Tag: bitcoin pantip

รีวิว Cloud mining คืออะไร สร้างรายได้จริง? ไม่หลอกลวง?

ด้วยความต้องการบิทคอยน์ Bitcoin ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เหรียญราคา bitcoin เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากราคาไม่กี่พันบาทในเมือ 2 ปีที่แล้ว  จนถึงปัจจุบัน วันนี้ 15 สิงหาคม 2560 บิทคอยน์มีราคาทะลุ New high ที่ 150,000 บาท!!! (เช็คราคาได้ที่ BX เว็บซื้อขายบิทคอยน์ อันดับ 1 ในไทย) และแนวโน้มของราคาตามกราฟ ยังพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่มีหยุด!

 

คำถามที่ตามมาคือ…

  • วันนี้คุณสะสมเหรียญ bitcoin หรือยัง ?

  • วันนี้คุณได้มีลงทุนขุดเหรียญ bitcoin แล้วหรือยัง?

  • วันนี้คุณได้วางแผนเพื่อให้ได้เหรียญ bitcoin ในรูปแบบของ passive income หรือยัง?

 

วันนี้เราจะพานักลงทุนทุกท่าน ไปทำความรู้จักกับ การขุดบิทคอยน์ Bitcoin โดยวิธี cloud mining ให้มากขึ้น 

ผู้เขียนเชื่อว่าวิธีนี้ ใช้ได้ผลดี สำหรับผู้ที่อยากมีรายได้แบบ Passive Income 

 

Cloud mining คืออะไร?

เป็นการเช่ากำลังขุด จากเหมืองขุดทั่วโลกที่มีการเปิดให้บริการอยู่  เช่น Genesis-Mining , HashBXhashnest  หรือ hashflare เป็นต้น ซึ่งข้อดีของการเช่ากำลังขุดคือ เราเพียงลงทุนเช่าซื้อกำลังขุดเท่านั้น ไม่ต้องเปลืองแรงจัดการและบริหารเครื่องขุดของตัวเอง ทางบริษัททำให้ทุกอย่าง ที่เหลือคือการรอรับบิทคอยน์ Bitcoin แต่เพียงอย่างเดียว

 

Could mining มีความเสี่ยงสูง? เป็น SCAM หลอกลวง ?

บริษัท Cloud mining ส่วนใหญ่นั้นตั้งอยู่ในฐานต่างประเทศมันจึงมีความเสี่ยงอยู่พอสมควร ซึ่งในอดีตมีบริษัท Cloud mining ที่ตั้งขึ้นหลอกๆ ที่ปิดตัวลงไป เราจึงต้องระมัดระวังกับเรื่องนี้ ดังนั้นแนะนำผู้ที่ลงทุนใน Cloud mining ไม่ควรลงเงินกับที่เดียวควรจะกระจายความเสี่ยงออกไปหลายๆแห่ง

 

คุ้มค่ามั้ย? ระยะเวลาคืนทุน กี่เดือน ?  

การขุดแบบ cloud mining จะทำให้การลงทุนขุดบิทคอยน์ เป็นเรื่องง่าย เพราะมีบริษัทที่รับผิดชอบในการบริหารจัดการให้เรา และแบ่งผลประกอบการจากเงินที่เราลงทุนไป โดยให้ผลตอบแทนเป็นรายวัน นี่เองที่ถือว่าเป็นรายได้แบบ passive income อย่างแท้จริง โดยอัตราผลตอบแทนของการขุดแบบนี้จะอยู่ที่ประมาณ 10-30% ต่อเดือน โดยใช้เวลาคืนทุนประมาณ 3-10 เดือน ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินลงทุน และราคาเหรียญ ณ ตอนนั้น ยิ่งเหรียญบิทคอยน์ มีราคาสูง จะยิ่งคืนทุนได้เร็ว

ข้อดีของ การขุดแบบ Cloud Mining
ข้อเสียของ การขุดแบบ Cloud Mining
  • ไม่ต้องเปลืองแรงจัดการและบริหารเครื่องขุดของตัวเอง
  • ไม่ต้องแบกรับภาระค่าไฟฟ้าที่บ้าน
  • ไม่ต้องเป็นภาระ เมื่อเครื่องที่ใช้อยู่เริ่มตกรุ่น
  • ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงจากอัคคีภัย
  • จ่ายบิทคอยน์ให้ ทุกวัน
  • ความเสี่ยงต่อการถูกหลอกและโกง
  • การขุดเหรียญที่ในบางครั้งไม่โปร่งใส
  • กำไรจะลดลงเรื่อยๆ เนื่องจากมีค่า Diff ในการขุดเพิ่มสูงขึ้น
  • มีสัญญาในการขุด

 

 

มีบริษัทไหนบ้างที่ให้บริการขุดบิทคอยน์ แบบ Cloud Mining ที่ไม่ใช่ Scam?

ก่อนอื่นขอออกตัวสักเล็กน้อยว่าผู้เขียนได้ทดสอบ Cloud mining มาหลายเจ้า ซึ่งบริษัทเหล่านี้มีตัวตนจริง เชื่อถือ ได้แก่

  • Genesis mining Cloud mining อันดับ 1 มีเหมืองอยู่ที่ ไอซ์แลนด์

[embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=RqEgF7NCJ-0[/embedyt]

Genesis-Mining ที่เปิดให้บริการมาเข้าสู่ปีที่สี่แล้ว ก่อตั้งขึ้นเมื่อสิ้นปี 2013 และมีตอนนี้ผู้ใช้กว่า 500,000 ราย เป็นผู้ให้บริการทำการขุดด้วยระบบ cloud ของโลกโดยใช้หลายอัลกอริทึมขั้นนำของโลกและมีเครดิตการบริการที่ดีอย่าง มีการเหมืองทำการขุดหลายแห่งอยู่ในยุโรป อเมริกา และเอเชีย โดยมีเหมืองที่สามารถเปิดให้เข้าชมได้ที่เมือง Rejkjavik ในไอซ์แลนด์ ส่วนเหมืองอื่นนั้นเพื่อความปลอดภัยของข้อมูลจึงไม่ได้ระบุไว้ (ผู้ให้บริการส่วนมากปกปิดที่ตั้งเหมืองเพื่อความปลอดภัย)

 

  • Hashflare Cloud mining ของแท้ 1 ใน 3 เหมืองของโลกที่ยังเปิดให้บริการอยู่

Hashflare เปิดตัวตั้งแต่ปี 2015  โดยมีเป้าหมายให้การขุดเงินดิจิตอลนั้นง่ายต่อผู้ใช้งาน Hashflare นั้นถูกพัฒนาโดนทีมพัฒนาที่ชื่อว่า HashCoin   ซึ่งดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับด้าน BlockChain และ CryptoCurency รวมถึงเพิ่งมีการระดมทุนในโปรเจค ICO ที่ชื่อว่า polybus อีกและ Hashflare ก็ได้มีการเปิดเผยถึงตำแหน่งที่ตั้งรวมถึงหน้าตาของผู้พัฒนาอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม Hashflare ไม่ได้มีการเปิดเผยรูปภาพหรือตำแหน่งโรงงานของตัวเองที่มีการขุดเหมือน Genesis mining  เพราะฉะนั้นผู้ที่คิดจะลงทุนกับมันควรจะศึกษาให้ดีๆ

 

  • Hashing24 ขุดผ่าน Bitfury ซึ่งมี Data center อยู่ที่ ไอซ์แลนด์และจอร์เจีย

Hashing24 นี้ไม่ได้มีเหมืองขุดเป็นของตัวเองเหมือน Genesis-Mining หรือ Hashnest แต่ใช้วิธีซื้อกำลังขุดผ่านบริษัท Bitfury ซึ่งมี Data center อยู่ที่ ไอซ์แลนด์และจอร์เจีย โดย Bitfury เป็นพาร์ทเนอร์และซัพพลายเออร์กับ Hashing24 ซึ่งมันเป็นเรื่องที่หลายคนเข้าใจผิดกันว่าผู้ที่ทำ Cloud mining นั้นจะต้องมีเหมืองขุดเป็นของตัวเองไม่เช่นนั้นจะเป็นเรื่องหลอกลวง เพราะจริงๆผู้ที่ขายกำลังขุดนั้นมีอยู่มากมายซึ่งทำให้ผู้บริการแค่หา Supplier ที่สามารถซัพพอร์ทกำลังขุดให้ก็เพียงพอแล้ว

