Tag: ตู้ atm bitcoin ในไทย

รีวิว epayments บัตรกดเงินบิทคอยน์ ทำให้การถอนเงินสดเป็นเรื่องง่าย

รีวิว epaymentsปัจจุบันนี้ ช่องทางในการถอนเงินสดออกมาจากเหรียญ บิทคอยน์ หรือ เหรียญ Cryto Currency อื่นๆ ในเมืองไทย มีอยู่ไม่กี่วิธี โดยวิธีที่นิยมยังคงเป็นการถอนเงินบาท จากเว็บเทรด เช่น Bx.in.th หรือ Tdax.com

แต่หลังจากที่รัฐบาล เริ่มเข้ามามีบทบาทและได้เพิ่มการกวดขันเรื่องภาษีอย่างหนัก “เก็บภาษีถึง 15 % จากกำไรการซื้อขาย Bitcoin”  ทำให้นักลงทุนหลายๆคนเริ่มมองหา ช่องทางในการถอนเงินแบบอื่นๆ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บภาษี และเพิ่มความสามารถในการใช้จ่ายเงิน Cryto Currency ให้ได้มากขึ้น

 

วันนี้ผู้เขียนจึงอยากมานำเสนอ อีกช่องทางหนึ่ง สำหรับนักลงทุนดิจิตอล ในการถอนเงินบาทออกจากเหรียญ Crypto Currency ที่เราครอบครองอยู่ นั่นก็คือ การถอนเงินบาทผ่านทางบัตร  epayments ซึ่งเป็น บัตรเดบิตบิทคอยน์ แบบ MasterCard นั่นเอง

 

หลายคนประสบปัญหาการถอนเงินบาทออกมา ผู้เขียนจึงอยากมา รีวิว epayments บัตรเดบิตบิทคอยน์ ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเราสามารถถอนเงินจากตู้ ATM ตู้ไหนก็ได้ในไทย และทั่วโลก โดยเพียงแค่เรามีเหรียญ Bitcoin, Etherium, Litecoin , BTH, BTG อยู่ใน บัตรเดบิต ePayments นี้เท่านั้น!

epayments คือ อะไร? 

ePayments คือ Platform การชำระเงินที่หลากหลาย แบบ eWallet จัดอยู่ในบัตรเดบิต กล่าวคือ เราต้องมีเงินฝากในบัญชีก่อน จึงจะสามารถถอนออกมาได้ ข้อดีของบัตรเดบิตนี้ คือ เราสามารถฝาก Bitcoin, ETH, BTG, BTH, LTC เข้าไปในระบบ และสามารถถอนออกมาเป็นเงินบาทได้เลย โดยผ่านตู้ ATM ในไทยที่รองรับบัตร Master Card

คำแนะนำ ควรถอนเงินไม่เกิน 50,000 บาท/ครั้ง ซึ่งตรงนี้ถือว่ามีส่วนช่วยให้นักลงทุนประหยัดภาษีไปในตัว เนื่องจากเงินที่กดออกมานั้นเป็นเงินสด ไม่ได้มีการบันทึกว่าผู้ใดเป็นเจ้าของบัญชีดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนเห็นว่าหากนักลงทุนมีเงินได้พึงประเมิน ก็ควรนำเงินเหล่านี้ไปคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาด้วย เช่นกัน

 

บริษัท epayments เชื่อถือได้มั้ย ?

epayments.com ก่อตั้งในปี 2011   ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในลอนดอน ประเทศอังกฤษ  มีนโยบายเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการชำระเงินหรือถอนเงินสด ที่มีความปลอดภัยสูง คล้ายกับบริษัท PayPal ตอนนี้ ePayments ได้เติบโตขึ้นเป็นบริษัท eWallet รายใหญ่ และกำลังดำเนินการอยู่ในกว่า 100 ประเทศ มีสมาชิกกว่า 643,445 ทั่วโลก  โดยขยายการให้บริการไปยังอุตสาหกรรมอื่น ๆ มากมาย เช่น ตลาดออนไลน์ และรวมถึงวงการ Crypto Currency อีกด้วย

 

epayments ดีไหม?  มี ข้อดี ข้อเสีย อย่างไร?

