ท็อป (desktop)ได้โดยตรงเช่นเดียวกับ Breadwallet  ช่วยให้คุณสำรองข้อมูล (backup) ในกระเป๋าสตางค์ได้ง่าย

 

7. AirBitz

Airbitz กระเป๋าสตางค์สำหรับ iPhone และ Android ที่ใช้ง่ายด้วยดีไซน์หน้าล็อกอินที่คุ้นตา ทำให้ผู้ใช้บิทคอยน์มือใหม่เข้าถึงได้ง่าย แอพกระเป๋าสตางค์จะสร้างแบคอัพสำรองข้อมูลโดยอัตโนมัติ ตัดปัญหาความยุ่งยากในการต้องทำแบคอัพด้วยตนเอง

 

8. Blockchain.info

Blockchain.info มีชื่อเสียงจากบริการ Blockchain explorer แต่ก็ให้บริการกระเป๋าสตางค์ด้วย เป็นอีกกระเป๋าสตางค์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย

 

9. Trezor Wallet

TREZOR เปิดตัวเดือนสิงหาคม 2014 โดยถือเป็นกระเป๋าฮาร์ดแวร์ ตัวแรกที่นำเสนอการจัดเก็บบิทคอยน์อย่างปลอดภัย พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานแบบ hot wallet อุปกรณ์ TREZOR มีขนาดเล็ก หน้าตาคล้ายอุปกรณ์ธัมป์ไดรฟ์ USB.

 

10. Coinbase

Coinbase เป็นบริการแลกเปลี่ยนบิทคอยน์ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ในอเมริกา และใช้กันทั่วโลก ซึ่งนำเสนอกระเป๋าสตางค์ที่ใช้งานบนเว็บไซต์และอุปกรณ์พกพา Coinbase มีความยืดหยุ่นมากกว่า Bitcoin.info เพราะอนุญาตให้ผู้ใช้งานจัดการ Private Key ของตัวเอง อีกทั้งยังรองรับกระเป๋าสตางค์ที่ใช้หลายลายเซ็น

รวบรวม กระเป๋าบิทคอยน์ ประเภทต่าง ๆที่คุณควรรู้

ก่อนจะเริ่มใช้บิทคอยน์ หรือเหรียญดิจิตอลอื่นๆ เราต้องมี กระเป๋าบิทคอยน์ (wallet) เสียก่อน เพราะ ถ้าไม่มีกระเป๋าบิทคอยน์ เราก็จะไม่สามารถรับ เก็บ หรือใช้บิทคอยน์ได้ กระเป๋าสตางค์บิทคอยน์เปรียบเสมือนตัวกลางที่เชื่อมระหว่างเรากับระบบบิทคอยน์ เช่นเดียวกับการที่หน้าเว็บธนาคารเป็นตัวกลางเชื่อมไปสู่ระบบการเงิน

>>>อ่านต่อ ที่นี่<<<




Credit: https://atozforex.com/news/top-10-bitcoin-wallets-2017/, www.krungsrifinnovate.com ,

มาดู วิธีใช้งาน กับ bx.in.th เว็บเทรดเหรียญอันดับ 1 ในเมืองไทย

หลังจากที่เราได้ทำความรู้จักกับ Bitcoin และ วิธีสมัครใช้งาน ฺBX เว็บเทรดเหรียญ อย่างง่ายใน ตอนที่ 1 แล้ว วันนี้จะพาทุกท่านมาสู่ขั้นตอนต่อไปในตอนที่ 2 นั่นเอง นั่นคือ การยืนยันตัวตนกับ bx.in.th

 

เนื่องจากการเทรดไม่ว่าจะเป็น หุ้น ทอง ค่าเงิน หรือ แม้กระทั่ง Cryptocurrency ทั้งหมดเป็นเรื่องของเงินๆทองๆ และความปลอดภัย การยืนยันตัวตนกับระบบก่อนที่จะเริ่มซื้อขายนั้นถือเป็นเรื่องจำเป็นเป็นอย่างมาก ฉนั้นมาเริ่มกันเลยสำหรับการยืนยันตัวตนกับ bx.in.th

 

1. เข้าสู่ระบบของ bx.in.th (อย่าลืมเปลี่ยน Password  ที่ระบบสร้างมาให้นะจ๊ะ เพื่อให้ง่ายต่อการจำ)

 

 

2. กดปุ่ม My funds  และกด Deposit ระบบจะพาเข้าสู่หน้ากรอกข้อมูล และแนบหลักฐานการยืนยันตัวตนโดยอัติโนมัติ