 

  • Hashnest ดำเนินงานโดย Bitmain ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องขุด ASIC ที่รู้จักกันดีในนาม Antminer

Hashnest นั้นมีความน่าเชื่อถือสูงมากและไม่เป็นแชร์ลูกโซ่แน่นอนเพราะมันถูกดำเนินงานโดย Bitmain ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องขุด ASIC ที่รู้จักกันดีในนาม Antminer

 

  • HashBX เป็นเหมืองของคนไทย บริหารงานโดยทีมคนไทย ตั้งอยู่ที่อุดรธานี

HashBX.com ร่วมกับ Bitmain.com ผู้ผลิตเครื่องขุด AntMinerS9 ได้ก่อตั้งเว็บไซต์ชื่อ HashBX.com ซึ่งเปิดให้บริการสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนขุดเงินบิทคอยน์ใช้วิธีรวมกลุ่มกันทำ PoolMining พร้อมกันทั่วโลกแล้วนำมาแบ่งผลผลิตบิทคอยน์กันซึ่ง HashBX.com สามารถนัดพบเพื่อชมเหมืองที่อุดรธานีได้

ตารางการคำนวณกำไร

เมื่อนักลงทุนได้ทำการลงทุน กับบริษัท cloud mining แล้ว บริษัทนั้นจะจ่ายผลตอบแทนของการขุดตามกำลังขุดที่เรามีในทุกๆวันโดยเราสามารถเข้าไปดูในข้อมูลการจ่ายเงินได้  เราจะได้ผลตอบแทนเป็น Bitcoin เรื่อยๆแต่ก็น้อยลงไปตามค่า Diff ที่เพิ่มขึ้น

ทั้ง 5 บริษัทเหล่านี้  เป็นบริษัทขุดเหรียญที่น่าสนใจสำหรับการขุด Bitcoin เนื่องจากการให้ผลตอบแทนรายวันรวมถึงมีความปลอดภัยสูง ถึงแม้อัตราคืนทุนจะค่อนข้างนานแต่สัญญาของการขุด Bitcoin นั้นเป็นแบบ Open end ซึ่งจะได้ผลตอบแทนไปเรื่อยๆซึ่งอย่างน้อยถ้าเทียบกับดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารในปัจจุบันมันดีกว่าแน่นอน 

แต่ก็อย่าลืมว่าทุกการลงทุน โดยเฉพาะ cloud mining มีความเสี่ยง หากเราต้องการผลตอบแทนที่ดีมันแลกมาด้วยความเสี่ยงเสมอซึ่งผู้ลงทุนควรจะตัดสินใจให้ดีก่อนการลงทุน



บิทคอยน์ (Bitcoin) คืออะไร ขุดยังไง เล่นแล้ว ได้กำไรจริงมั้ย ?

บิทคอยน์ (Bitcoin) คืออะไร ใครเป็นผู้คิดค้น มีที่มาที่ไปอย่างไร เล่นบิทคอยน์แล้วได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ และทำให้รวยจริงมั้ย?

ทำไมคนถึงหันมาสนใจกันมาก เรามาเริ่มทำความรู้จักกับบิทคอยน์ ไปพร้อม ๆ กัน

 

“บิทคอยน์ (Bitcoin)” เป็นกระแสที่คนไทยและทั่วโลกให้ความสนใจอย่างมากในตอนนี้  เพราะมีการพูดถึง กันเป็นวงกว้างว่า บิทคอยน์อาจจะเปลี่ยนระบบการเงินของโลกไปอย่างสิ้นเชิง ผู้เขียนต้องบอกก่อนว่าบิทคอยน์ไม่ใช่เรื่องใหม่เลย เพราะถูกคิดค้นมาตั้งแต่เกือบ 8 ปีมาแล้ว แต่พึ่งจะมาได้รับความนิยมในปีนี้ 

ในช่วง 2 ปีที่แล้ว การพูดถึงเรื่องของบิทคอยน์ bitcoin เป็นเรื่องการ หลอกลวง แชร์ลูกโซ่ เป็นตลาดมืด บิทคอยน์เชื่อถือไม่ได้ หลายฝ่ายโจมตีนักลงทุนในบิทคอยน์ แต่กลับกัน ในปัจจุบันบิทคอยน์ bitcoin ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เป็นเหรียญดิจิตัล (Crypto Currency) ที่ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วโลก เป็นนวัตกรรมใหม่ที่นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์หลายอย่าง และตอนนี้ มีมูลค่าแพงที่สุดในโลก!

ในเมืองไทย บิทคอยน์เป็นกระแสดังมาก เนื่องจากมี Hacker ได้ปล่อย Virus เรียกค่าไถ่ที่ชื่อว่า  “WannaCry” ซึ่งได้เรียกเก็บเงินกับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ที่ติด Virus เป็น บิทคอยน์ Bitcoin นั่นเอง ทำให้บิทคอยน์นี้เป็นที่พูดถึงกันอย่างมาก จนเมื่อเดือนสิงหาคม 2017  นี้ มูลค่าบิทคอยน์พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ด้วยราคา 3400 USD

(1 BTC = 3300 USD ข้อมูลจาก https://www.coindesk.com/ 9 สิงหาคม 2017 )

(1 BTC = 571 USD ข้อมูลจาก https://www.coindesk.com/ 9 สิงหาคม 2016 )
 หลายคนคงเริ่มสงสัยแล้วว่า บิทคอยน์ คืออะไร มาจากไหน? ใครเป็นผู้คิดค้น?  มีความสำคัญยังไง? ขุดยังไง? เล่นแล้ว ได้กำไรจริงมั้ย? วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจกันเลย

 

บิทคอยน์ (Bitcoin) มาจากไหน? เกิดขึ้นมาได้อย่างไร ?

บิทคอยน์ คือสกุลเงินดิจิตอลที่คิดค้นขึ้นมาโดยทีมงานของโปรแกรมเมอร์ที่มีนามแฝงว่า ซาโตชิ นากาโมโตะ ที่ต้องการสร้างสกุลเงินที่เป็นสกุลกลางของโลก ไม่ต้องผ่านธนาคารกลาง ยังไม่ต้องกังวลเรื่องการตรวจสอบบัญชี หรือโดนอายัดเงิน ถูกใจบรรดาธุรกิจใต้ดิน ทั้งหลาย ที่ไม่ต้องระบุตัวตน เวลาโอน และที่สำคัญค่าธรรมเนียมการโอนถูกกว่าระบบธนาคาร  มีความรวดเร็ว สามารถโอนข้ามทวีปภายในไม่เกิน 30 นาที

ผู้เขียนเคยโอนเบิทคอยน์ จากไทยไปอเมริกาใช้เวลาประมาณ 15 นาที รวดเร็วมาก และให้เพื่อนโอนบิทคอยน์ จากอเมริกามาไทย ก็ใช้เวลารวดเร็วมากเช่นกัน

ดังนั้น บิทคอยน์จึงถือเงินสกุลเงินใหม่ที่ไม่ผ่านระบบธนาคารกลาง และเป็นที่ยอมรับใช้กันอย่างแพร่หลาย ทั่วโลก ในระบบบิทคอยน์ จะมีการสร้างระบบที่เรียกว่า “Blockchain” เป็นเหมือนแหล่งเก็บข้อมูลการโอนทั่วทั้งระบบบิทคอยน์ มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ที่สำคัญ “Blockchain”  เป็นระบบที่สามารถป้องกันการเกิดภาวะเงินเฟ้อและเสื่อมค่าลงของเงินได้ เราจะเห็นได้จากปัญหารัฐบาลอเมริกาหรือหลายๆประเทศปั๊มเงินออกมาเรื่อย ๆ ได้ตามใจชอบ เกิดภาวะเงินเฟ้อ ดังนั้นระบบบิทคอยน์ จึงสามารถตอบโจทย์ปัญหาเหล่านี้ได้

 

บิทคอยน์ (Bitcoin) มีจำนวนเท่าไหร่?

