Tag: bx.in.th ดีไหม

รวบรวม 22 เว็บไซต์จำเป็น เกี่ยวกับบิทคอยน์ ที่มือใหม่ ห้ามพลาด!

รวบรวมเว็บไซต์จำเป็น เกี่ยวกับบิทคอยน์ ที่มือใหม่ ห้ามพลาด!

มีคำถามที่ผู้เขียนได้รับจากมือใหม่ในวงการบิทคอยน์มากมาย เช่น

บิทคอยน์ คืออะไร? บิทคอยน์ เล่นยังไง? หา bitcoin ได้จากไหน? ขุด bitcoin ยังไง? Bitcoin เป็นแชร์ลูกโซ่?? bitcoin ผิดกฎหมายไหม?

และอีกหลายพันคำถาม  ผู้เขียนจะพยายามตอบโดยผ่านบทความ หวังว่ามือใหม่ทุกคนจะได้คำตอบให้หายสงสัยกันบ้าง ไม่มาก ก็น้อย

20 คำถาม บิทคอยน์ Bitcoin สำหรับมือใหม่ มาไขข้อข้องใจกันเลย!

การลงทุนในตลาด คริปโตเคอเรนซี่ Cryptocurrency เป็นกระแสที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในตอนนี้ สามารถสร้างกำไรได้อย่างมหาศาล หรือขาดทุนได้ในพริบตา หากไม่ได้ศึกษาให้ดี มือใหม่หลายคนห็นเพื่อนรอบข้างเล่นบิทคอยน์ และ altcoin เลยมีความคิดที่อยากจะลองเล่น บิทคอยน์ บ้าง หรือลงทุนไว้บ้าง จากประสบการณ์ผู้เขียน การลงทุนในบิทคอยน์นั้นไม่ได้ง่ายขนาดนั้น บางช่วงเขียวทั้งกระดาน จิตใจฮึกเฮิม (จะรวย!!!คราวนี้แหล่ะเรา) ใส่ไปเต็มเม็ก ผลออกมาขาดทุนย่อยยับ ตามตลาดที่ผันผวน

 

ครั้งนึงผู้เขียนมีกำไรจากเหรียญ DGB ประมาณ 98% แต่ไม่ขาย หลังจากมีข่าวใหญ่ Bitcoin Hard fork ทำให้ติดดอย (ศัพท์ใช้เรียกในกรณีซื้อในราคาสูง ตอนนี้ราคาลดต่ำลงมาก เปรียบเหมือนอยู่ยอดดอยอินทนนท์ 555) ประมาณ (-70%)

ดังนั้นก่อนจะเริ่มก้าวเข้ามาในตลาดบิทคอยน์ ผู้เขียนอยากให้วางแผนการลงทุนให้ดีเสียก่อน และหากยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นหาข้อมูลการเล่นบิทคอยน์อย่างไร วันนี้ Goalbitcoin ได้รวบรวมเว็บไซต์ที่จำเป็นสำหรับมือใหม่ มาให้ได้ลองศึกษากัน   ไปดูกันเลยว่ามีเว็บไซต์ไหนบ้าง???

 

ก่อนที่จะทำการลงทุนก็ต้องซื้อ บิทคอยน์ก่อน ในไทยจะมี  5 เว็บไซต์ที่ให้บริการซื้อขายบิทคอยน์

1. BX.in.th 

เว็บชื้อ ขาย Bitcoin อันดับ 1 ของไทย จะแตกต่างจากแหล่งซื้อ ขาย เหรียญ Bitcoin ที่อื่นๆคือ เปิดซื้อขายในรูปแบบของกระดานหุ้น ทำให้ใครที่ต้องการซื้อ Bitcoin และเหรียญอื่นๆ ไปเพื่อการเก็งกำไร เหมือนหุ้นได้

2. Localbitcoin.com  

เป็นเว็บไซต์ P2P (Peer to Peer หรือ People to People) อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยน Bitcoin ระหว่างกัน ซึ่งสามารถแลกเปลี่ยน Bitcoin กับผู้ใช้งานได้ทั่วโลก มีวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย เช่น Credit card, PayPal, MoneyGram, Western union, Bank Transfer หรือนัดเจอตัวต่อตัวเพื่อซื้อเงินสดได้

3. Coin.co.th

เป็นเว็บไซต์ที่หลายคนชอบใช้ในการซื้อ ขาย Bitcoin ด้วย ความรวดเร็วในการโอนเงิน Bitcoin ระหว่างกระเป๋า และกระบวนการรับซื้อ และขายเหรียญ Bitcoin ที่รวดเร็ว

4. Bitcoin.co.th

เป็นอีกหนึ่งเว็บไซต์ของไทย ซึ่งให้บริการในการซื้อขายเหรียญ bitcoin  และได้แตกออกเป็นเว็บไซต์อีกแห่งหนึ่งนั่นคือ bx.in.th แต่ เว็บหลักคือ bitcoin.co.th ก็ยังอนุญาตให้สามารถทำการซื้อขายเหรียญ Bitcoin

5. CoinBX

เป็นอีกหนึ่งเว็บไซต์น้องใหม่ของไทย ซึ่งให้บริการในการซื้อขายเหรียญ bitcoin โดยมีเฉพาะเหรียญ Bitcoin เท่านั้น

รีวิว 5 แหล่งซื้อขาย Bitcoin ในไทย เปรียบเทียบชัดๆกันไปเลย!