โดยการกรอกข้อมูลก็จะเป็นข้อมูลทั่วไปเช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หมายเลขบัตรประชาชน หรือ หมายเลขหนังสือเดินทาง (Passport)

และนอกจากนั้น เรายังต้องสแกนหรือ ถ่ายภาพประชาชน และ Selfie บัตรปะชาชน กับกระดาษที่เขียนว่า bx.in.th พร้อมลายเซ็นต์ด้วยน๊ะจ๊ะ (และคำเตือนที่ขึ้นอยู่หน้าเว็บว่าการอัพโหลดหลักฐานปลอมอาจทำให้เกิดการ Ban ออกจากระบบถาวร!) เมื่อข้อมูลและหลักฐานการยืนยันตัวตนครบแล้วก็สามารถกด Upload ได้เลย!

*** เมื่อระบบ Confirm แล้ว จะขึ้นหน้านี้ ***

***** ไม่ต้องกด Cancel Verification นะ เพราะไม่งั้นต้องทำการ Verify ใหม่ ****

3. รอการตรวจสอบเอกสารการยืนยันตัวตนจากทีมงาน

(ระบบหน้าเว็บไม่ได้บอกแหะ ว่าต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ในการตรวจสอบ สำหรับผู้เขียนใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ก็มีการแจ้งตอบกลับมา ว่ายังไม่อนุมัติ เพราะรูปถ่ายไม่ชัด เลยต้องทำการแนบส่งไปใหม่ จากนั้นไม่ถึง ชั่วโมง ก็ได้รับการอนุมัติ )

 

หลังจากที่ระบบอนุมัติบัญชีให้แล้วเรามาดูกันว่า จะเริ่มฝากเงินอย่างไร เข้าเทรดอย่างไร และระบบของ bx.in.th เป็นอย่างไร ไปดูกัน

 

การฝากเงินเข้ากระเป๋า  เพื่อซื้อ Bitcoin ซึ่งจะสามารถนำเงินเข้าได้หลังจากระบบ Verify เรียบร้อยแล้ว ใช้เวลาไม่นาน  ขั้นตอนมีดังนี้

  1. กด My Funds
  2. กด Deposit
  3. เลือกธนาคาร เพื่อโอนเข้าบัญชี Bx
  4. ใส่จำนวนเงิน
  5. กดปุ่ม Create Deposit 

 6. โอนเงินเข้า Bx ตามจำนวน ที่ระบุไว้ 

 7. ทำการแนบ Slip และ ระบุธนาคาร หมายเลขธนาคาร ที่ใช้โอน

 8. กด Payment Completed 

9. รออนุมัติ ใช้เวลาประมาณ ไม่เกิน 30 นาที

10. เมื่อเงินเข้าระบบแล้ว ในบัญชีของเรา จะเห็นเงินบาทอยู่ในบัญชีขึ้นมาในหน้าต่างมุมบนขวามือตามจำนวนที่โอนเข้าไป

 

ขั้นตอนการซื้อ Bitcoin หรือ เหรียญอื่นๆ ใน BX

  1. คลิก Trading  เพื่อเปิดคำสั่งซื้อ (เราสามารถใส่ เรท ราคาที่เราต้องการ ซื้อได้ ดูเทียบกับ คำสั่ง ซื้อ ขาย ของคนอื่นๆครับ แต่ถ้าต้องการบิทคอยน์เลย ก็ใช้ราคาตลาดซึ่งจะแสดงให้เห็นอัตโนมัติ)
  2. ใส่จำนวนที่ต้องการ แล้ว กด Create Order  เสร็จแล้วรอ คนมา ขายให้เรา

   3. ถ้าสามารถ ซื้อ ได้แล้ว จำนวน BTC จะขึ้นโชว์ตามภาพ

 

ขั้นตอนการโอน Bitcoin

หลังจากที่เรามี Bitcoins 1ในกระเป๋า Bx แล้ว เราสามารถ Transfer ( โอนบิทคอยน์ ) ไปยังบัญชี Bitcoins

ของบุคคลอื่นได้ดังนี้
1. คลิก My Funds > คลิก Withdraw > คลิก Bitcoin
– ใส่จำนวนบิทคอยน์ที่ต้องการส่ง (อย่าลืมเผื่อไว้สำหรับค่าธรรมเนียมที่แสดงด้วย)
– ตรวจสอบที่ Total to Receive ด้วย ว่าตรงตามยอดที่ต้องการโอนไปหรือไม่ (ค่าธรรมเนียมหักจากยอดที่โอนไป)
– คลิก Withdraw