บิทคอยน์มีจำนวนจำกัด คือ 21 ล้านเหรียญเท่านั้น ไม่สามารถสร้างขึ้นมาอีกได้ ลดการเกิดภาวะเงินเฟ้อและเสื่อมค่าลงของเงินได้อย่างดี

 

 บิทคอยน์ (Bitcoin) ขุดยังไง เล่นแล้ว ได้กำไรจริงมั้ย ?

หลังจากที่บิทคอยน์เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นทั้งไทยและทั่วโลก จึงมีหลายคนเริ่มเห็นโอกาสในการทำกำไร ซึ่งก็มีคนที่ประสบความสำเร็จ ได้กำไรเป็นกอบเป็นกำจากการลงทุนในบิทคอยน์
การได้มาของ bitcoin นั้นสามารถแบ่งออกมาได้เป็น 3 แบบดังนี้คือ 1.ได้มาโดยการขุด 2.ได้มาโดยการซื้อ 3.ได้มาโดยรูปแบบอื่นๆเช่น เล่นเกมส์ ใช้งานเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งทั้ง 3 วิธีนั้นมีข้อดี ข้อเสีย แตกต่างกันออกไปดังต่อไปนี้

 

  1. การขุด (Mining) Bitcoin

การได้มาซึ่งการขุด bitcoin ถือเป็นวิธีที่ ง่ายที่สุด และ ปลอดภัยที่สุดหากเทียบกับการได้มาซึ่ง bitcoin แบบอื่นๆ
บิทคอยน์จะมีระบบ Blockchain ที่ทำงานโดยอัลกอริทึม ”การขุดบิทคอยน์” อธิบายง่าย ๆ คล้าย ๆ กับการที่เราเข้าไปขุดทองในเหมือง แต่แค่เปลี่ยนรูปแบบมาทำในระบบคอมพิวเตอร์แทน โดยจะต้องนำคอมพิวเตอร์ของเราไปเป็นเซิร์ฟเวอร์ให้ระบบบิทคอยน์ใช้ในการเก็บธุรกรรมต่าง ๆ  จึงจะได้รับค่าตอบแทนคือเงินบิทคอยน์ แต่การจะได้ค่าตอบแทนนั้นจะต้องแก้ไขสมการทางคณิตศาสตร์ให้ได้ ซึ่งต้องแข่งกับคนอื่น ถ้าทำสำเร็จเราก็จะเป็นเจ้าของบิทคอยน์ที่เกิดขึ้นมาใหม่จากการขุดนั่นเอง

สำหรับความยากง่ายของการขุด หรือที่เรียก Difficulty, ค่า Diff  ขึ้นอยู่กับจำนวนบิทคอยน์ ที่เหลืออยู่ในระบบ ซึ่งถูกกำหนดสูงสุดไว้ที่ 21 ล้านเท่านั้น เพราะฉะนั้นยิ่งจำนวนบิทคอยน์เหลือน้อย การแก้สมการก็ยิ่งยากมากขึ้น รวมถึงความแรงของการประมวลผลคอมพิวเตอร์เราด้วยที่ต้องมากขึ้นตามความยากของการขุด หลายคนต้องซื้อการ์ดจอแรง ๆ เพื่อมาแข่งกันขุดบิทคอยน์ การ์ดจอของใครแรงกว่าก็จะมีโอกาสแก้สมการได้เร็วกว่า

 

เราไปดูวีดีโอ การขุด (Mining) นี้ได้เลย จะได้เข้าใจมากขึ้น

[embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=Mil2tFfp8H0[/embedyt]

ขณะที่ปัจจุบันจำนวนบิทคอยน์ที่เหลืออยู่ในระบบมีไม่ถึง 5 ล้าน แต่จำนวนคนที่เข้ามาขุดกลับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ค่าความยาก (ค่าDiff) เพิ่มสูงขึ้นตาม ดังนั้น ในตอนนี้ นักขุดหน้าใหม่ อาจจะไม่คุ้ม ถ้าคิดจะขุดหาบิทคอยน์ เนื่องจากต้องลงทุนซื้อการ์ดจอราคาแพง และจ่ายค่าไฟฟ้าที่ราคาสูงเช่นกัน  



  1. การเทรดบิทคอยน์ (Bitcoin)

แบบที่ 2 นี้คือการที่เราเอาเงินบาทไปซื้อเหรียญ bitcoin มาโดยตรงและเก็บเข้ากระเป๋าของเรา ลักษณะประมาณว่าเราไปซื้อทองออกมานั่นเอง เมื่อช่วงใดก็ตามที่ราคาของ bitcoin มีราคาสูงขึ้น คุณก็อาจสามารถขายออกมาทำกำไรได้ โดยคุณสามารถศึกษาเจาะลึกลงไปในเรื่องของการเทรดและการซื้อ ที่บทความด้านล่างนี้
มีหลายเว็บไซต์ที่ให้บริการ ซื้อขาย บิทคอยน์  เช่น BX, CoinBX, Bitcoin.co.th  ที่ทำหน้าที่เสมือนที่รับ ซื้อ ขายเหรียญบิทคอยน์  ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนจะขึ้นกับกลไกลการตลาดกำหนด คือ ช่วงเวลาไหนที่ได้รับความนิยมสูง มูลค่าของบิทคอยน์ก็จะสูงขึ้นตาม

 

1 บิทคอยน์ เท่ากับ กี่บาท ?

มูลค่าของบิทคอยน์เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเหมือนสกุลเงินอื่น ๆ ตามกลไกตลาด หรือที่เราเรียกว่าหลัก Demand Supply คือช่วงไหนที่ความต้องการบิทคอยน์ มีมากกว่าปริมาณบิทคอยน์ที่มีในระบบ ก็จะส่งผลให้มูลค่าบิทคอยน์เพิ่มขึ้น แต่ช่วงไหน ที่มีข่าวไม่ดี เกิดขึ้น เช่น ในช่วงที่โจรเรียกค่าไถ่ด้วยเงินบิทคอยน์ หรือ เกิด Hard fork ทาให้ความเชื่อมั่นในบิทคอยน์ลดลง คนเทขายในระบบมีมากเกิน ความต้องก็จะทำให้มูลค่าลดลง

 

โดยเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2560 บิทคอยน์ได้สร้างสถิติสูงสุด คือ 1 BTC เท่ากับ 3400 USD หรือคิดเป็นประมาณ115,000 บาทเลยทีเดียว ซึ่งเป็นผลมาจากการเข้ามาเก็งกำไรของนักลงทุนที่ทำให้มูลค่าพุ่งสูงมหาศาล

อย่างไรก็ดี บิทคอยน์ ถือเป็นสกุลเงินที่มีความผันผวนเป็นอย่างมาก ดังนั้นนักเทรดหน้าใหม่ต้องศึกษา หาความรู้ให้มากก่อนเข้ามาในแวดวงการบิทคอยน์

เราจะพาคุณ ไปรีวิวกับ 5 เว็บไซต์ซื้อขาย Bitcoin ในไทย ที่คุณเป็นสมาชิกได้เลย ทันที ฟรีค่ะ!!

 

  1. การเล่นเกมส์

แบบที่ 3 นี้ถือว่าง่ายที่สุดในการได้มาซึ่งเหรียญ bitcoin แต่ผู้เขียนเห็นว่าเป็นวิธีการที่อาจจะต้องรู้จักเลือกเสียหน่อย เพราะมีหลายเว็บที่แจกบิทคอยน์ฟรี แต่ให้จำนวนที่น้อยมาก ไม่คุ้มค่า หรือ การลงทุนแบบอื่นๆๆ ก็มีความเสี่ยงถ้าไม่ศึกษาให้ดี

ยกตัวอย่าง เว็บไซต์ให้เหรียญฟรี ที่น่าเชื่อถือ สามารถถอนเหรียญออกมาได้ เมื่อครบจำนวนขั้นต่ำ มีดังนี้ 

  1. https://freebitco.in      เว็บไซต์นี้ให้ฟรี บิทคอยน์ ชั่วโมงละ ประมาณ 0.00000034 BTC อย่างต่ำ 
  2. http://freedoge.co.in   เว็บไซต์นี้ให้ฟรี ดอกคอยน์ ชั่วโมงละ ประมาณ 0.72 DOGE อย่างต่ำ 
  3. https://www.eobot.com   เว็บไซต์นี้ให้ขุดเหรียญฟรี และแจกเหรียญวันละครั้ง จากการเล่น Faucet 

**** เว็บไซต์เหล่านี้ เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น และต้องการเก็บของฟรี แต่อย่างไรก็ตาม เราอาจจะได้เหรียญน้อยมาก ไม่คุ้มค่าแรง

 

บิทคอยน์ (Bitcoin) ผิดกฎหมายไหม ในไทย เป็นที่ยอมรับหรือยัง ?

