เคยสงสัยไหม ว่า Bitcoinและสกุลเงินดิจิตอลคืออะไร ตัวไหนเป็น Top 10 Best Altcoins จุดเด่น จุดด้อย ยังไง? ตัวไหนน่าลงทุน ?
ในบทความนี้มีคำตอบให้คุณ เริ่มด้วยการมารู้จักกับสกุลเงินหลักเลย นั่นก็คือ Bitcoin ซึ่งเป็น CryptoCurrency หรือสกุลเงินดิจิตอลแรกของโลก และยังมีสกุลเงินอื่นที่เรียกว่า เหรียญ Altcoin หรือ Alternate Coin คือเหรียญ cryptocurrency ทุกๆเหรียญที่ไม่ใช่ Bitcoin เนื่องด้วยความที่เหรียญ Bitcoin นั้นคือต้นกำเนิดของทุกๆสิ่ง ทำให้เหรียญที่โผล่ออกมาหลังจากนั้นบนเทคโนโลยี Blockchain จึงถูกเรียกว่าเหรียญทางเลือกหมด
วันนี้เราจะนำคุณไปรู้จักกับ Bitcoin และ Altcoin ที่น่าลงทุน10 อันดับ ในตารางการซื้อขายเหรียญพร้อมกับจุดเด่นจุดด้อย
Top 10 Best Altcoins จุดเด่น จุดด้อย
อันดับ |
จุดเด่น |
จุดด้อย |
อันดับ 1 Bitcoin (BTC)
เริ่มใช้งานในปี 2009 |
– เป็น CryptoCurrency แรกของโลก
– มีมูลค่าการซื้อขายในตลาด CryptoCurrency สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก – เป็นทียอมรับอย่างสากลในการแลกเปลี่ยนซื้อขาย |
– ค่าธรรมเนียมในการแลกเปลี่ยนสูง
– รอการยืนยัน transection นาน Bitcoin มีการพัฒนาต่อยอดระบบไปได้ช้า |
อันดับ 2 Ether (ETH)
เริ่มใช้งานในปี 2015 |
– เป็นที่ต้องการในการรัน application บนระบบ Ethereum
– เป็นที่ต้องการจำนวนมากในการระดมทุน ICO ( Initial Coin Offering ) – องค์กรและสถาบันการศึกษาจำนวนมากเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับเทคโนโลยี Ethereum |
Ether คือ เชื้อเพลิงสำหรับระบบ Ethereum ไม่ใช่ออกแบบเพื่อเป็นสกุลเงินแลกเปลี่ยน ณ ตอนนี้ |
อันดับ3 Bitcoin Cash (BCH)
เริ่มใช้งานในปี 2017 |
– HardFork พื้นฐานระบบมากจาก Bitcoin
– รองรับธุรกรรมทางการเงินพร้อมๆกันได้มากกว่า Bitcoin – เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วสำหรับเว็บไซต์เทรดดิ้ง และ wallet ซอฟต์แวร์ |
– อยู่ในช่วงเริ่มต้น ยังไม่มี Roadmap ที่แน่ชัดนัก
– ยังคลุมเครือสำหรับผู้ใช้งาน |
อันดับ 4 Ripple (XRP)
เริ่มใช้งานในปี 2013 |
– เป็นที่ยอมรับของสถาบันการเงิน
สร้างขึ้นมาสถาบันการเงินในการแลกเปลี่ยนเงินตราและทรัพย์สินระหว่างประเทศ – ยืนยันธุรกรรมการเงินได้รวดเร็วในระดับวินาที |
– ทำงานบนระบบ private blockchain ซึ่งถูกจำกัดให้ดูแลโดยองค์กรต่างๆ
– บริษัทRipple lap มีส่วนครอบครองจำนวนเหรียญมากถึง 60% ของจำนวนทั้งหมดในการตลาด |
อันดับ 5 Litecoin (LTC)
เริ่มใช้งานในปี 2011 |
– เป็นสกุลเงินอันดับสองของโลก CryptoCurrency
– คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่า ด้วยจำนวนที่มาก และมีราคาถูกกว่า Bitcoin – มีค่าธรรมเนียมถูก
|
แถบจะเหมือน Bitcoin และไม่มีฟีเจอร์ใหม่ๆให้ผู้ใช้งาน เหมือนเหรียญใหม่ๆ |
อันดับ 6 Dash
เริ่มใช้งานในปี 2014 |
– สามารถปกปิดข้อมูลธุรกรรมการเงินต่อบุคคลภายนอกได้
– ออกแบบมาเพื่อเป็น CryptoCurrency ในการแลกเปลี่ยนซื้อ-ขาย – ยืนยันธุรกรรมการเงินได้ในระดับวินาที – มีระบบ ecosystem ที่ดีในการพัฒนาต่อยอดระบบ Dash |
– ยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย
– อายุของสกุลเงิน Dash ยังไม่มากนัก |