2. ไปคลิกยืนยันการโอนบิทยคอยน์ที่ e-mail ที่ใช้สมัครจากนั้นรอยืนยันการโอนจากระบบ

 

 

เสร็จข้ั้นตอนการโอนบิทคอยน์

รอระบบทำการ Confirm โดยส่วนใหญ่จะใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง (แต่บางครั้งอาจนานถึง 24 ชั่วโมง) ให้เรามั่นเช็คเงินจากกระเป๋าปลายทาง หากมีเงินเข้าบัญชีแล้ว แปลว่าการถอนเงินเรียบร้อยแล้ว

เมื่อศึกษาเกี่ยวกับบิทคอยน์จนเป็นที่เข้าใจดีแล้ว ก็สามารถไปสมัครกระเป๋าบิทคอยน์ ใน Bx.in.th  ได้เลย

[embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=64hq3Ve4JUI[/embedyt]



10 เว็บเทรด Bitcoin ที่มีการซื้อขายสูง ที่อาจทำให้คุณรวย!!

ปัจจุบันมี เว็บเทรด Bitcoin เพื่อซื้อขายแลกเปลี่ยนเหรียญผุดขึ้นมามากมายทั่วโลก สำหรับมือใหม่หลายคน ไม่รู้จะเลือกเทรดบิทคอยน์ที่ไหนดี?? การเลือกเว็บเทรดบิทคอยน์ที่ดีนั้น จะมีผลต่อการเทรดของคุณอย่างมาก มันอาจจะเป็นตัวชี้วัดในการทำกำไรในอนาคตของคุณเลยก็ว่าได้ มีเว็บเทรดจำนวนมากก็จริง แต่เว็บเทรดที่น่าเชื่อถือ และมีปริมาณการซื้อขายสูงมีอยู่ไม่กี่เจ้า

>>>อ่านต่อ ที่นี่<<<

Coinmama: Buy Bitcoins with Credit Card

20  คำถาม บิทคอยน์ Bitcoin สำหรับมือใหม่ มาไขข้อข้องใจกันเลย!

มีคำถามมากมายสำหรับ “มือใหม่” ที่อยากจะเริ่มต้นเล่นบิทคอยน์ Bitcoin แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี อยากลองเล่นบิทคอยน์ ต้องทำอย่างไร? ลงทุนเสี่ยงมากมั้ย? จะได้บิทคอยน์ มีวิธีอย่างไรบ้าง? ขุดบิทคอยน์ ยังไง?

มีหลายคำถามที่หลายคนสงสัย วันนี้เราจะไปไขข้อข้องใจกันเลย!

 

1. บิทคอยน์ Bitcoin คืออะไร และมีที่มาอย่างไร?

บิทคอยน์ เป็นสกุลเงินดิจิตอลที่เกิดขึ้นมาช่วงปี 2008 โดยบุคคลที่ใช้นามแฝงว่า ซาโตชิ นากะโมโตะ  บิทคอยน์ตอนนี้กำลังแพร่หลายไปทั่วโลก นักลงทุน เริ่มหันมาใช้สกุลเงิน บิทคอยน์ Bitcoin เป็นจำนวนมาก อันเนื่องมาจาก มีความรวดเร็วในการโอน  ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมแพง แหมือนการโอนผ่านธนาคาร และที่สำคัญยังปลอดภัยจากการถูกอายัดบัญชีอีกด้วย

 

2. บิทคอยน์ Bitcoin มีจำนวนเท่าไหร่?

บิทคอยน์มีจำนวนจำกัด คือ 21 ล้านเหรียญเท่านั้น ไม่สามารถสร้างขึ้นมาอีกได้ ลดการเกิดภาวะเงินเฟ้อและเสื่อมค่าลงของเงินได้อย่างดี ตอนนี้มีเหรียญที่อยู่ในระบบแล้ว ตอนนี้ BTC ที่ถูกขุดเจอไปแล้วทั้งหมดประมาณ 16,000,000 BTC  ดังนั้นมีอีกจำนวน ประมาณ 5,000,000 BTC ที่ยังสามารถขุดได้

 

3 การขุด บิทคอยน์ Bitcoin ทำเงินได้จริงมั้ย?