หลายประเทศยอมรับบิทคอยน์อย่างถูกกฎหมาย อาทิ อเมริกา แคนาดา ยุโรป และญี่ปุ่น เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีผู้ประกอบการหลายรายที่ยอมรับการชำระสินค้าเป็นเงินบิทคอยน์ เช่น ร้านอาหารในญี่ปุ่น และบริษัทดังในอเมริกา

    แต่ทางธนาคารแห่งประเทศไทย ยังไม่ยอมรับสกุล Bitcoin และสกุลเงินดิจิตัลทุกชนิด โดยอ้างว่าระบบดังกล่าวไม่ใช่เงินที่แท้จริง และไม่สามารถใช้เงินบิทคอยน์ชำระหนี้ตามกฎหมายไทยได้     

 

สรุป บิทคอยน์ (Bitcoin) โอกาสหรือความเสี่ยง ?

ข้อดี บิทคอยน์ Bitcoin

ข้อเสีย บิทคอยน์ Bitcoin

  • มูลค่าของมันไม่ได้ตกอยู่ในการควบคุมของรัฐบาล ถือว่าเราเป็นเจ้าของเงินอย่างแท้จริง
  • มูลค่าสูงขึ้น เนื่องจากความต้องการมากขึ้น ในขณะที่จำนวนบิทคอยน์เท่าเดิม
  • เราสามารถรับหรือส่งบิทคอยน์ให้กับใครก็ได้ในโลกนี้ได้อย่างรวดเร็วด้วยตัวของเราเอง
  • ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตโดยไม่ต้องตัวกลางเช่น bank, paypal, moneygram
  • เสียค่าธรรมเนียมน้อยมากๆ
  • ราคามีความผันผวนสูง
  • ยังไม่มีกฎหมายรองรับ จากธนาคารแห่งประเทศไทย
  • ยังไม่เป็นที่นิยมแพร่หลายในไทย และบางประเทศ
  • การซื้อ ขาย และการใช้งาน อาจจะดูยุ่งยาก สำหรับมือใหม่
  • มีหลายกลุ่มใช้ BitCoin เป็นช่องทางของธุรกิจด้านมืด
  • บิทคอยน์ (Bitcoin) และ บล็อกเชน (Blockchain) เป็นนวัตกรรมใหม่ ที่ผู้เขียนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และได้ทำการศึกษา ทดลอง  และทำกำไรจากการเทรด เป็นเวลาเกือบปี  รวมถึงใช้โอนเงินข้ามทวีปได้อย่างรวดเร็ว  ต้องบอกว่าปัจจุบันบิทคอยน์ไม่ใช่เรื่องไกลตัวของเราอีกต่อไปแล้ว ผู้เขียนเชื่อว่า บิทคอยน์ คงจะมีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ กับระบบการเงินของโลกในอนาคต ซึ่งการเรียนรู้ทำความเข้าใจในระบบ บิทคอยน์ (Bitcoin) และ บล็อกเชน (Blockchain) เหล่านี้ เอาไว้ก็ไม่เสียหาย เพราะใครจะไปรู้อนาคตข้างหน้า “บิทคอยน์” อาจกลายเป็นสกุลเงินหลักที่ใช้กันอย่างแพร่หลายก็ได้

    5 อันดับเว็บไซต์ ขุดบิทคอยน์ ที่นักขุดห้ามพลาด

    การขุดแบบ cloud mining จะทำให้การลงทุนขุดบิทคอยน์ เป็นเรื่องง่าย เพราะมีบริษัทที่รับผิดชอบในการบริหารจัดการให้เรา และแบ่งผลประกอบการจากเงินที่เราลงทุนไป โดยให้ผลตอบแทนเป็นรายวัน อาจจะเรียกได้ว่า เป็น passive income โดยอัตราผลตอบแทนของการขุดแบบนี้จะอยู่ที่ประมาณ 8-30% ต่อเดือน โดยใช้เวลาคืนทุนประมาณ 3-12 เดือน ขึ้นอยู่กับบริษัทที่เลือกลงทุน จำนวนเงินลงทุน และราคาเหรียญ ณ ตอนนั้น ยิ่งเหรียญบิทคอยน์ มีราคาสูง จะยิ่งคืนทุนได้เร็ว

    >>>อ่านต่อ ที่นี่<<<




    รีวิวแหล่งซื้อขาย Bitcoin เปรียบเทียบชัดๆกันไปเลย!

    คุณกำลังมองหาช่องทางการลงทุนใหม่ๆ ใช่หรือไม่ ??

    ปัจจุบัน สกุลเงินดิจิตอล กำลังมีบทบาทอย่างมากในโลกออนไลน์ ซึ่งเราสามารถใช้ช่องทางการลงทุนในตลาดใหม่นี้ สร้างโอกาสผลกำไรจากการลงทุนในตลาดเงินดิจิตอลนี้ได้ในอนาคต

    วันนี้เราจะพาคุณไป รีวิวแหล่งซื้อขาย Bitcoin ในไทย ที่มือใหม่ สามารถเป็นสมาชิกได้เลยทันทีค่ะ จากการที่ได้ลงทุนในบิทคอยน์ มาระยะหนึ่งแล้ว จึงอยากนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์ มาถ่ายทอดให้นักลงทุนมือใหม่ ที่กำลังจะเข้ามาในวงการ Crypto Currency นี้ได้รู้จัก แหล่งซื้อขาย บิทคอยน์ ให้มากขึ้น โดยเราได้ทำการเปรียบเทียบ ข้อดี ข้อเสีย และให้คะแนน เพื่อง่ายในการตัดสินใจ ซื้อขาย Bitcoin

    คุณอาจสมัครทุกเว็บที่เราแนะนำ หรือเลือกเว็บที่คุณต้องการเป็นพิเศษก็ได้ค่ะ เราไปทำความรู้จักเว็บ ซื้อขาย Bitcoin กันเลย 

     

    เว็บไซต์ ข้อดี - ข้อเสีย ไปที่เว็บไซต์

    BX.in.th

    เว็บชื้อ ขาย Bitcoin อันดับ 1 ของไทย

    จะแตกต่างจากแหล่งซื้อ ขาย เหรียญ Bitcoin ที่อื่นๆคือ

    เปิดซื้อขายในรูปแบบของกระดานหุ้น ทำให้ใครที่ต้องการซื้อ Bitcoin และเหรียญอื่นๆ ไปเพื่อการเก็งกำไร เหมือนหุ้นได้

    ข้อดี
    • การวาง Layout ที่เรียบง่ายต่อสายตาและการใช้งาน
    • สามารถซื้อขายเหรียญ Bitcoin และสกุลเงินอื่นๆได้เหมือนกับการเทรดในตลาดหุ้น
    • ซื้อขายเหรียญ Bitcoin ไม่จำกัด
    • ระบบมีความปลอดภัยสูง มี Volume การซื้อขาย Bitcoin เป็นจำนวนมาก
    • Knowledge base คอยสอนผู้ใช้งานมือใหม่
     
    ข้อเสีย
    • ดีไซน์ที่ดูค่อนข้างล้าสมัย
    • ระบบ Technical Support มีแค่ช่องทางเดียว และไม่มีช่องทางติดต่อแบบเร่งด่วน

    คะแนน

    Localbitcoin.com 

    เป็นเว็บไซต์ P2P (Peer to Peer หรือ People to People) อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยน Bitcoin ระหว่างกัน

    ซึ่งสามารถแลกเปลี่ยน Bitcoin กับผู้ใช้งานได้ทั่วโลก มีวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย เช่น Credit card, PayPal, MoneyGram, Western union, Bank Transfer หรือนัดเจอตัวต่อตัวเพื่อซื้อเงินสดได้