 

 6.Coinmarketcap.com

เป็นเว็บที่สามารถเช็คราคา bitcoin และ Altcoin ได้ทั่วโลก มีลูกเล่นต่างๆอีกมากมาย เช่น กราฟ, Trending ,ข้อมูลย้อนหลัง และ tool อื่นๆๆ

มีหลายเว็บไซต์ที่ใช้เทรด แต่มีอยู่ 2 แหล่งใหญ่ที่คนทั่วโลกใช้เทรดบิทคอยน์ และ Altcoin อยู่ที่นี่ 

7. Bitfinex

เป็นเว็บกระดานเทรดเหรียญดิจิตอล  ที่ใหญ่ที่สุด สัญชาติไต้หวัน ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2012 เว็บนี้ยังมีเหรียญดิจิตอลอื่นๆให้เทรดจำนวนมาก  อนุญาติให้เทรดแบบ margin ด้วย ปริมาณการซื้อขายต่อวันอยู่ที่ $1,765,985,568 นับว่าเป็นจำนวนที่สูงที่สุด เหมาะที่จะย้ายบิทคอยน์ Altcoin มาขายทำกำไรที่นี่ ค่าธรรมเนียมในการซื้อขายเหรียญดิจิตอล อยู่ที่ 0.20 เปอร์เซ็นต์

8. Bittrex

เป็นกระดานเทรดของบริษัท  Bittrex inc ซึ่งมีฐานอยู่ในอเมริกา มีความน่าเชื่อถือ และมีปริมาณการซื้อขายจำนวนมาก เหมาะที่จะย้ายบิทคอยน์ Altcoin มาขายทำกำไรที่นี่

**** Poloniex

เป็นกระดานเทรดที่เคยได้รับความนิยมอย่างมาก แต่หลังจากทีมงานออกมาเปลี่ยนแปลงข้อตกลงในการใช้งาน และทีม Support ตอบปัญหาล่าช้า ทำให้มีผู้ใช้หลายคนเกิดความไม่พอใจ ย้ายหนีมาที่ Bitfinex และ Bittrex ทำให้ปริมาณการซื้อขายเลยตกลงมา

>>>10 เว็บเทรด Bitcoin ที่มีการซื้อขายสูง ที่อาจทำให้คุณรวย!!<<<

สำหรับใครที่มองหาเว็บไซต์ที่ใช้ตีกราฟ มี Indicator สายเทคนิค ต้องไม่พลาด กับเว็บไซต์นี้

9. Tradingview  

เป็นเว็บไซต์ฟรีที่ใช้ วิเคราะห์กราฟ มีอินดิเคเตอร์ให้ใช้อย่างหลากหลาย มีความยืดหยุ่นสูง สามารถหาจุดซื้อ จุดขายบิทคอยน์ได้ง่ายขึ้น สามารถดูกราฟได้ทุกตลาดทั้ง Forex, หุ้น และ Cryptocurrency

10. Coinigy 

เป็นเว็บไซต์ที่ใช้ วิเคราะห์กราฟในตลาด Cryptocurrency โดยเฉพาะ  มีอินดิเคเตอร์ให้ใช้อย่างหลากหลาย ใช้งานง่าย ปรับรูปแบบได้ตามชอบ สามารถหาจุดซื้อ จุดขายบิทคอยน์ได้ง่ายขึ้น ใช้ฟรี 1 เดือน

 

ในกรณีที่มือใหม่อยากเทรดตามกูรู ก็มีเว็บไซต์ที่สามารถ Copy trade ได้ เช่นกัน

ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นนำเรื่อง Copytrade  สำหรับมือใหม่ Copytrade หมายถึง การเลือกบุคคลที่ทำการเทรดให้เรา โดยเราสามารถทำ Copy การซื้อ ขายตาม กูรู ได้ โดยการ Copytrade สามารถทำบนเว็บไซต์ของทางโบรกเกอร์ที่ให้บริการ มีเว็บไซต์ที่ให้บริการในการ Copytrade ที่น่าเชื่อถือมีอยู่ 2 เจ้า ดังนี้

11. 1broker 

เป็นเว็บไซต์ที่ใช้สำหรับซื้อ ขาย  Bitcoin เทรด forex, stocks, commodities, indices and cryptocurrencies อื่นๆ มีระบบ copytrade ให้สามารถตามการซื้อขายกับ นักเทรด มืออาชีพได้อย่างง่ายดาย

12. Etoro 

เป็นเว็บไซต์ซื้อขายเงินตรา (Forex) ที่น่าเชื่อถือ และมีโปรแกรม Copytrade ให้สามารถซื้อขายได้ตามกูรู มี Forex และ Bitcoin Copytrade ได้

หลักการง่ายๆต่อไปนี้คุณสามารถนำมาใช้ในการเลือกทำ Copytrade ได้อย่างง่ายดาย และมีความปลอดภัยอย่างมาก เช่น เช็คประวัติ และผลงานในเดือนที่ผ่านมา เลือกดูด้วยว่าความเสี่ยงอยู่ในระดับ ที่ยอมรับได้มั้ย?  หลังจากที่เช็คทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เราสามารถแบ่งเงินลงทุนบางส่วน(แนะนำใช้เงินเย็น ที่พร้อมจะเสียโดยไม่เสียดาย) มาทำการ Copytrade ได้ 

 

สำหรับนักขุด ผู้เขียนได้ทดสอบ Cloud mining มาหลายเจ้า ซึ่งบริษัทเหล่านี้มีตัวตนจริง เชื่อถือได้ ได้แก่

12. Genesis mining Cloud mining อันดับ 1 มีเหมืองอยู่ที่ไอซ์แลนด์ มีความน่าเชื่อถือที่สุด จ่ายเหรียญให้ทุกวัน

13. Hashflare Cloud mining ของแท้ 1 ใน 3 เหมืองของโลกที่ยังเปิดให้บริการอยู่

14. Hashnest ดำเนินงานโดย Bitmain ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องขุด ASIC ที่รู้จักกันดีในนาม Antminer

15. Hashing24 ขุดผ่านBitfury ซึ่งมี Data center อยู่ที่ ไอซ์แลนด์และจอร์เจีย

16. HashBX เป็นเหมืองของคนไทย อยู่ที่อุดรธานี

 

ส่วนใครที่ต้องการเก็บเหรียญ Bitcoin Altcoin ไว้ในที่ปลอดภัย กระเป๋าสตางค์แบบฮาร์ดแวร์ เป็นอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ ที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะเพื่อใช้จัดเก็บบิทคอยน์ให้ปลอดภัย หลักการทำงานคือ จะต้องนำตัวอุปกรณ์จะต้องเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรือ แท็บเล็ท ก่อนจะสามารถใช้งานบิทคอยน์ได้

17. Ledger Nano   

กระเป๋าสตางค์แบบฮาร์ดแวร์ เป็นอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์  เป็นตัวที่ราคาถูกที่สุดในบรรดาเครื่องมีมีหน้าจอ  ผลิตและจำหน่ายโดย Ledger บริษัทรักษาความปลอดภัยบิทคอยน์ชื่อดัง