จริง การขุด บิทคอยน์  Bitcoin สามารถทำเงินให้กับผู้ขุดได้ โดยเมื่อขุด (Mining) แล้วเราจะได้รับเงินในรูปแบบของ บิทคอยน์ Bitcoin ซึ่งหากเรามีเครื่องขุดที่มีกำลังแรงมากพอ มีการ์ดจอแรงๆ จะสามารถขุด Bitcoin ออกมาได้มากยิ่งขึ้น โดยปกติแล้ว การขุด บิทคอยน์  Bitcoin หากเราใช้เครื่องขุด  เราจะได้รับ Bitcoin ทันทีตั้งแต่เริ่มขุด แต่ถ้าหากคุณเลือกใช้บริการแบบ Cloud Mining คือ เป็นการฝากคนอื่นขุดให้ ผู้ขุดมักจะได้เงินหลังจากขุดผ่านไปแล้ว 1 วัน โดยได้ทุกวัน วันละ 1 ครั้ง

 

4. มีวิธีได้มาซึ่งบิทคอยน์ Bitcoin อย่างไรบ้าง?

มี อยู่ 3 วิธีที่จะได้ บิทคอยน์ มา คือ

  1. ซื้อบิทคอยน์ (แนะนำ 5 เว็บไซต์ซื้อขาย บิทคอยน์ ในไทย หรือ Bx เว็บซื้อขาย บิทคอยน์ อันดับ 1 ในไทย)
  2. ขุดบิทคอยน์เอง (แยกเป็น 2 สาย คือ ขุดเองโดยใช้เครื่องขุด และ Cloud Mining คือ เป็นการฝากบริษัทขุดให้ )
  3. เล่นเกมส์ฟรี

5.การขุดแบบ Cloud Mining คืออะไร

การขุด bitcoin แบบ cloud mining คือการขุดโดยเราเช่ากำลังขุดของบริษัทที่มีเครื่องขุดออกมา และรับเงิน วิธีการนี้ช่วยให้เราประหยัดค่าไฟ และต้นทุนในการขุดมากขึ้น และสะดวกสบายกว่าการขุดเองเยอะมาก เหมืองที่ขุดแบบ Cloud mining ที่ดีที่สุดตอนนี้คือ Genesis-Mining สามารถ คลิกที่นี่ เพื่อศึกษารายละเอียดได้



6. เดี๋ยวนี้ยังมีคนขุดเหมือง Bitcoin อีกมั้ย?  ยังคุ้มอยู่มั้ย??

ยังมีคนสนใจขุด บิทคอยน์ เป็นจำนวนมาก หากเรามีเครื่องขุดที่มีกำลังแรงมากพอ มีการ์ดจอแรงๆ จะสามารถขุด Bitcoin ออกมาได้มากยิ่งขึ้น แต่ด้วยการขุดเหมือง บิทคอยน์ เอง มีต้นทุนการผลิตสูง (ค่าไฟและอุปกรณ์ในการขุดเหมืองราคาแพง) ทำให้การขุดเองในปัจจุบัน ไม่ค่อยคุ้ม หลายคนจึงหันไปใช้บริการ Cloud Mining คือ เป็นการฝากบริษัทขุดให้แทน

 

7. ซื้อบิทคอยน์ ได้ที่ไหนบ้าง?

นักลงทุนน่าใหม่สามารถซื้อบิทคอยน์ได้จาก  5 แหล่ง ชื้อ ขาย Bitcoin ในไทย มีทั้งหมด ดังนี้

ลำดับ ชื่อเว็บไชต์ ข้อมูลเว็บไซต์ ซื้อ Bitcoin ขาย Bitcoin ค่าธรรมเนียม
1 BX.in.th เว็บชื้อขาย Bitcoin No. 1 ของไทยและ มีกระดานเทรดเหมือนหุ้น ซื้อได้ไม่จำกัด ขายได้ไม่จำกัด 0.25%ของการซื้อ ขาย
2 Local Bitcoin  เป็นเว็บที่ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยน Bitcoin ระหว่างกัน ได้ทั่วโลก  ซื้อได้ไม่จำกัด  ขายได้ไม่จำกัด  1% ของการซื้อ ขาย
3 Coin.co.th  เป็นอีกเว็บซื้อ ขาย Bitcoin แต่ไม่มีกระดานเทรด  10 BTC/ วัน 10 BTC/ วัน 1% ของการฝาก ถอน
4 Bitcoin.co.th  ให้บริการซื้อขาย bitcoin มาอย่างนานเป็นบริษัทในเครือเดียวกับ  BX.in.th 50,000 บาท/วัน 50,000 บาท/วัน ไม่มีค่าธรรมเนียม
5 CoinBX.com  เว็บชื้อขาย Bitcoin น้องใหม่ ของไทยและ มีกระดานเทรดเหมือนหุ้น  ซื้อได้ไม่จำกัด ขายได้ไม่จำกัด 0.25%ของการซื้อ ขาย