    ข้อดี
    • ขั้นตอนการซื้อและขายเหรียญบิทคอยน์ ทำได้ง่ายมาก และไม่โดนเก็บค่าธรรมเนียมแพงแต่อย่างใด
    • ชื้อ ขาย Bitcoin ได้ทุกสกุลเงิน เช่น บาท ,US , Euro และสกุลเงินอื่นๆ
    • มีระบบ Escrow เพื่อปกป้องผลประโยชน์ทั้งผู้ชื้อและขาย
    • ซื้อ ขาย Bitcoin ได้ไม่จำกัด
    ข้อเสีย
    • ค่าธรรมเนียมจะสูงขึ้นเมื่อจ่ายโดยใช้เงินสด
    • ในกรณีที่ซื้อ ขาย Bitcoin จำนวนมาก อาจต้องมีการขอ บัตร ID เพื่อยืนยันตัวตน

    คะแนน

    Coin.co.th

    เป็นเว็บไซต์ที่หลายคนชอบใช้ในการซื้อ ขาย Bitcoin ด้วย ความรวดเร็วในการโอนเงิน Bitcoin ระหว่างกระเป๋า

    และกระบวนการรับซื้อ และขายเหรียญ Bitcoin ที่รวดเร็ว

    ข้อดี
    • ความรวดเร็วในการรับส่งเงินระหว่างกระเป๋า Bitcoin ทำได้รวดเร็วมากๆ
    • ความปลอดภัยของเว็บอยู่ในระดับสูง
    ข้อเสีย
    • ซื้อขายเหรียญได้จำกัด ไม่เกิน 10 BTC
    • ยืนยันเอกสารที่ต้องใช้หลายตัว
    • ไม่มีกระดานซื้อขาย เหมือนหุ้น

    คะแนน

    Bitcoin.co.th 

    เป็นอีกหนึ่งเว็บไซต์ของไทย ซึ่งให้บริการในการซื้อขายเหรียญ bitcoin

     และได้แตกออกเป็นเว็บไซต์อีกแห่งหนึ่งนั่นคือ bx.in.th

     แต่ เว็บหลักคือ bitcoin.co.th ก็ยังอนุญาตให้สามารถทำการซื้อขายเหรียญ Bitcoin

    โดยจำกัดวงเงินที่วันละ 50,000 บาท แต่ไม่มีกระดานเทรดครบวงจร เหมือนเช่น bx.in.th

     
    ข้อดี
    • การซื้อขายที่ออกแบบมาอย่างง่ายๆ ส่งผลให้ผู้ใช้งานมือใหม่ ไม่ต้องยุ่งยากในการยื่นเอกสารต่างๆ
    • ความปลอดภัยของเว็บอยู่ในระดับสูง
    • เป็นบริษัทเดียวกับ BX
    ข้อเสีย
    • จำกัดวงเงินที่วันละ 50,000 บาท
    • ไม่มีกระดานเทรดครบวงจร เหมือนเช่น bx.in.th

    คะแนน

    CoinBX.com

    เป็นอีกหนึ่งเว็บไซต์น้องใหม่ของไทย ซึ่งให้บริการในการซื้อขายเหรียญ bitcoin

    โดยมีเฉพาะเหรียญ Bitcoin เท่านั้น

    คาดว่าจะให้มีการซื่้อขายเหรียญ Altcoin ตัวอื่นๆเร็วๆนี้ ซื้อขายได้โดยไม่จำกัดวงเงิน

    มีกระดานเทรดและมีกราฟบอกปริมาณการซื้อขาย Bitcoin เหมือนเช่น bx.in.th

     
    ข้อดี
    • การซื้อขายที่ออกแบบมาอย่างง่ายๆ ส่งผลให้ผู้ใช้งานมือใหม่ ไม่ต้องยุ่งยาก
    • ความรวดเร็วในการรับส่งเงินระหว่างกระเป๋า Bitcoin ทำได้รวดเร็วมากๆ
    • Customer Support บริการตลอด 24 ชั่งโมง
    ข้อเสีย
    • ซื้อขาย เฉพาะเหรียญ Bitcoin เท่านั้น ยังไม่มีเหรียญ Altcoin
    • เนื่องจากเป็นเว็บไซต์ ใหม่ ความปริมาณการซื้อ ขาย และ น่าเชื่อถือยังน้อย

    คะแนน

     

    เปรียบเทียบค่าธรรมเนียม ซื้อ ขาย Bitcoin ในแต่ละเว็บไซต์

    ลำดับ

    ชื่อเว็บไชต์

    ข้อมูลเว็บไซต์

    ซื้อ Bitcoin

    ขาย Bitcoin

    ค่าธรรมเนียม

    1

    BX.in.th

    เว็บชื้อขาย Bitcoin No. 1 ของไทยและ มีกระดานเทรดเหมือนหุ้น ซื้อได้ไม่จำกัด ขายได้ไม่จำกัด 0.25%ของการซื้อ ขาย
    2

    Local Bitcoin

     เป็นเว็บที่ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยน Bitcoin ระหว่างกัน ได้ทั่วโลก  ซื้อได้ไม่จำกัด  ขายได้ไม่จำกัด  1% ของการซื้อ ขาย
    3

    Coin.co.th

     เป็นอีกเว็บซื้อ ขาย Bitcoin แต่ไม่มีกระดานเทรด  10 BTC/ วัน 10 BTC/ วัน 1% ของการฝาก ถอน
    4

    Bitcoin.co.th

     ให้บริการซื้อขาย bitcoin มาอย่างนานเป็นบริษัทในเครือเดียวกับ  BX.in.th 50,000 บาท/วัน 50,000 บาท/วัน ไม่มีค่าธรรมเนียม
    5

    CoinBX.com

     เว็บชื้อขาย Bitcoin น้องใหม่ ของไทยและ มีกระดานเทรดเหมือนหุ้น  ซื้อได้ไม่จำกัด ขายได้ไม่จำกัด 0.25%ของการซื้อ ขาย
    >>> อ่านเพิ่มเติม 5 เว็บไซต์ซื้อขาย Bitcoin ในไทย ได้ที่นี่ <<<

    สรุปแล้ว เราได้ทำการ รีวิวแหล่งซื้อขาย Bitcoin ในไทย ซึ่งทั้ง 5 เว็บไซต์ถือเป็นแหล่งที่มีการซื้อขายกันอย่างมาก และน่าเชื่อถือมากที่สุดในไทย เหมาะที่นักลงทุนหน้าใหม่ใช้เป็นช่องทางในการซื้อ และทำกำไร ใน ตลาดบิทคอยน์

    *** แต่อย่าลืมนะค่ะ ว่าการลงทุนทุกอย่าง มีความเสี่ยง แต่การไม่ได้ลงทุน หรือ ไม่ทำอะไรเลย เสี่ยงยิ่งกว่าค่ะ ยังไงก็ลองเล่น ลองใช้งานดูกันก่อนนะค่ะ***

    ขอให้โชคดีกันทุกคนจ้าาา!!!




    5 เว็บไซต์ซื้อขาย Bitcoin ในไทย มือใหม่ห้ามพลาด!

    ถูกถามกันมาเยอะมาก ว่า ซื้อบิทคอยน์ ได้ที่ไหน และเว็บไหนน่าเชื่อถือ ?

     

    วันนี้เราจะพาคุณ ไปรีวิวกับ 5 เว็บไซต์ซื้อขาย Bitcoin ในไทย ที่คุณเป็นสมาชิกได้เลย ทันที ฟรีค่ะ!!

     

    ถ้าคุณกำลังมองหาแหล่งซื้อขายเงินบิทคอยน์ วันนี้เรามีบทความที่จะพาคุณไปทำความรู้จัก กับ 5 เว็บไซต์ซื้อขาย Bitcoin ในไทย ที่คุณเป็นสมาชิกได้ทันทีค่ะ!