18. Trezor 

กระเป๋าสตางค์แบบฮาร์ดแวร์ เป็นอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์  ใช้จัดเก็บบิทคอยน์ให้ปลอดภัย  กระเป๋าสตางค์แบบฮาร์ดแวร์นี้เหมาะสำหรับผู้ที่คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก มีความปลอดภัยสูงเนื่องจากเก็บกุญแจส่วนตัวไว้นอกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตโดยตรง

หาข้อมูล รวบรวม กระเป๋าบิทคอยน์ ประเภทต่าง ๆที่คุณควรรู้ ได้ที่นี่

และสุดท้ายแหล่งให้ความรู้ ข้อมูล เกี่ยวกับ บิทคอยน์ ในไทย ที่ทำให้คุณไม่พลาดข่าวสารในโลกคริปโต

19.  Goalbitcoin.com :

เป็นแหล่งให้ข้อมูล ความรู้ Bitcoin & Altcoin เหมาะสำหรับมือใหม่ ผู้เริ่มต้นลงทุนในวงการบิทคอยน์

20.  Thaicrypto.com

เป็นเว็บไซท์เพื่อนำเสนอข่าวสารด้านการลงทุนในเงินหรือสินทรัพย์ดิจิตัล และนำเสนอข่าวเกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชนซึ่งจะก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในอนาคต

21.  siamblockchain.com :

 ช่วยนำเสนอสารเกี่ยวกับ Cryptocurrency และเทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อคนไทย ในภาษาไทย

22.  ICOreview.com:

เว็บไซต์นำเสนอ ข่าวสาร รีวิว เหรียญ ICO 

ยังมีเว็บไซต์ดีๆอีกมากมายสำหรับนักลงทุนบิทคอยน์ มือใหม่ ก่อนจะลงทุนควรจะต้องศึกษาให้มากก่อน เพราะสมัยนี้ในโลกอินเตอร์เน็ตมีข้อมูลหลากหลาย เพียงแค่เราขยันหน่อย คุณจะรู้ว่ามีข้อมูลดีดีอีกเยอะ 



Top 10 Best Altcoins จุดเด่น จุดด้อย ยังไง? ตัวไหนน่าลงทุน

เคยสงสัยไหม ว่า Bitcoinและสกุลเงินดิจิตอลคืออะไร ตัวไหนเป็น Top 10 Best Altcoins จุดเด่น จุดด้อย ยังไง? ตัวไหนน่าลงทุน ? 

 

ในบทความนี้มีคำตอบให้คุณ เริ่มด้วยการมารู้จักกับสกุลเงินหลักเลย นั่นก็คือ Bitcoin ซึ่งเป็น CryptoCurrency หรือสกุลเงินดิจิตอลแรกของโลก และยังมีสกุลเงินอื่นที่เรียกว่า เหรียญ Altcoin หรือ Alternate Coin คือเหรียญ cryptocurrency ทุกๆเหรียญที่ไม่ใช่ Bitcoin เนื่องด้วยความที่เหรียญ Bitcoin นั้นคือต้นกำเนิดของทุกๆสิ่ง ทำให้เหรียญที่โผล่ออกมาหลังจากนั้นบนเทคโนโลยี Blockchain จึงถูกเรียกว่าเหรียญทางเลือกหมด

 

วันนี้เราจะนำคุณไปรู้จักกับ Bitcoin และ Altcoin ที่น่าลงทุน10 อันดับ ในตารางการซื้อขายเหรียญพร้อมกับจุดเด่นจุดด้อย 

5 เว็บไซต์ซื้อขาย Bitcoin ในไทย หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่

Top 10 Best Altcoins จุดเด่น จุดด้อย 

อันดับ

จุดเด่น

จุดด้อย

 อันดับ 1 Bitcoin (BTC)

เริ่มใช้งานในปี 2009

– เป็น CryptoCurrency แรกของโลก

– มีมูลค่าการซื้อขายในตลาด CryptoCurrency สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก

– เป็นทียอมรับอย่างสากลในการแลกเปลี่ยนซื้อขาย

– ค่าธรรมเนียมในการแลกเปลี่ยนสูง

– รอการยืนยัน transection นาน

Bitcoin มีการพัฒนาต่อยอดระบบไปได้ช้า

อันดับ 2 Ether (ETH)

เริ่มใช้งานในปี 2015

– เป็นที่ต้องการในการรัน application บนระบบ Ethereum

– เป็นที่ต้องการจำนวนมากในการระดมทุน ICO ( Initial Coin Offering )

– องค์กรและสถาบันการศึกษาจำนวนมากเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับเทคโนโลยี Ethereum

Ether คือ เชื้อเพลิงสำหรับระบบ Ethereum ไม่ใช่ออกแบบเพื่อเป็นสกุลเงินแลกเปลี่ยน ณ ตอนนี้
อันดับ3 Bitcoin Cash (BCH)

เริ่มใช้งานในปี 2017

– HardFork พื้นฐานระบบมากจาก Bitcoin

– รองรับธุรกรรมทางการเงินพร้อมๆกันได้มากกว่า Bitcoin

– เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วสำหรับเว็บไซต์เทรดดิ้ง และ wallet ซอฟต์แวร์

– อยู่ในช่วงเริ่มต้น ยังไม่มี Roadmap ที่แน่ชัดนัก

– ยังคลุมเครือสำหรับผู้ใช้งาน

อันดับ 4 Ripple (XRP)

เริ่มใช้งานในปี 2013

– เป็นที่ยอมรับของสถาบันการเงิน

สร้างขึ้นมาสถาบันการเงินในการแลกเปลี่ยนเงินตราและทรัพย์สินระหว่างประเทศ

– ยืนยันธุรกรรมการเงินได้รวดเร็วในระดับวินาที

– ทำงานบนระบบ private blockchain ซึ่งถูกจำกัดให้ดูแลโดยองค์กรต่างๆ

– บริษัทRipple lap มีส่วนครอบครองจำนวนเหรียญมากถึง 60% ของจำนวนทั้งหมดในการตลาด

อันดับ 5 Litecoin (LTC)