ทุกเว็บไซต์จะมีกระเป๋า Bitcoin และบางเว็บจะมีหลายกระเป๋า ไว้สำหรับจัดเก็บเหรียญต่างๆๆของเราด้วย

อ่านเพิ่มเติม 5 รายชื่อเว็บไซต์ที่ให้บริการ รับซื้อขายเหรียญ Bitcoin

 

8. กระเป๋าสตางค์ Bitcoin คืออะไร? ใช้งานอย่างไร?

ก่อนจะเริ่มใช้บิทคอยน์ หรือเหรียญดิจิตอลอื่นๆ เราต้องมี กระเป๋าบิทคอยน์ (wallet) เสียก่อน เพราะ ถ้าไม่มีกระเป๋าบิทคอยน์ เราก็จะไม่สามารถรับ เก็บ หรือใช้บิทคอยน์ได้ กระเป๋าสตางค์บิทคอยน์เปรียบเสมือนตัวกลางที่เชื่อมระหว่างเรากับระบบบิทคอยน์ เช่นเดียวกับการที่หน้าเว็บธนาคารเป็นตัวกลางเชื่อมไปสู่ระบบการเงิน

อ่านเพิ่มเติม รวบรวม กระเป๋าบิทคอยน์ ประเภทต่าง ๆที่คุณควรรู้

 

9. เริ่มต้นเล่นบิทคอยน์ยังไงดี? 

ต้องศึกษาให้เข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุนในบิทคอยน์  เมื่อมั่นใจแล้วเลือกวิธีในการได้มาซึ่งบิทคอยน์ ที่เหมาะสม

อ่านข้อมูลต่อได้ที่นี่

 

10. มีอะไรบ้าง สำหรับผู้ที่จะเริ่ม Bitcoin ที่ต้องระวังตัว

สิ่งที่ต้องระวังมากที่สุดคือ ระวังการเข้าร่วมเป็นสมาชิกกับเว็บไซต์ขุด bitcoin ที่ไม่ใช่การขุดบิทคอยน์จริงๆ เพราะเว็บเหล่านี้เปิดมาลักษณะคล้าย Money Game ต้องศึกษาให้ละเอียด โดยดูจากกระทู้ หรือ รีวิวประสบการณ์  ต่างๆ จากผู้เคยใช้งานร่วมด้วย

 

11.ในไทย มีคนเล่นบิทคอยน์เยอะมั้ย?

เริ่มมีคนไทยจำนวนมากเข้าไปซื้อ ขาย บิทคอยน์  สังเกตจาก ที่ BX เว็บอันดับหนึ่งในไทย มีจำนวนผู้ใช้งานจำนวนเพิ่มมากขึ้น

 

12. บิทคอยน์คือแชร์ลูกโซ่รึเปล่า? เชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน

บิทคอยน์ไม่ใช่แชร์ลูกโซ่ มันไม่ใช่การหลอกลวงเพราะทุกคนที่มาลงทุนในบิทคอยน์ เชื่อถือในตัวบิทคอยน์ในระดับหนึ่ง ไม่มีการชักชวนแล้วได้สิทธิประโยชน์เพิ่ม แต่ความน่าเชื่อถือของบิทคอยน์จะไม่เหมือนอะไรที่เราคุ้นเคย เพราะรัฐบาลไทยยังไม่รองรับ แต่ต่างชาติหลายประเทศให้การยอมรับสกุลเงินบิทคอยน์แล้ว

 

13. มีเว็บไหนที่ให้ข้อมูล หรือ รวมตัวกันคุยแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับบิทคอยน์มั้ย

Goalbitcoin.com , Thaicrypto.com , siamblockchain.com , bitcoin club facebook

 

14. ในไทยมีเหมืองบิทคอยน์ ที่ใหญ่ที่สุดมั้ย

มี HashBX.net Cloud Mining เหมืองผลิตเงินบิทคอยน์ที่ใหญ่ที่สุดของไทย เหมืองอยู่ที่อุดรธานี

 

15. บิทคอยน์ (Bitcoin) ผิดกฎหมายไหม ในไทย เป็นที่ยอมรับหรือยัง ?