    ปัจจุบัน สกุลเงินดิจิตอล หรือ Crypto Currency  กำลังก้าวเข้ามามีบทบาทอย่างรุนแรงต่อโลกออนไลน์ โดยกลายมาเป็นตัวเงินที่มีการใช้ในการซื้อขายกันในโลกออนไลน์ อย่างมากมายเลยทีเดียว โดยสกุลเงินดิจิตอลนั้น มีด้วยกันหลายตัว อาทิเช่น Bitcoin (บิทคอยน์), Ethereum (อีเทอร์เรียม), Ripple (ริบเปอร์) , Dash (แดช) , Litecoin (ไลท์คอยน์) ,เป็นต้น

    สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเหรียญดิจิตอลทั้งหมดได้ที่ https://coinmarketcap.com/

    นักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์ว่าเร็วๆนี้ ไม่เกินปี 2020 จะมีการใช้เงินสกุลดิจิตอล Crypto Currency   อย่าง Bitcoin และเหรียญ Altcoin อื่นๆๆ ในการทำธุรกรรมการเงินในโลกออนไลน์เป็นจำนวนมาก จนแม้แต่คุณก็ไม่อาจปฏิเสธได้ ดังนั้น ทาง Goal Bitcoin จึงขอใช้บทความนี้ในการนำพาคุณไปสู่  5 แหล่งซื้อขาย Bitcoin ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ที่ที่จะช่วยให้คุณซื้อหรือ ขายเหรียญ Bitcoin กลับมาเป็นเงินไทยบาทได้ บางที มันอาจจะทำให้คุณมีกำไรจากมันได้!

    สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเปิดบัญชี หรือ สมัครเว็บชื้อ ขาย Bitcoin

    5 เว็บไซต์ซื้อขาย Bitcoin ในไทย

    1.เตรียมบัตรประชาชนของคุณให้พร้อม

    ในหลายๆเว็บไซต์ มักจะมีการร้องขอให้คุณถ่ายภาพบัตรประชาชนคู่กับใบหน้าของตนเอง

    2.เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเงิน

    หากคุณมีการถอนเป็นเงินไทยรวมมากกว่า 100,000 บาท บางเว็บ อาจมีการขอเอกสารเช่น ใบรับรองเงินเดือน, Statement, หรือสำเนาหน้าบัญชีธนาคาร Book bank เพื่อใช้ในการยืนยัน ดังนั้นเตรียมไว้ให้พร้อมเสมอ หากมีการเรียกเอกสารเหล่านี้เมื่อใด ต้องสามารถจัดส่งได้ทันที

    เมื่อคุณเตรียมเอกสารต่างๆพร้อมแล้วสำหรับการสมัครเว็บ ชื้อ ขาย Bitcoin ด้านล่างนี้คือ 5 รายชื่อเว็บไซต์ที่ให้บริการ รับซื้อขายเหรียญ Bitcoin และทุกเว็บไซต์จะมีกระเป๋า Bitcoin และบางเว็บจะมีหลายกระเป๋า ไว้สำหรับจัดเก็บเหรียญต่างๆๆของเราด้วยค่ะ

    คุณอาจสมัครทุกเว็บที่เราแนะนำ หรือเลือกเว็บที่คุณต้องการเป็นพิเศษก็ได้ค่ะ

     

    >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>


    Update ข้อมูล  ปี 2563 : 

    BX เว็บเทรด Bitcoin อันดับหนึ่งของไทย ประกาศหยุดกิจการซื้อขายเหรียญดิจิทัล ประกาศเมื่อ 2 กย. 2562 เหตุด้วยว่าไม่อยากต่อใบอนุญาติกิจการกับทาง กลต ในปี 2563

     ปัจจุบันมีเว็บไซต์ผู้ให้บริการซื้อขายเหรียญดิจิทัลในไทยที่ได้รับใบอนุญาตประกอบสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมด 4 ราย  ในปี 2563  อ่านต่อได้ที่นี่ 

    4 เว็บเทรดบิทคอยน์ในไทย ที่ได้รับการรับรอง จาก ก.ล.ต ประจำปี 2563

    วันนี้เราได้รวบรวม 4 เว็บเทรดบิทคอยน์ในไทย ที่ได้รับการรับรอง จาก ก.ล.ต โดยเว็บเทรดทั้ง 4 นี้ สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามบทเฉพาะกาลตามคำสั่งของ ก.ล.ต. หรือ ได้รับ License แล้วนั่นเอง

    อ่านต่อที่นี่

     

    1.  BX.in.th  **ประกาศหยุดกิจการซื้อขายเหรียญดิจิทัล ประกาศเมื่อ 2 กย. 2562

    เว็บไซต์นี้เป็น เว็บชื้อ ขาย Bitcoin อันดับ 1 ของไทย เว็บ BX.in.th จะแตกต่างจากแหล่งซื้อ ขาย เหรียญ Bitcoin ที่อื่นๆคือ เปิดซื้อขายในรูปแบบของกระดานหุ้น ทำให้ใครที่อาจต้องการซื้อเหรียญ Bitcoin และเหรียญอื่นๆ ไปเพื่อการเก็งกำไร สามารถเลือกใช้ที่ เว็บ BX.in.th ในการเกร็งกำไร ซื้อ ขาย เหมือนหุ้นได้

    หน้าแรกเว็บ bx.in.th

    BX.in.th มี 20 คู่เหรียญที่คุณสามารถเทรดได้

    สิ่งหนึ่งที่สร้างความเพลิดเพลินให้ผู้เขียนได้เป็นอย่างดีคือการลองสลับคู่เทรดไปมาเพื่อดู Volume บนเว็บ Bx ซึ่งทางเราพบว่าจำนวนคู่ของเหรียญที่ทาง Bx ให้บริการนั้นมีมากถึง 20 คู่ด้วยกัน โดยคู่หลักๆที่เป็นที่นิยมอยู่บนเว็บในตอนนี้คือ THB/BTC และ THB/ETH

    มีเหรียญ altcoin อื่นๆบนโลกนี้อีกตั้งมากมายและยังเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ โดยการทำกระดานซื้อขายคู่เหรียญใหม่ๆขึ้นมาบน BX นั้นถือเป็นข่าวดีสำหรับ Trader และนักขุดเหรียญในไทยที่ชื่นชอบการลงทุนใน altcoin ใหม่ๆโดยที่ไม่ต้องไปเสียเวลาแลกเหรียญทีละหลายขั้นตอน และยังช่วยประหยัดเงินค่าแลกเปลี่ยนอีกด้วย

    จุดเด่นประการสำคัญของ BX.in.th ที่เห็นได้ชัดคือ เราสามารถซื้อขายเหรียญ Bitcoin ได้ไม่จำกัดวงเงิน   ซึงถือว่าเป็นข้อดีมากๆ อีกทั้งระบบความปลอดภัยที่มีมากทำให้เงินของคุณปลอดภัยทันทีเมื่ออยู่ที่นี่

    ข้อดีของ bx.in.th

    1. สมัครสมาชิกฟรี!
    2. การยืนยันตัวตนสามารถทำได้อย่างง่ายด้วย บัตรประชาชน
    3. การวาง Layout ที่เรียบง่ายต่อสายตาและการใช้งาน
    4. สามารถซื้อขายเหรียญ Bitcoin และสกุลเงินอื่นๆได้เหมือนกับการเทรดในตลาดหุ้น
    5. รับยอดเงินซื้อขายเหรียญ Bitcoin ไม่จำกัด
    6. ระบบมีความปลอดภัยสูง มี Volume การซื้อขาย Bitcoin เป็นจำนวนมาก
    7. รับซื้อขายเหรียญในกลุ่ม Alt coin เป็นจำนวนมาก อาทิ Etherium, Dash, Litecoin, Dogecoin, OmiseGo เป็นต้น
    8. มีระบบคำถามที่พบบ่อยและ Knowledge base คอยสอนผู้ใช้งานมือใหม่

    ข้อเสียของ bx.in.th

    1. มีหมวดหมู่ให้เลือกเทรดแค่หมวดเดียวคือ Spot trading
    2. ดีไซน์ที่ดูค่อนข้างล้าสมัย
    3. ระบบ Technical Support มีแค่ช่องทางเดียว และไม่มีช่องทางติดต่อแบบเร่งด่วน

    สรุปภาพรวมของ BX.in.th

    bx.in.th นั้นถือเป็นเว็บเทรดแห่งแรกของไทยที่สามารถที่จะแนะนำชาวไทยให้รู้จักกับการทำกำไรกับ Bitcoin ได้อย่างแท้จริง โดยหากคุณเป็นมือใหม่ในวงการ Bitcoin นั้น ทางเว็บ bx.in.th ก็สามารถที่จะช่วยให้คุณเริ่มทำการเทรดบิทคอยน์ได้อย่างไม่ยาก อีกทั้งยังมีความปลอดภัยในระดับสูงที่สามารถที่จะไว้ใจได้อีกด้วย