เริ่มใช้งานในปี 2011

– เป็นสกุลเงินอันดับสองของโลก CryptoCurrency

– คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่า ด้วยจำนวนที่มาก และมีราคาถูกกว่า Bitcoin

– มีค่าธรรมเนียมถูก

 

แถบจะเหมือน Bitcoin และไม่มีฟีเจอร์ใหม่ๆให้ผู้ใช้งาน เหมือนเหรียญใหม่ๆ
อันดับ 6 Dash

เริ่มใช้งานในปี 2014

– สามารถปกปิดข้อมูลธุรกรรมการเงินต่อบุคคลภายนอกได้

– ออกแบบมาเพื่อเป็น CryptoCurrency ในการแลกเปลี่ยนซื้อ-ขาย

– ยืนยันธุรกรรมการเงินได้ในระดับวินาที

– มีระบบ ecosystem ที่ดีในการพัฒนาต่อยอดระบบ Dash

– ยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย

– อายุของสกุลเงิน Dash ยังไม่มากนัก

อันดับ 7 NEM (XEM)

เริ่มใช้งานในปี 2014

– NEM เป็นระบบ blockchain ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ไม่ได้ fork มาจาก CryptoCurrency ใดๆ

– เป็นมิตรกับ developer ด้วยความที่พัฒนาบนภาษาสากลอย่าง Java

– มีฟีเจอร์หลากหลายในการพัฒนา application blockchain บน NEM

 NEM ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นระบบ Blockchain คล้ายๆกับ Ethereum มากกว่าการที่จะใช้เป็น CryptoCurrency ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
อันดับ 8 IOTA

เริ่มใช้งานในปี 2014

– ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมทำธุรกรรมการเงิน

– สามารถรองรับการใช้งานร้อมๆกันได้เป็นจำนวนมากในระบบ โดยที่ไม่ต้องทำการขยาย block size เหมือน Blockchain ทั่วไป

– ยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย
อันดับ 9 Monero(XMR)

เริ่มใช้งานในปี 2014

– ด้วยความที่ไม่สามารถติดตามธุรกรรมทางการเงินได้ เหรียญ Monero จะมีค่าตลอดไปถึงแม้ว่าจะถูกยักยอกส่งผ่านจากบัญชีที่ทำผิดกฎหมายก็ตาม

– ปกปิดธุรกรรมการเงินของผู้ใช้ ทำให้บุคคลภายนอกไม่สามารถติดตามธุรกรรมย้อนหลัง

– Application หรือ Wallet ที่ใช้งานกับสกุลเงินนี้มีจำนวนน้อยมากๆ ใช้งานได้ยาก
อันดับ 10 NEO

เริ่มใช้งานในปี 2014

NEO สามารถสร้าง เก็บ และแลกเปลี่ยนทรัพย์สินหรือสิ่งของในรูปแบบของเหรียญได้ ไม่ว่าจะเป็นของที่มีตัวตนบนโลกจริงๆหรือบนโลกดิจิตอล เช่นที่ดิน ทอง หุ้น สกุลเงิน เหรียญ ICO คะแนนสะสมแต้ม และอื่นๆอีกมาก – ข้อมูลข่าวสารติดตามยากเพราะเป็นภาษาจีน เราอาจได้ข่าวอาจช้ากว่าคนอื่น

– การแทรกแซงของรัฐบาลจีนในวงการ Blockchain

ตัวอย่างใน YouTube ที่ทำการทดลอง ถือเหรียญ Top 10 Best Altcoins ในปีที่แล้ว มาดูกันว่า 1 ปีผ่านไป เงินจำนวนนี้เพิ่มมูลค่าเป็นเท่าไหร่? ไปดูกันเลย!

[embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=_wNb9ZbPRYY[/embedyt]

ผู้เขียนอยากจะแนะนำมือใหม่ว่า การที่เราถือเหรียญใดๆไว้ ควรพิจารณาหลายอย่างประกอบด้วย การที่เราแบ่งเงินลงทุน มาเพื่อถือเหรียญที่มีอนาคต ในระยะยาว ถือว่าคุ้มค่ามาก จะเห็นได้จากตัวอย่างใน YouTube ที่ทำการทดลอง ถือเหรียญ Top 10 Best Altcoins ในปีที่แล้ว โดยถ้าเราลงทุนเหรียญเหล่านี้ ตัวละ 1000 ดอลล่าร์ 1 ปี ผ่านไป เงินก้อนนี้จะมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น เป็น 240,279 ดอลล่าร์ 

 

สรุป CryptoCurrency ยังเป็นสิ่งที่น่าลงทุนมากเพราะ Bitcoin ยังมีการเติบโตเรื่อยๆ และยังครองส่วนแบ่งการตลาดส่วนใหญ่ของตลาด ปริมาณการซื้อขายของมันมากกว่าเงินดิจิตอลสกุลอื่นๆ บางคนก็เชื่อว่าเงินดิจิตอลนี้จะเป็นฟองสบู่ที่ใกล้จะแตก แต่ด้วยการเมืองที่มีความขัดแย้งต่าง ๆ และสภาพเศรษฐกิจจะทำให้ราคา bitcoin สูงขึ้นยิ่งกว่านี้ แต่เหรียญ Altcoin อย่าง Ethereum และ Ripple นั้นถูกใช้ในองกรณ์ก็เริ่มมีความเป็นที่นิยมเช่นกัน ขณะที่เงินดิจิตอลอื่นๆก็มีฟีเจอร์ที่เพิ่มเติมมาจาก Bitcoin ซึ่งเทรนตอนนี้เงินดิจิตอลยังไปได้ดี จึงไม่แปลกที่สกุลเงินดิจิตอลเหล่านี้จึงน่าลงทุนเพื่อกินกำไรจากการเติบโตของมัน




Altcoin คือ อะไร? แนะนำวิธีหารายได้กับ Altcoin

สงสัยกันมั้ย Altcoin คือ อะไร ??? มันเกี่ยวข้องอะไรกับ บิทคอยน์??