หลายประเทศยอมรับบิทคอยน์อย่างถูกกฎหมาย อาทิ อเมริกา แคนาดา ยุโรป และญี่ปุ่น เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีผู้ประกอบการหลายรายที่ยอมรับการชำระสินค้าเป็นเงินบิทคอยน์ เช่น ร้านอาหารในญี่ปุ่น และบริษัทดังในอเมริกา

แต่ทางธนาคารแห่งประเทศไทย ยังไม่ยอมรับสกุล Bitcoin และสกุลเงินดิจิตัลทุกชนิด โดยอ้างว่าระบบดังกล่าวไม่ใช่เงินที่แท้จริง และไม่สามารถใช้เงินบิทคอยน์ชำระหนี้ตามกฎหมายไทยได้

 

16.    1 บิทคอยน์ เท่ากับ กี่บาท ?

ณ วันที่ 13 สิงหาคม 2560 บิทคอยน์ได้สร้างสถิติสูงสุด คือ 1 BTC เท่ากับ 4200 USD หรือคิดเป็นประมาณ 138,000 บาท

 

17. แนวโน้มบิทคอยน์ เป็นอย่างไร ราคาเป็นอย่างไร

มูลค่าของบิทคอยน์เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเหมือนสกุลเงินอื่น ๆ ตามกลไกตลาด หรือที่เราเรียกว่าหลัก Demand Supply คือช่วงไหนที่ความต้องการบิทคอยน์ มีมากกว่าปริมาณบิทคอยน์ที่มีในระบบ ก็จะส่งผลให้มูลค่าบิทคอยน์เพิ่มขึ้น แต่ช่วงไหน ที่มีข่าวไม่ดี เกิดขึ้น เช่น ในช่วงที่โจรเรียกค่าไถ่ด้วยเงินบิทคอยน์ หรือ เกิด Hard fork ทาให้ความเชื่อมั่นในบิทคอยน์ลดลง คนเทขายในระบบมีมากเกิน ความต้องก็จะทำให้มูลค่าลดลง

 

18. ควรลงทุนบิทคอยน์ด้วยเงินน้อยๆ หรือเงินมากดี

ไม่มีข้อจำกัดเรื่องของเงินทุนที่ใช้ในการลงทุนบิทคอยน์ การลงทุนบิทคอยน์ ก็เหมือนกับการ ลงทุนในหุ้น หรือ ทองคำ ดังนั้นคุณต้องพิจารณาในการเลือกลงทุนให้ดี ควรศึกษาให้ดี เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง

 

19. เมื่อได้ Bitcoin มา จะเปลี่ยนมันเป็นเงินบาทได้อย่างไร

สามารถแลกบิทคอยน์เป็นเงินบาทได้ ด้วยการใช้เว็บไซต์รับซื้อขายบิทคอยน์ในประเทศไทย เช่น BX , Localbitcoin , TDAX

 

20. อนาคตของ Bitcoin ในประเทศไทยเป็นอย่างไร ยังทำเงินกับบิทคอยน์ ได้มั้ย?

เนื่องจากยังมีผู้มีความรู้เรื่อง bitcoin ยังมีน้อยมาก  เมื่อเทียบกับหุ้น หรือ Forex  ทำให้โอกาสในการทำเงินตรงนี้ยังกว้างมาก มือใหม่ควรศึกษาข้อมูลให้ดีๆ  แล้วมันจะทำเงินให้กับคุณในรูปแบบของ Passive Income และ Active Income ได้อย่างแน่นอน




รวบรวม กระเป๋าบิทคอยน์ ประเภทต่าง ๆที่คุณควรรู้

กระเป๋าสตางค์ Bitcoin คืออะไร? ใช้งานอย่างไร?

ก่อนจะเริ่มใช้บิทคอยน์ หรือเหรียญดิจิตอลอื่นๆ เราต้องมี กระเป๋าบิทคอยน์ (wallet) เสียก่อน เพราะ ถ้าไม่มีกระเป๋าบิทคอยน์ เราก็จะไม่สามารถรับ เก็บ หรือใช้บิทคอยน์ได้ กระเป๋าสตางค์บิทคอยน์เปรียบเสมือนตัวกลางที่เชื่อมระหว่างเรากับระบบบิทคอยน์ เช่นเดียวกับการที่หน้าเว็บธนาคารเป็นตัวกลางเชื่อมไปสู่ระบบการเงิน