ข้อดี epayments

ข้อเสีย epayments

1.       ถอนเงินสด จากบิทคอยน์ ผ่าน ATM ได้ทั่วโลก

2.       วงเงินการถอนสูงกว่าบัตรเดบิตอื่นๆ

3.       ขั้นตอนการใช้งาน ฝาก – โอน – ถอน ไม่ยุ่งยาก

4.       รองรับหลายเหรียญ เช่น BTC, ETH, LTC,BTG, BTH

5.       บริษัทน่าเชื่อถือ

1.       ขั้นตอนการเตรียมสมัครอาจดูยุ่งยาก

2.       มีค่าจัดส่งบัตรถึงบ้าน ในราคาประมาณ 5.95 USD

3.       ใช้เวลา 2-4 สัปดาห์ กว่าจะได้รับบัตรเดบิต

4.       มีค่าธรรมเนียมในการถอนเงินสด ประมาณ 220 บาท/ครั้ง

5.       มี limit ในการถอน ไม่เกิน 3000 USD/วัน

 

สำหรับขั้นตอนใน การสมัคร epayments นั้นก็ค่อนข้างมีหลายขั้นตอนพอสมควร แต่โดยรวมแล้วก็ไม่ได้ยากอะไร ซึ่งมีขั้นตอนดังต่อไปนี้

แต่ก่อนที่จะเริ่ม เราต้องเตรียมความพร้อมกันก่อน สิ่งที่จำเป็นต้องใช้ ดังนี้

  • Email Account ของเราเอง
  • เบอร์โทรศัพท์มือถือ เพื่อใช้งานรับ sms ได้
  • File บัตรประชาชน หรือ passport
  • ใบจ่ายค่าไฟฟ้า หรือ ค่าโทรศัพท์ หรือ ใบจ่ายค่าบัตรเครดิต หรือ statement ของธนาคาร ที่มีชื่อเรา และที่อยู่เป็นภาษาอังกฤษ

ขั้นตอนใน การสมัคร epayments 

1.สมัครสมาชิก ePayments

1.1 คลิกที่ Create e-Wallet

1.2 ลงทะเบียน ใช้ Email หรือ เบอร์โทรศัพท์ แล้วคลิก ลงทะเบียน

1.3 สร้าง Password และยืนยัน Password

1.4 กรอกข้อมูลส่วนตัว ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด เพศ เบอร์โทร (ต้องกรอก 66 ก่อน ตามด้วยเบอร์ไทย)

1.5 ระบบจะส่ง Code ไปให้ทางโทรศัพท์ ให้เรานำ Code นี้มากรอก แล้วกด Save

1.6 เมื่อกรอกถูกต้อง ระบบจะให้เราตั้ง รหัสผ่าน 6 หลัก สำหรับใช้จ่ายในระบบคล้ายกับ รหัส ATM ของเรา


2.สั่งซื้อบัตรเดบิต epayments แล้วให้ส่งบัตรเดบิตมาที่บ้าน

2.1 เมื่อกรอกเรียบร้อยแล้ว และกด Save เรียบร้อยแล้ว ระบบจะพาเรามาที่หน้าหลักและขึ้น หน้า ที่ให้เราทำการสั่งบัตร epayments ก็ให้เรากด Order ปุ่มสีเขียวๆ เพื่อทำรายการสั่งบัตรเดบิต ส่งมาที่บ้าน

2.2 กรอกข้อมูลสำรอง ในกรณีที่เราไม่ได้ SMS

2.3 กรอกที่อยู่ เพื่อจัดส่งบัตรมาที่บ้าน  เราก็สามารถเลือกประเภทการจัดส่ง จะมีตัวเลือก 2 แบบคือ

  • Express Delivery : เป็นการส่งแบบด่วน โดย DHL 2-3 วันถึงบ้านเลย แต่วิธีนี้ก็จะมีค้าใช้จ่ายสูง
  • Royal Mail เป็นการส่งฟรี อาจจะใช้เวลา 2-4 สัปดาห์

2.4 ตรวจสอบข้อมูลการจัดส่งให้แน่ใจ แล้วทำการจ่ายเงินค่าธรรมเนียมบัตร ในราคา $ 5.95 เลือกจ่ายแบบ Visa หรือ Paypal 


3.ส่งเอกสาร เพื่อยืนยันตัวตน

3.1 ยืนยันบัญชี คลิก Verify your account.