อันดับ 7 NEM (XEM)
เริ่มใช้งานในปี 2014 |
– NEM เป็นระบบ blockchain ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ไม่ได้ fork มาจาก CryptoCurrency ใดๆ
– เป็นมิตรกับ developer ด้วยความที่พัฒนาบนภาษาสากลอย่าง Java – มีฟีเจอร์หลากหลายในการพัฒนา application blockchain บน NEM |
NEM ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นระบบ Blockchain คล้ายๆกับ Ethereum มากกว่าการที่จะใช้เป็น CryptoCurrency ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน |
อันดับ 8 IOTA
เริ่มใช้งานในปี 2014 |
– ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมทำธุรกรรมการเงิน
– สามารถรองรับการใช้งานร้อมๆกันได้เป็นจำนวนมากในระบบ โดยที่ไม่ต้องทำการขยาย block size เหมือน Blockchain ทั่วไป |
– ยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย |
อันดับ 9 Monero(XMR)
เริ่มใช้งานในปี 2014 |
– ด้วยความที่ไม่สามารถติดตามธุรกรรมทางการเงินได้ เหรียญ Monero จะมีค่าตลอดไปถึงแม้ว่าจะถูกยักยอกส่งผ่านจากบัญชีที่ทำผิดกฎหมายก็ตาม
– ปกปิดธุรกรรมการเงินของผู้ใช้ ทำให้บุคคลภายนอกไม่สามารถติดตามธุรกรรมย้อนหลัง |
– Application หรือ Wallet ที่ใช้งานกับสกุลเงินนี้มีจำนวนน้อยมากๆ ใช้งานได้ยาก |
อันดับ 10 NEO
เริ่มใช้งานในปี 2014 |
NEO สามารถสร้าง เก็บ และแลกเปลี่ยนทรัพย์สินหรือสิ่งของในรูปแบบของเหรียญได้ ไม่ว่าจะเป็นของที่มีตัวตนบนโลกจริงๆหรือบนโลกดิจิตอล เช่นที่ดิน ทอง หุ้น สกุลเงิน เหรียญ ICO คะแนนสะสมแต้ม และอื่นๆอีกมาก | – ข้อมูลข่าวสารติดตามยากเพราะเป็นภาษาจีน เราอาจได้ข่าวอาจช้ากว่าคนอื่น
– การแทรกแซงของรัฐบาลจีนในวงการ Blockchain |
ตัวอย่างใน YouTube ที่ทำการทดลอง ถือเหรียญ Top 10 Best Altcoins ในปีที่แล้ว มาดูกันว่า 1 ปีผ่านไป เงินจำนวนนี้เพิ่มมูลค่าเป็นเท่าไหร่? ไปดูกันเลย!
[embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=_wNb9ZbPRYY[/embedyt]
ผู้เขียนอยากจะแนะนำมือใหม่ว่า การที่เราถือเหรียญใดๆไว้ ควรพิจารณาหลายอย่างประกอบด้วย การที่เราแบ่งเงินลงทุน มาเพื่อถือเหรียญที่มีอนาคต ในระยะยาว ถือว่าคุ้มค่ามาก จะเห็นได้จากตัวอย่างใน YouTube ที่ทำการทดลอง ถือเหรียญ Top 10 Best Altcoins ในปีที่แล้ว โดยถ้าเราลงทุนเหรียญเหล่านี้ ตัวละ 1000 ดอลล่าร์ 1 ปี ผ่านไป เงินก้อนนี้จะมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น เป็น 240,279 ดอลล่าร์
สรุป CryptoCurrency ยังเป็นสิ่งที่น่าลงทุนมากเพราะ Bitcoin ยังมีการเติบโตเรื่อยๆ และยังครองส่วนแบ่งการตลาดส่วนใหญ่ของตลาด ปริมาณการซื้อขายของมันมากกว่าเงินดิจิตอลสกุลอื่นๆ บางคนก็เชื่อว่าเงินดิจิตอลนี้จะเป็นฟองสบู่ที่ใกล้จะแตก แต่ด้วยการเมืองที่มีความขัดแย้งต่าง ๆ และสภาพเศรษฐกิจจะทำให้ราคา bitcoin สูงขึ้นยิ่งกว่านี้ แต่เหรียญ Altcoin อย่าง Ethereum และ Ripple นั้นถูกใช้ในองกรณ์ก็เริ่มมีความเป็นที่นิยมเช่นกัน ขณะที่เงินดิจิตอลอื่นๆก็มีฟีเจอร์ที่เพิ่มเติมมาจาก Bitcoin ซึ่งเทรนตอนนี้เงินดิจิตอลยังไปได้ดี จึงไม่แปลกที่สกุลเงินดิจิตอลเหล่านี้จึงน่าลงทุนเพื่อกินกำไรจากการเติบโตของมัน