 

ในช่วงปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะ 3-4 เดือนนี้ หลายคนได้เห็นการเปลี่ยนแปลง อย่างรุนแรง และ รวดเร็ว ของ วงการ Cryptocurrency หรือเงินสกุลเงินดิจิตอล  โดยเฉพาะตัวดังๆอย่าง Bitcoin ที่ทุกคนคงเคยได้ยิน กันมา (รวมทั้งตัวผู้เขียน ที่ ก่อนหน้านี้ ก็รู้จักแต่ Bitcoin นี่แหละ ไอ้อีกเป็นร้อยตัวที่เหลือไม่รู้จักกันเลย ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ใช้ทำอะไรด้วยซ้ำ)

 

เมื่อได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และ มันใกล้ตัวเรา มากขึ้นแล้ว เลยต้องศึกษาและติดตามมันให้ทันซะหน่อย
เพราะเงินสกุลเงินดิจิตอล  เป็นเรื่องที่น่าสนใจ และใกล้ตัวเราเรื่อยๆๆ วันนี้จึงอยากหยิบยกเรื่อง Altcoin สกุลเงินดิติตอลทางเลือก มาฝากกัน จะได้ทันโลกไม่ตกยุค

 

Altcoin คือ อะไร?? 

 Altcoins หรือย่อมาจาก Alternative Coins แปลตรงตัวเลย “เหรียญทางเลือก” โดยหลัก ๆ แล้ว Bitcoin คือเหรียญหลัก ที่ถือกำเนิดขึ้นมาก่อน ส่วน Altcoins คือ การเรียกสกุลเงินดิจิตอลต่าง ๆ นอกเหนือจาก Bitcoin

(วันนี้ Bitcoin ขึ้นไปแตะที่ $4279  ราคา 141,207 บาท ข้อมูลจาก Coinmarketcap.com)

 

เหรียญไหนบ้างที่เป็น Altcoin ?

บิทคอยน์ คือ เหรียญดิจิตอลหลัก ใน Cryptocurrency  ส่วนเหรียญอื่นๆๆ เป็น Altcoins หมด เราสามารถดูข้อมูลเหรียญ Altcoin ทั้งหมดได้ที่ เว็บ Coinmarketcap.com ที่นี่เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูล ราคา กราฟ ของ Altcoin ทั้งหมด

ยกตัวอย่าง  Altcoin ที่คุ้นหน้าคุ้นตา ใน Top 10 จาก Coinmarketcap.com  เช่น  Ethereum (ETH), Bitcoin Cash(BCC), Ripple (XRP),Monero (XMR) , Litecoin (LTC), Dash, NEO, IOTA , Omisego และ อีกมากมาย รวมทั้งหมดกว่า 800 ชนิดเหรียญ

 

Altcoin ใช้ทำอะไรได้บ้าง??

Altcoins ส่วนใหญ่จะโคลน Bitcoin โดยการเปลี่ยนลักษณะเฉพาะเล็กน้อย เช่น ความเร็วในการทำธุรกรรม วิธีการนำไปใช้ บางเหรียญนำไปใช้ในองค์กร บางเหรียญนำไปใช้ระบบต่างๆที่หลายหลาย

จะเห็นได้ว่ามีเหรียญสกุลดิจิตอลต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมายหลังจากมี Bitcoin ถึงแม้ว่าแต่ละเหรียญจะใช้ระบบ Blockchain เหมือน bitcoin แต่ว่า แต่ละเหรียญได้เพิ่มความสามารถที่แตกต่างกัน เช่น ความเร็วในการโอน, ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้, จำนวนที่สามารถขุด มากกว่านั้น แต่ละเหรียญ ยังมีจุดประสงค์ ที่แตกต่างกัน

เช่น Ripple ร่วมมือกับธนาคารหลายแห่งทั่วโลก เพื่อที่จะต้องการเป็น Financial coin หรือ Zcash coin ที่เน้นที่ความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ หรือ ไม่สามารถตรวจสอบได้ และยังมีเหรียญที่เป็น Assets ที่ไป Contact กับเหรียญอื่น เช่น Ethereum , Waves, NEO เป็นต้น



มีวิธีไหนบ้าง ให้ได้ Altcoin ??

สำหรับการได้มาของเหรียญ Atlcoins นั้น ก็ยังคงใช้หลักการเช่นเดียวกับ Bitcoin คือ การขุด และการซื้อ

โดยหลัก ๆ แล้วหากเราขุด Altcoins บน Pool แล้วให้โอนอัตโนมัติเข้า Exchange เพื่อแลกเปลี่ยน หรือโอนเข้า wallet ของเหรียญนั้น ๆ โดยตรง ซึ่งมีเว็บไซต์ให้บริการ wallet สำหรับกระเป๋า Altcoin อยู่หลายเว็บ

ในเมืองไทยก็คงเป็น bx.in.th เป็นเว็บซื้อขายบิทคอยน์ และ altcoin เจ้าแรกของไทย ที่มีบริการ wallet altcoin แต่มีเหรียญให้เลือกไม่มากนักเพียงแค่ 20 คู่เหรียญ แต่ก็เหมาะสำหรับการเริ่มต้น

สำหรับใครที่ต้องการหา Altcoin ตัวใหม่ไว้ทำกำไร แนะนำซื้อได้ที่เว็บต่างประเทศที่นิยม เช่น Binance, Bittrex , Kucoin, Poloniex, HitBTC

หาข้อมูล 5 แหล่งซื้อขาย Bitcoin และ Atlcoin ในเมืองไทยได้ที่นี่!

 

จะทำกำไรกับ Altcoin ได้อย่างไร?