    วิธีการสมัครเปิดบัญชีกับ  BX.in.th

    [embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=64hq3Ve4JUI[/embedyt]

    ต้องการเปิดบัญชีกับ Bx.in.th และทำการซื้อขายเหรียญ Bitcoin คลิกที่นี่

     

     

    2Localbitcoins.com

    เป็นเว็บไซต์ P2P (Peer to Peer หรือ People to People) ซึ่งมีหมายถึง
    เป็นระบบที่อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยน Bitcoin ระหว่างกัน ผ่านเว็บไซต์นี้  ซึ่งสามารถแลกเปลี่ยน Bitcoin กับผู้ใช้งานได้ทั่วโลก มีวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย เช่น Credit card, PayPal, MoneyGram, Western union, Bank Transfer หรือนัดเจอตัวต่อตัวเพื่อซื้อเงินสดได้

    หน้าแรกเว็บ Localbitcoin

    สำหรับเว็บไซต์นี้ เป็นเว็บไซต์รับแลกเหรียญ Bitcoin ทั้งซื้อและขาย โดยมี จุดเด่นที่ คุณสามารถซื้อขายเหรียญBitcoin ในราคาที่ใกล้เคียงกับราคาตลาดกลาง  และลดความเสี่ยงในเรื่องของค่าธรรมเนียมแลกเปลี่ยนและอัตราแลกเปลี่ยนที่ทำให้คุณมีกำไรได้

    ดังนั้น คุณจึงสามารถซื้อ ขาย Bitcoin เหล่านี้แลกกลับมาเป็นเงินบาทได้อย่างง่าย! ที่สำคัญ Localbitcoins.com ได้รับการยอมรับจากผู้ซื้อและผู้ขายเหรียญ Bitcoin จากทั่วโลก ทำให้ปลอดภัยต่อการซื้อขายเหรียญของคุณที่นี่ และมีระบบ Escrow รองรับ เพื่อทำให้ผู้ซื้อ ขาย มั่นใจว่าจะมีคนดูแลผลประโยชน์ให้ทั้งสองฝ่าย ไม่ถูกโกง หรือเบี้ยว ถ้าเกิดคู่กรณีไม่จ่ายตางค์ ตามที่ตกลง

    ข้อดีของ Localbitcoins.com 

    1. สมัครสมาชิกฟรี!
    2. ขั้นตอนการซื้อและขายเหรียญบิทคอยน์ ทำได้ง่ายมาก และไม่โดนเก็บค่าธรรมเนียมแพงแต่อย่างใด
    3. สามารถชื้อ ขาย Bitcoin ได้ทุกสกุลเงิน เช่น บาท ,US , Euro และสกุลเงินอื่นๆ
    4. มีระบบ Escrow เพื่อปกป้องผลประโยชน์ทั้งผู้ชื้อและขาย รับรองไม่ถูกโกง หรือเบี้ยว ถ้าเกิดคู่กรณีไม่จ่ายตางค์ ตามที่ตกลง
    5. ซื้อ ขาย Bitcoin ได้ไม่จำกัด

    ข้อเสียของ Localbitcoins.com

    1. ค่าธรรมเนียมจะสูงขึ้นเมื่อจ่ายโดยใช้เงินสด
    2. ในกรณีที่ซื้อ ขาย Bitcoin จำนวนมาก อาจต้องมีการขอ บัตร ID เพื่อยืนยันตัวตน

    วิธีการสมัครเปิดบัญชีกับ Localbitcoins.com 

    [embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=BaJ83Hj_sEA[/embedyt]

    ต้องการเปิดบัญชีกับ Localbitcoins เพื่อซื้อขายเหรียญ Bitcoin คลิกที่นี่

     

    3.#Coins.co.th

    เป็นเว็บไซต์ที่หลายคนชอบใช้ในการซื้อ ขาย Bitcoin ด้วยจุดเด่นที่แตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่นคือ ความรวดเร็วในการโอนเงิน Bitcoin ระหว่างกระเป๋า และกระบวนการรับซื้อ และขายเหรียญ Bitcoin ที่รวดเร็ว ดังนั้น เว็บนี้จึงเป็นหนึ่งแหล่งของคนที่ต้องการซื้อขายเหรียญ Bitcoin นิยมใช้กันมากในประเทศไทย

    ข้อดีของ coins.co.th

    1. สมัครสมาชิกฟรี!
    2. ความรวดเร็วในการรับส่งเงินระหว่างกระเป๋า Bitcoin ทำได้รวดเร็วมากๆ
    3. ความปลอดภัยของเว็บอยู่ในระดับสูง

    ข้อเสียของ coins.co.th

    1. ซื้อขายเหรียญได้จำกัด ไม่เกิน 10 BTC
    2. ยืนยันเอกสารที่ต้องใช้หลายตัว

    วิธีการสมัครเปิดบัญชีกับ Coin.co.th

    [embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=HtysNLW9BYg[/embedyt]

    ต้องการเปิดบัญชีกับ Coin.co.th เพื่อซื้อขายเหรียญ Bitcoin คลิกที่นี่

    4.#Bitcoin.co.th

    เป็นอีกหนึ่งเว็บไซต์ของไทย ซึ่งให้บริการในการซื้อขายเหรียญ bitcoin มาอย่างยาวนาน และได้แตกออกเป็นเว็บไซต์อีกแห่งหนึ่งนั่นคือ bx.in.th นั่นเอง แต่ เว็บหลักคือ bitcoin.co.th ก็ยังอนุญาตให้สามารถทำการซื้อขายเหรียญ Bitcoin โดยจำกัดวงเงินที่วันละ 50,000 บาท แต่ไม่มีกระดานเทรดครบวงจร เหมือนเช่น bx.in.th

    ข้อดีของ Bitcoin.co.th

    1. สมัครสมาชิกฟรี!
    2. การซื้อขายที่ออกแบบมาอย่างง่ายๆ ส่งผลให้ผู้ใช้งานมือใหม่ ไม่ต้องยุ่งยากในการยื่นเอกสารต่างๆ
    3. ความปลอดภัยของเว็บอยู่ในระดับสูง

    ข้อเสียของ Bitcoin.co.th

    1. จำกัดวงเงินที่วันละ 50,000 บาท แต่
    2. ไม่มีกระดานเทรดครบวงจร เหมือนเช่น bx.in.th

    วิธีการสมัครเปิดบัญชีกับ  Bitcoin.co.th และ BX.in.th

    [embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=OMsX2MmR2OM[/embedyt]

    ต้องการเปิดบัญชีกับ Bitcoin.co.th และ BX.in.th และทำการซื้อขายเหรียญ Bitcoin คลิกที่นี่

    5.# TDEX.com

    เว็บกระดานซื้อขายเหรียญ Cryptocurrency น้องใหม่ของไทย  ผู้ก่อตั้ง คือ คุณปรมินทร์ อินโสม ผู้ก่อตั้งเหรียญ ZCoin TDAX ได้เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2560  โดยมีเหรียญ Bitcoin และ Altcoin ซื้อขายได้โดยไม่จำกัดวงเงิน มีกระดานเทรดและมีกราฟบอกปริมาณการซื้อขาย Bitcoin เหมือนเช่น bx.in.th

    ข้อดีของ TDAX.co

    1. การซื้อขายที่ออกแบบมาอย่างง่ายๆ ส่งผลให้ผู้ใช้งานมือใหม่ ไม่ต้องยุ่งยาก
    2. ความรวดเร็วในการรับส่งเงินระหว่างกระเป๋า Bitcoin ทำได้เร็ว
    3. Customer Support บริการตลอด 24 ชั่งโมง

    ข้อเสียของ TDAX.com

    1. ยังมีเหรียญ ซื้อขาย น้อย
    2. เนื่องจากเป็นเว็บไซต์ ใหม่ ความปริมาณการซื้อ ขาย และ น่าเชื่อถือยังน้อย

    วิธีการสมัครเปิดบัญชีกับ  TDAX.com 

    ต้องการเปิดบัญชีกับ TDAX และทำการซื้อขายเหรียญ Bitcoin คลิกที่นี่

     