กระเป๋าบิทคอยน์ จะมีการใช้กุญแจส่วนตัว หรือรหัสลับที่ทำให้คุณใช้งานบิทคอยน์ได้

ในการใช้งานจริง สิ่งที่ต้องเก็บรักษาอย่างปลอดภัยไม่ใช่ตัวบิทคอยน์โดยตรง แต่เป็นกุญแจส่วนตัวของแต่ละคนที่ใช้อนุมัติการทำธุรกรรมบิทคอยน์   แต่ละกระเป๋าสตางค์จะมีโค๊ดยาวๆเป็นตัวอักษรสลับตัวเลข เรียกว่า Address เป็นบัญชี แบบฝาก และถอน เวลาใครจะส่งบิทคอยน์มาให้เรา เราก็ให้ Address แบบฝากได้เลยค่ะ ในทางกลับกัน ถ้าเราจะส่งเงิน เราก็ต้องมี Address แบบถอน  การฝากถอนทำได้ง่าย และรวดเร็วมาก

สรุป กระเป๋าสตางค์บิทคอยน์ คือ Application เว็บไซต์ หรืออุปกรณ์ที่ทำหน้าที่จัดเก็บกุญแจส่วนตัวของบัญชี

กระเป๋าสตางค์ Bitcoin ประเภทต่าง ๆ

กระเป๋าบิทคอยน์ มีด้วยกัน  2 แบบ คือ

  1. กระเป๋าสตางค์แบบฮาร์ดแวร์ (Hardware Wallet หรือ Cold Wallet)
  2. กระเป๋าสตางค์แบบซอฟแวร์ (Software Wallet หรือ Hot Wallet)

เรามาเปรียบเทียบกันเลย ว่ากระเป๋าแต่ละแบบ คือ อะไร เราและควรเลือกใช้แบบไหน?

กระเป๋าสตางค์แบบฮาร์ดแวร์

(Hardware Wallet /Cold Wallet)

 กระเป๋าสตางค์แบบซอฟแวร์

(Software Wallet /Hot Wallet)

กระเป๋าสตางค์แบบฮาร์ดแวร์ เป็นอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ ที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะเพื่อใช้จัดเก็บบิทคอยน์ให้ปลอดภัย หลักการทำงานคือ จะต้องนำตัวอุปกรณ์จะต้องเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรือ แท็บเล็ท ก่อนจะสามารถใช้งานบิทคอยน์ได้ กระเป๋าแบบซอฟแวร์ หมายถึงกระเป๋าบิทคอยน์ที่เป็นระบบซอฟแวร์ สามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตโดยตรง เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรือ แท็บเล็ท กุญแจส่วนตัวที่สร้างจากระบบบิทคอยน์ ถือเป็น รหัสลับกระเป๋าแบบซอฟแวร์ ทำงานและสร้างกุญแจส่วนตัวอยู่บนอุปกรณ์ที่เชื่อมกับอินเตอร์เน็ต

  • กระเป๋าสตางค์แบบฮาร์ดแวร์เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก
  • กระเป๋าฮาร์ดแวร์มีความปลอดภัยสูงเนื่องจากเก็บกุญแจส่วนตัวไว้นอกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตโดยตรง
  • กุญแจส่วนตัวเก็บไว้แบบออฟไลน์ภายในตัวเครื่อง ดังนั้นจึงปลอดภัยแน่นอนแม้จะเอาตัวเครื่องไปเสียบกับคอมพิวเตอร์ที่มีไวรัส
  •  โดยแต่ละโบรกเกอร์ที่รับซื้อ ขาย หรือ เทรด เหรียญต่างๆจะมีกระเป๋าสตางค์ ไว้สำหรับผู้ใช้งาน ภายในเว็บไซต์อยู่ด้วย
  • ·รหัสที่สร้างจึงอาจไม่ปลอดภัย 100%
  •  ให้คิดว่ากระเป๋าแบบซอฟแวร์ เป็นเหมือนกระเป๋าสตางค์จริงที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เราอาจใช้ใส่เงินสด แต่ไม่ใช่เอาไว้ใช้สำหรับเก็บเงินทั้งหมดที่เรามี กระเป๋า แบบซอฟแวร์ ดีสำหรับการใช้งานบ่อย ๆ แต่ไม่ควรใช้เก็บบิทคอยน์จำนวนมาก