การทำกำไรจากการถือ Altcoin มี  2 ทางเลือก ดังนี้

1.ซื้อ  Altcoin  ทำกำไรระยะสั้น

วิธีนี้สามารถทำกำไรได้ภายในระยะเวลาที่รวดเร็วมากกว่าสายถือยาว เรียกได้ว่าเป็น สายเทคนิค ก็หมายถึงการใช้กราฟต่างๆเข้ามาช่วยในการทำนายราคาที่น่าจะเกิดขึ้นในอนาคตและทำกำไรจากมันนั่นเอง

จากประสบการณ์การเทรดบิทคอยน์ และ Altcoin  ผู้เขียนใช้ Indicator ในการช่วยตัดสินใจ เช่น Stochastic, MACD , RSI  โดยตัว Indicator หรือ ที่เรียกกัน ว่า อินดี้  เป็น เครื่องมือที่จะช่วยในการชี้วัดนั้นไม่ควรใช้เกิน 3 ตัว เพื่อที่ว่าคุณจะได้ไม่ต้องรอสัญญาณนานเกินไป และก็ไม่น้อยเกินไปจนทำให้การอ่านค่าสัญญาณนั้นไม่แม่น

หลายคนเป็นสายเทรด หรือพวก ซื้อขายเก็งกำไรระยะสั้นๆ พวกนี้ชอบเทรด altcoin เพราะว่า มีความผันผวนของราคา แกว่งขึ้นลงแรงๆ ให้เก็งกำไรได้มาก หลายเท่า โดยเฉพาะ ช่วงที่ผ่านมา มันแกว่งทางด้านบวก จะเห็นค่าเงินมัน ดีดขึ้น กว่า 3 เท่าในรอบ 2-3 เดือน พวกสายเทรด เลยสนุกกันใหญ่ ตอนนี้ รวยกันถ้วนหน้า

8 วิธีเล่น บิทคอยน์ Bitcoin ให้ได้กําไร 100 % ใช้ได้จริง

 

2.ซื้อ  Altcoin  เพื่อลงทุนระยะยาว 

วิธีนี้ถือว่าอาจจะต้องใช้เวลาซะหน่อย เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลามาเฝ้าหน้าจอ โดยเทคนิคในการเลือกให้เลือกเหรียญที่ติด top 10 ใน list coinmarketcap เป็นเหรียญที่มีพื้นฐานดี  วิธีนี้อาจจะเป็นวิธีที่ดูช้าหน่อยแต่ เราสามารถได้เก็บกินกำไร คำโต บางทีอาจจะมากกว่า 10 เท่า

 

สำหรับตัวผู้เขียนเอง เลือกทั้ง 2 แบบ ทั้งการเกร็งกำไร และถือไว้ระยะยาว เพื่อกระจายความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น

 

ยังไงอยากให้มือใหม่ทุกคนศึกษาหาความรู้เรื่องสกุลเงินดิจิตอล บิทคอยน์ Altcoin ให้มากๆ ไม่อยากให้เป็นเหมือนเม่าในตลาดคริปโต ผู้เขียนมีความเชื่อว่าถ้าเราได้ศึกษาหา ข้อมูล และมีวินัย มันจะเป็นเกราะป้องกันตัวเราได้อย่างดี

อาจไม่ใช่ทุกคนที่สำเร็จจากตลาดคริปโตนี้ แต่เมื่อมันเป็นโอกาส คุณก็น่าจะลองนะ! บางทีสิ่งที่คุณแสวงหามาทั้งชีวิต อาจเป็นแค่เรื่องราวที่อยู่ในบทความชิ้นนี้ก็ได้ ผู้เขียนขอให้คุณประสบความสำเร็จในการเข้ามาในตลาดนี้ และสนุกกับอิสรภาพทางการเงิน และวิถีชีวิตที่จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงของคุณ!

Top 10 Best Altcoins จุดเด่น จุดด้อย ยังไง? ตัวไหนน่าลงทุน

เคยสงสัยไหม ว่า Bitcoinและสกุลเงินดิจิตอลคืออะไร ตัวไหนเป็น Top 10 Best Altcoins จุดเด่น จุดด้อย ยังไง? ตัวไหนน่าลงทุน ? ในบทความนี้มีคำตอบให้คุณ เริ่มด้วยการมารู้จักกับสกุลเงินหลักเลย นั่นก็คือ Bitcoin ซึ่งเป็น CryptoCurrency หรือสกุลเงินดิจิตอลแรกของโลก และยังมีสกุลเงินอื่นที่เรียกว่า เหรียญ Altcoin หรือ Alternate Coin คือเหรียญ cryptocurrency

>>>อ่านต่อ ที่นี่<<<




มาดู วิธีใช้งาน กับ bx.in.th เว็บเทรดเหรียญอันดับ 1 ในเมืองไทย

หลังจากที่เราได้ทำความรู้จักกับ Bitcoin และ วิธีสมัครใช้งาน ฺBX เว็บเทรดเหรียญ อย่างง่ายใน ตอนที่ 1 แล้ว วันนี้จะพาทุกท่านมาสู่ขั้นตอนต่อไปในตอนที่ 2 นั่นเอง นั่นคือ การยืนยันตัวตนกับ bx.in.th

 

เนื่องจากการเทรดไม่ว่าจะเป็น หุ้น ทอง ค่าเงิน หรือ แม้กระทั่ง Cryptocurrency ทั้งหมดเป็นเรื่องของเงินๆทองๆ และความปลอดภัย การยืนยันตัวตนกับระบบก่อนที่จะเริ่มซื้อขายนั้นถือเป็นเรื่องจำเป็นเป็นอย่างมาก ฉนั้นมาเริ่มกันเลยสำหรับการยืนยันตัวตนกับ bx.in.th

 

1. เข้าสู่ระบบของ bx.in.th (อย่าลืมเปลี่ยน Password  ที่ระบบสร้างมาให้นะจ๊ะ เพื่อให้ง่ายต่อการจำ)

 

 

2. กดปุ่ม My funds  และกด Deposit ระบบจะพาเข้าสู่หน้ากรอกข้อมูล และแนบหลักฐานการยืนยันตัวตนโดยอัติโนมัติ

โดยการกรอกข้อมูลก็จะเป็นข้อมูลทั่วไปเช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หมายเลขบัตรประชาชน หรือ หมายเลขหนังสือเดินทาง (Passport)

และนอกจากนั้น เรายังต้องสแกนหรือ ถ่ายภาพประชาชน และ Selfie บัตรปะชาชน กับกระดาษที่เขียนว่า bx.in.th พร้อมลายเซ็นต์ด้วยน๊ะจ๊ะ (และคำเตือนที่ขึ้นอยู่หน้าเว็บว่าการอัพโหลดหลักฐานปลอมอาจทำให้เกิดการ Ban ออกจากระบบถาวร!) เมื่อข้อมูลและหลักฐานการยืนยันตัวตนครบแล้วก็สามารถกด Upload ได้เลย!