    ตารางเปรียบเทียบ 5 เว็บไซต์ ซื้อ ขาย Bitcoin ในประเทศไทย

    ลำดับ

    ชื่อเว็บไชต์

    ข้อมูลเว็บไซต์

    ซื้อ Bitcoin

    ขาย Bitcoin

    ค่าธรรมเนียม

    1

    BX.in.th

    เว็บชื้อขาย Bitcoin No. 1 ของไทยและ มีกระดานเทรดเหมือนหุ้น ซื้อได้ไม่จำกัด ขายได้ไม่จำกัด 0.25%ของการซื้อ ขาย
    2

    Local Bitcoin

     เป็นเว็บที่ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยน Bitcoin ระหว่างกัน ได้ทั่วโลก  ซื้อได้ไม่จำกัด  ขายได้ไม่จำกัด  1% ของการซื้อ ขาย
    3

    Coin.co.th

     เป็นอีกเว็บซื้อ ขายเฉพาะ Bitcoin แต่ไม่มีกระดานเทรด  10 BTC/ วัน 10 BTC/ วัน 1% ของการฝาก ถอน
    4

    Bitcoin.co.th

     ให้บริการซื้อขาย bitcoin มาอย่างนานเป็นบริษัทในเครือเดียวกับ  BX.in.th 50,000 บาท/วัน 50,000 บาท/วัน 0.25%ของการซื้อ ขาย
    5

    TDAX.com

     เว็บชื้อขาย Bitcoin น้องใหม่ ของไทยและ มีกระดานเทรดเหมือนหุ้น  ซื้อได้ไม่จำกัด ขายได้ไม่จำกัด 0.25%ของการซื้อ ขาย

     

    สรุปแล้ว 5 แหล่งซื้อขายเหรียญ Bitcoin ในเมืองไทย ที่เราได้ทำการรีวิวให้นี้ถือเป็นแหล่งสำคัญ และมีความปลอดภัยสูง เหมาะสมอย่างยิ่งที่คุณจะใช้เป็นช่องทางในการซื้อ ขาย แลกเปลี่ยนเหรียญ Bitcoin & Altcoin และทำธุรกรรมต่างๆค่ะ ลองสมัครและใช้งานกันดูได้นะค่ะ

    4 เว็บเทรดบิทคอยน์ในไทย ที่ได้รับการรับรอง จาก ก.ล.ต ประจำปี 2563

    วันนี้เราได้รวบรวม 4 เว็บเทรดบิทคอยน์ในไทย ที่ได้รับการรับรอง จาก ก.ล.ต โดยเว็บเทรดทั้ง 4 นี้ สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามบทเฉพาะกาลตามคำสั่งของ ก.ล.ต. หรือ ได้รับ License แล้วนั่นเอง

    อ่านต่อที่นี่

    3 เว็บเทรด Bitcoin ต่างประเทศ ที่น่าเชื่อถือ และมีการซื้อขายสูงสุดปี 2020

    ใครที่อยากลองเทรดในตลาดต่างประเทศ เพื่อกระจายความเสี่ยง บทความนี้ เรามาดูกันว่า 3 เว็บเทรด Bitcoin ต่างประเทศ ที่น่าเชื่อถือ และมีปริมาณการซื้อขายสูงสุดในปี 2020 มีเจ้าไหนบ้าง ไปดูกัน

    อ่านต่อที่นี่

     

    ไทยพาณิชย์ จัดบริการโอนเงินข้ามประเทศผ่าน Blockchain เงินจากญี่ปุ่นมาไทยใน 20 นาที

    ครั้งแรกในไทย สถาบันการเงินไทยเริ่มมีการนำ Blockchain มาใช้งานจริง หลังจากที่ Digital Ventures บริษัทในเครือของธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB ได้เข้าไปลงทุนใน Ripple บริษัท startup ด้าน Blockchain

    ล่าสุด SCB ได้ร่วมมือกับ Ripple และ SBI Remit จากญี่ปุ่น นำ Blockchain มาใช้ในการให้บริการรับโอนเงินระหว่างประเทศแบบ Real Time สำหรับลูกค้ารายย่อยเป็นครั้งแรกในประเทศไทย

    โอนเงินจากญี่ปุ่นมาไทยได้ใน 20 นาที

    อารักษ์ สุธีวงศ์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส Chief Strategy Officer ของ SCB บอกว่า บริการโอนเงินระหว่างประเทศผ่าน Blockchain ครั้งนี้จะเป็นบริการขาเดียว คือ จากญี่ปุ่นมาไทยก่อนในเฟสแรก ลูกค้าบุคคลทั่วไปจากต้นทางประเทศญี่ปุ่นสามารถโอนสกุลเงินเยน (JPY) มาปลายทางบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ SCB ในไทยเป็นสกุลเงินบาท (THB) ผ่านสาขาและตู้เอทีเอ็ม ของ SBI Remit และที่ทำการไปรษณีย์ ประเทศญี่ปุ่นมาบัญชี SCB โดยตรง

    ด้วยเทคโนโลยี Blockchain ระบบจะตรวจสอบและเงินจะเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติภายในเวลาประมาณ 20 นาทีต่อรายการ จากปกติที่การโอนเงินระหว่างประเทศจะใช้เวลามากกว่า 1 วัน (ขึ้นกับระบบและประเทศ)

    “การโอนเงินจากประเทศญี่ปุ่นมายังประเทศไทยแต่ละปีมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท การใช้เทคโนโลยี Blockchain จะทำให้คนไทยในประเทศญี่ปุ่นที่มีอยู่ประมาณ 40,000 คน โอนเงินกลับมายังประเทศไทย และผู้รับเงินในประเทศไทยได้รับเงินอย่างรวดเร็วผ่านบัญชีออมทรัพย์ของ SCB”

    และเร็วๆ นี้ เตรียมเปิดบริการรับโอนเงินครอบคลุมกลุ่มประเทศในทวีปอเมริกา ยุโรป และเอเชียแปซิฟิก

    ครั้งแรกกับ Blockchain ที่เป็นรูปธรรมจากฝั่งผู้ใช้ทั่วไป

    สำหรับในวงการ FinTech แล้ว นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่ Blockchain ถูกนำมาใช้งานเป็นรูปธรรมในฝั่งผู้ใช้ทั่วไป เท่ากับว่าตอนนี้มีธนาคารใหญ่ 2 รายคือ SCB และ KBank ที่นำ Blockchain มาเริ่มต้นให้ใช้งานกันแล้ว

    การที่ SCB เลือกใช้ Blockchain ของ Ripple ที่ถือเป็น Private Blockchain รายใหญ่ของโลก ซึ่ง DV ได้เข้าไปลงทุนด้วย เช่นเดียวกับ SBI Remit ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการโอนเงินระหว่างประเทศ โดยทาง SBI ได้ลงทุนกับ Ripple ด้วยเช่นเดียวกัน

    เป็นรูปแบบพันธมิตรผ่านการลงทุนใน Ripple ด้วยกัน ดังนั้นโอกาสที่จะเกิดพันธมิตรอื่นๆ ผ่าน Ripple จึงเป็นไปได้แน่นอน

    ส่วนการให้บริการรับโอนเงินจากญี่ปุ่นมาไทยผ่าน Blockchain ทาง SCB ได้ทดสอบระบบใน Regulatory Sandbox ของ ธนาคารแห่งประเทศไทย และได้รับอนุญาตนำบริการโอนเงินระหว่างประเทศผ่านเทคโนโลยี Blockchain มาให้บริการเชิงพาณิชย์ได้

    สรุป

    Blockchain กำลังเริ่มแสดงผลให้เห็น โดย SCB เริ่มนำเทคโนโลยีนี้มาใช้งานจริง โดยผู้บริโภคไม่ต้องรู้ว่าสิ่งนี้คืออะไร รู้แค่ว่าเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้บริการโอนเงินเร็วขึ้น และยังปลอดภัยเหมือนเดิม ซึ่งอนาคตน่าจะมีบริการอื่นๆ ตามออกมาอีกและเข้ามาแทนที่ของเทคโนโลยีเดิมๆ แบบผู้ใช้ไม่ต้องรู้ตัว แม้การโอนเงินไปต่างประเทศยังใช้ไม่ได้ (ตอนนี้มีแค่ขาเข้าขาเดียว) แต่อย่างน้อยในฐานะผู้รับเงิน เราก็ได้ใช้ Blockchain กันแล้ว

    BX.in.th Bitcoin Exchange Thailand

    Credit: https://brandinside.asia