    ข้อดี  กระเป๋าสตางค์ แบบ ฮาร์ดแวร์
  • เป็นที่จัดเก็บบิทคอยน์ได้อย่างปลอดภัย
  • สะดวกสำหรับการสร้างแบคอัพสำรองข้อมูล
  • ป้องกันข้อผิดพลาดได้ เพราะติดตั้งและเริ่มใช้งานได้ง่ายแม้ไม่ถนัดด้านไอที
  • ข้อดี  กระเป๋าสตางค์ แบบ ซอฟแวร์ 
  •  เหมาะสำหรับจัดเก็บบิทคอยน์จำนวนน้อย
  •  สะดวกสบาย เพราะสามารถรับและจ่ายบิทคอยน์ได้อย่างรวดเร็ว
  • ส่วนใหญ่จะสามารถโหลดมาใช้งานได้ฟรี
  • ข้อเสีย กระเป๋าสตางค์ แบบ ฮาร์ดแวร์
  •  มีค่าใช้จ่ายในการซื้อ ฮาร์ดแวร์
  • ข้อเสีย  กระเป๋าสตางค์ แบบ ซอฟแวร์ 
  •  ไม่ปลอดภัยในการใช้เก็บบิทคอยน์มาก ๆ
  • กระเป๋าสตางค์แบบฮาร์ดแวร์ที่นิยมใช้กันมากที่สุด  คือ 
  • Ledger Nano S
  • KeepKey
  • Trezor
  • กระเป๋าสตางค์แบบซอฟแวร์ ที่นิยมใช้กันมากที่สุด  คือ
  • Electrum
  • Mycelium
  • Blockchain.info
  • บิทคอยน์เป็นเงินตราดิจิทัล ดังนั้นอาชญากรคอมพิวเตอร์มักจะพยายามล้วงข้อมูลจาก “กระเป๋าสตางค์แบบซอฟต์แวร์” (software wallet) เพื่อขโมยกุญแจส่วนตัว ดังนั้นการที่ใช้อุปกรณ์แยกต่างหากสำหรับสร้างและเก็บกุญแจส่วนตัวจึงทำให้มั่นใจได้ว่าไม่มีใครสามารถเข้ามาขโมยบิทคอยน์ได้แน่นอน หากต้องการขโมย จะต้องขโมยไปทั้งตัวเครื่อง แต่ยังไงแล้วเราก็ยังสามารถตั้งรหัส PIN เพื่อป้องกันได้

    กระเป๋าแบบฮาร์ดแวร์มีความปลอดภัยและสะดวกสบาย ถึงแม้ว่าตัวเครื่องอุปกรณ์จะหาย ถูกขโมย หรือชำรุด หากเรามีการสร้างรหัสแบคอัพสำรองไว้ บิทคอยน์ก็จะไม่หายไปไหน  กระเป๋าแบบฮาร์ดแวร์เปรียบเสมือนห้องนิรภัยใต้ดินของเรา แน่นอนว่าถ้าใครมีบิทคอยน์มาก ๆ ก็ควรที่จะเลือกเก็บบิทคอยน์ ในกระเป๋าแบบฮาร์ดแวร์

    สรุป การเลือกใช้ กระเป๋าสตางค์บิทคอยน์ กระเป๋าแต่ละอันมีข้อดีและข้อเสียต่างกัน และมีวัตถุประสงค์การใช้งานต่างกัน เราต้องรู้ก่อนค่ะว่า เราใช้ bitcoin เพื่ออะไร? หากใช้เพื่อการลงทุนหรือออมเงิน กระเป๋าสตางค์ฮาร์ดแวร์เป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด แต่สำหรับการใช้งานทั่วไปแล้ว กระเป๋าแบบ ซอฟท์แวร์จะสะดวกสบายกว่า และส่วนใหญ่จะสามารถโหลดมาใช้งานได้ฟรี

    >>> รีวิวแหล่งซื้อขาย Bitcoin เปรียบเทียบชัดๆกันไปเลย! <<<

    บิทคอยน์ Hardware wallet SiamBTC

    Hardware wallet เก็บบิทคอยน์

    บทความที่เกี่ยวข้อง

    เรื่องเล่าในวงการบิทคอยน์ ที่โด่งดังไปทั่วโลก

    blockchain คือ อะไร? ทำไมถึงเป็นเทคโนโลยีมาแรงสำหรับยุคนี้

    6 กลโกงการลงทุนบิทคอยน์ มือใหม่ทุกคนต้องระวัง!

    คนรวยด้วยบิทคอยน์ มีสักกี่คน? มือใหม่อยากรวย ตามมาดูกัน