*** เมื่อระบบ Confirm แล้ว จะขึ้นหน้านี้ ***

***** ไม่ต้องกด Cancel Verification นะ เพราะไม่งั้นต้องทำการ Verify ใหม่ ****

3. รอการตรวจสอบเอกสารการยืนยันตัวตนจากทีมงาน

(ระบบหน้าเว็บไม่ได้บอกแหะ ว่าต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ในการตรวจสอบ สำหรับผู้เขียนใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ก็มีการแจ้งตอบกลับมา ว่ายังไม่อนุมัติ เพราะรูปถ่ายไม่ชัด เลยต้องทำการแนบส่งไปใหม่ จากนั้นไม่ถึง ชั่วโมง ก็ได้รับการอนุมัติ )

 

หลังจากที่ระบบอนุมัติบัญชีให้แล้วเรามาดูกันว่า จะเริ่มฝากเงินอย่างไร เข้าเทรดอย่างไร และระบบของ bx.in.th เป็นอย่างไร ไปดูกัน

 

การฝากเงินเข้ากระเป๋า  เพื่อซื้อ Bitcoin ซึ่งจะสามารถนำเงินเข้าได้หลังจากระบบ Verify เรียบร้อยแล้ว ใช้เวลาไม่นาน  ขั้นตอนมีดังนี้

  1. กด My Funds
  2. กด Deposit
  3. เลือกธนาคาร เพื่อโอนเข้าบัญชี Bx
  4. ใส่จำนวนเงิน
  5. กดปุ่ม Create Deposit 

 6. โอนเงินเข้า Bx ตามจำนวน ที่ระบุไว้ 

 7. ทำการแนบ Slip และ ระบุธนาคาร หมายเลขธนาคาร ที่ใช้โอน

 8. กด Payment Completed 

9. รออนุมัติ ใช้เวลาประมาณ ไม่เกิน 30 นาที

10. เมื่อเงินเข้าระบบแล้ว ในบัญชีของเรา จะเห็นเงินบาทอยู่ในบัญชีขึ้นมาในหน้าต่างมุมบนขวามือตามจำนวนที่โอนเข้าไป

 

ขั้นตอนการซื้อ Bitcoin หรือ เหรียญอื่นๆ ใน BX

  1. คลิก Trading  เพื่อเปิดคำสั่งซื้อ (เราสามารถใส่ เรท ราคาที่เราต้องการ ซื้อได้ ดูเทียบกับ คำสั่ง ซื้อ ขาย ของคนอื่นๆครับ แต่ถ้าต้องการบิทคอยน์เลย ก็ใช้ราคาตลาดซึ่งจะแสดงให้เห็นอัตโนมัติ)
  2. ใส่จำนวนที่ต้องการ แล้ว กด Create Order  เสร็จแล้วรอ คนมา ขายให้เรา

   3. ถ้าสามารถ ซื้อ ได้แล้ว จำนวน BTC จะขึ้นโชว์ตามภาพ

 

ขั้นตอนการโอน Bitcoin

หลังจากที่เรามี Bitcoins 1ในกระเป๋า Bx แล้ว เราสามารถ Transfer ( โอนบิทคอยน์ ) ไปยังบัญชี Bitcoins

ของบุคคลอื่นได้ดังนี้
1. คลิก My Funds > คลิก Withdraw > คลิก Bitcoin
– ใส่จำนวนบิทคอยน์ที่ต้องการส่ง (อย่าลืมเผื่อไว้สำหรับค่าธรรมเนียมที่แสดงด้วย)
– ตรวจสอบที่ Total to Receive ด้วย ว่าตรงตามยอดที่ต้องการโอนไปหรือไม่ (ค่าธรรมเนียมหักจากยอดที่โอนไป)
– คลิก Withdraw


2. ไปคลิกยืนยันการโอนบิทยคอยน์ที่ e-mail ที่ใช้สมัครจากนั้นรอยืนยันการโอนจากระบบ

 

 

เสร็จข้ั้นตอนการโอนบิทคอยน์

รอระบบทำการ Confirm โดยส่วนใหญ่จะใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง (แต่บางครั้งอาจนานถึง 24 ชั่วโมง) ให้เรามั่นเช็คเงินจากกระเป๋าปลายทาง หากมีเงินเข้าบัญชีแล้ว แปลว่าการถอนเงินเรียบร้อยแล้ว

เมื่อศึกษาเกี่ยวกับบิทคอยน์จนเป็นที่เข้าใจดีแล้ว ก็สามารถไปสมัครกระเป๋าบิทคอยน์ ใน Bx.in.th  ได้เลย

[embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=64hq3Ve4JUI[/embedyt]



10 เว็บเทรด Bitcoin ที่มีการซื้อขายสูง ที่อาจทำให้คุณรวย!!

ปัจจุบันมี เว็บเทรด Bitcoin เพื่อซื้อขายแลกเปลี่ยนเหรียญผุดขึ้นมามากมายทั่วโลก สำหรับมือใหม่หลายคน ไม่รู้จะเลือกเทรดบิทคอยน์ที่ไหนดี?? การเลือกเว็บเทรดบิทคอยน์ที่ดีนั้น จะมีผลต่อการเทรดของคุณอย่างมาก มันอาจจะเป็นตัวชี้วัดในการทำกำไรในอนาคตของคุณเลยก็ว่าได้ มีเว็บเทรดจำนวนมากก็จริง แต่เว็บเทรดที่น่าเชื่อถือ และมีปริมาณการซื้อขายสูงมีอยู่ไม่กี่เจ้า

>>>อ่านต่อ ที่นี่<<<

Coinmama: Buy Bitcoins with Credit Card

ลองสมัคร BX เว็บซื้อ ขาย Bitcoin แห่งแรกของไทย กันเถอะ!

ก่อนอื่น มือใหม่หลายๆคนรู้และเข้าใจกันหรือยังว่า Bitcoin คืออะไร?

 

มาทำความรู้จักคร่าวๆกับเจ้า Bitcoin กันก่อนดีกว่า

 

ใครเป็นคนคิดค้น Bitcoin

นักโปรแกรมเมอร์ ผู้ใช้นามแฝง ว่า ซาโตชิ นาคาโมโตะ เป็นผู้พัฒนา Bitcoin ขึ้นมาซึ่งเป็นระบบจ่ายเงินที่อ้างอิงอยู่บนการถอดสมการคณิตศาสตร์ โดยจุดประสงค์ของเขาคือการสร้างสกุลเงินที่เป็นอิสระจากระบบรัฐบาลและธนาคาร, สามารถส่งหากันผ่านระบบอินเทอร์เนตและมีค่าธรรมเนียมที่โดนควบคุมถูกลงมากๆ

 

ใครเป็นคนผลิต Bitcoin

ไม่มีใครสามารถผลิต Bitcoin ได้ เพราะมันเป็นสกุลเงินที่ไม่สามารถจับต้องได้เหมือนกับธนบัตรที่ถูกพิมพ์โดยรัฐบาล ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาให้อ้างอิงกับทอง หรือจำนวนประชากรใดๆทั้งสิ้น แต่ Bitcoin จะถูกอ้างอิงด้วยสมการทางคณิตศาสตร์ และมันมีกฏเกณฑ์ในตัวของมันเอง

แต่ Bitcoin ถูกสร้างขึ้นโดยเป็นเหมือนกับไฟล์คอมพิวเตอร์ โดยกลุ่มนักพัฒนาทั่วไปที่ใครๆก็สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมได้ การจะผลิต Bitcoin ขึ้นมาได้นั้นต้องใช้วิธีการ “ขุด” โดยการใช้คอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่บนเครือข่ายที่จัดวางไว้ให้เท่านั้น

โดยเครือข่ายนี้ยังสามารถที่จะใช้เพื่อช่วยในการจัดการการโอนส่ง Bitcoin ให้กันได้ ซึ่งหากจะเรียกแล้ว มันก็คือเครือข่ายส่วนตัวของ Bitcoin นั่นเอง

 

และBitcoin ถือเป็นสกุลเงินแรกของโลกที่ถูกเรียกว่าคริปโตเคอเรนซี (Crypto Currency)

 

ฉนั้นแล้ว Bitcoin จะมีความโปร่งใสมากใช่ไหม?

ใช่ เพราะเทคโนโลยีที่เรียกว่า บล็อคเชน Blockchain จะไม่มีการโกงในวงจรของ Bitcoin เกิดขึ้นได้นั่นเอง

 

แล้วประเทศไทยละ สามารถเทรด หรือ ซื้อขาย Bitcoin ได้ไหม

แน่นอนอน นี้มีโบรกเกอร์ในไทยสามารถเปิดให้มีการซื้อขาย Bitcoin ได้แล้ว วันนี้เราจะมาแนะนำให้รู้จักกับ bx.in.th เว็บเทรด Bitcoin แห่งแรกของไทย

 

จะเปิดบัญชีเทรด Bitcoin ใน BX กับเข้าบ้าง ยากไหมยุ่งยากหรือเปล่า

ถ้าอยากรู้และทำความเข้าใจกับ ขั้นตอนการสมัคร bx.in.th ตามมาอ่านกันเลย

 

วิธีสมัครเปิดบัญชีกับ bx

1.เข้าไปที่เว็บไซต์ bx.in.th หรือ คลิกที่นี่

ฮั่นแน่ ถ้างงๆ กับศัพท์ภาษาไทยละก็เปลี่ยนเป็นอังกฤษก็ได้นะ หรือจะเป็นเสียงที่จะคอยเตือนก็ทำได้

 

2. กดสมัครแล้วไปต่อกันเลย

3.กรอกข้อมูลที่ระบบต้องการให้เรียบร้อย

4.เมื่อกรอกข้อมูลเป็นที่เรียบร้อย ระบบจะส่งอีเมลล์ไปยืนยันในอีเมลล์ที่สมัครไว้ ตามไปเช็คใน อีเมล์ ได้เลย 

 

5.หน้าตาอีเมลล์ที่ bx.in.th ส่งมาเพื่อใช้ข้อมูลเข้าสู่ระบบ

6.นำ User ที่เรากำหนดไว้ตอนแรก และรหัสผ่านที่ได้รับจากอีเมลล์ Login เข้าสู่ระบบได้เลย เท่านี้ก็เป็นการสมัครเข้าสู่ระบบ

 

ได้แล้ว ต่อไปก็เป็นการ ยืนยันตัวตนเพื่อเริ่มการ ซื้อ ขาย ฺBitcoin ได้เลย

 

ยังไม่ได้ยืนยันตัวตนก็สามารถเปิดดูหน้า Trade View สวยๆบนเว็บได้แล้ว! (แต่ยังเข้า order ไม่ได้) ไม่ต้องโหลดแอพ ไม่ต้องลงโปรแกรม สามารถเปิดใช้งานได้บน Browser ทั่วไปได้เลย

เห็นไหมละ ไม่ต้องถ่อไปเว็บต่างประเทศก็สามารถเกาะกระเเสและเทรด Bitcoin ได้แล้ว แถมยังอุ่นใจได้ด้วยเพราะ bx.in.th เป็นเว็บไทย ดังนั้นภาษา หรือการติดต่อเพื่อสอบถามปัญหาต่างๆก็ไปได้อย่างง่ายดาย รวดเร็ว (ก็มันคนบ้านเดียวกัน^^)

จากการทดลองเปิดบัญชีเบื้องต้น ก็สรุปได้ว่าหน้าตาของ bx.in.th เข้าใจง่าย ไม่รก สบายตาด้วยสีฟ้าขาว หน้า Trade View ก็ทำได้ดี แต่ละหน้าโหลดไว ไม่เหมือนเว็บต่างประเทศที่บางเว็บการข้ามหน้าจะค่อนข้างใช้เวลา (เพราะเซิร์ฟเวอร์อยู่ไกล) บทความต่อไปมาดูกันว่าการยืนยันตัวตนและการเข้า Order ของ bx.in.th จะเป็นอย่างไร จะสะดวกแบบตอนแรกหรือไม่อย่าลืมติดตามกันนะครับ ^^

การยืนยันตัวตน และ วิธีใช้งาน กับ bx.in.th เว็บเทรดเหรียญอันดับ 1 ในเมืองไทย ได้ที่นี่
[embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=64hq3Ve4JUI[/embedyt]




>>>อ่านต่อ มาดู วิธีใช้งาน กับ bx.in.th เว็บเทรดเหรียญอันดับ 1 ในเมืองไทย<<<