3.2 เลือกเอกสารที่ใช้ยืนยัน เช่น Passport , ใบขับขี่ หรือ บัตรประชาชน และ เอกสารที่มีชื่อเรา และที่อยู่เป็นภาษาอังกฤษ

ยกตัวอย่าง เอกสาร Proof of Address

  • เช่น ใบจ่ายค่าไฟฟ้า หรือ ค่าโทรศัพท์ หรือ ใบจ่ายค่าบัตรเครดิต หรือ statement ของธนาคาร ที่มีชื่อเรา และที่อยู่เป็นภาษาอังกฤษ

3.3 อัพโหลด เอกสารทั้งด้านหน้า และ ด้านหลัง

3.4 เมื่อส่งเอกสารแล้ว รออนุมัติ ภายใน 5 วัน


4.เมื่อได้บัตร ให้ Activated และทดลองโอนเหรียญ BTC / ETH / LTC/ BTG/ BTH

4.1 เมื่อได้รับบัตรเดบิต epayments แล้ว ให้ทำการ Activated บัตร 

4.2 Log in เข้ามาใน epayments.com แล้ว คลิก Activated เพื่อเปิดใช้บัตร 

4.3 ทดลองโอน ETH เข้ามาในระบบ โอนมาทีละน้อยๆก่อน เพื่อทดสอบระบบ

  • คลิกที่ Receive
  • กรอกจำนวนเงินที่ต้องการโอนมา  เรามีเวลา โอนภายใน 30 นาทีก่อนที่เรทราคาจะเปลี่ยนแปลง

4.4 เมื่อโอน ETH มาในระบบแล้ว ให้โอน USD เข้ามาในบัตรเดบิต คราวนี้เราก็สามารถถอนเงินสด ได้ที่ตู้ ATM หรือ นำไปใช้ชำระสินค้าหรือบริการ ได้เหมือนบัตรเดบิตทั่วไป


5.ใช้งานบัตร กดเงินสด หรือ ใช้ชำระสินค้า/บริการต่างๆ ได้ 


ทดลองกดเงินจากตู้ ATM จากธนาคารไทยพาณิชย์ 

 

ผู้เขียนลองทำการถอนเงินจากตู้ ATM ธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวน 1500 บาท มีค่าธรรมเนียม 220 บาท อัตราแลกเปลี่ยนวันนั้น เท่ากับ 29.50 ต่อ 1 ดอลล่าร์ ได้เรทที่ค่อนข้างน้อย แต่โดยภาพรวมถือว่า โอเค สะดวก รวดเร็วดี

** ใครที่ลืม PIN Code 4 หลัก ให้เข้าไปเช็คได้ที่ Menu Card and Account  > PIN services > ดูหมายเลข PIN   


ข้อแนะนำการใช้ ePayments บัตรเดบิตบิทคอยน์

1.ทำการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงการให้บริการของบัตร ePayments อยู่เป็นระยะๆ เพื่อความปลอดภัย

2.ควรมีความรู้เรื่องระบบเหรียญ Crypto Currency เพื่อให้เราสามารถ ฝาก – ถอน – โอนเงินได้ไม่ยากนัก

3.อย่าลืมดูเรื่องค่าธรรมเนียมในการถอนด้วยเสมอ หากเราถอนเงินน้อยๆ เช่นวันละ 100 – 3,000 บาท อาจทำให้เสียค่าธรรมเนียมมากกว่า ถอนทีละมากๆ

4.ทำการถอนเงินสดจากตู้ ATM ที่รับรอง MasterCard เท่านั้น (อย่าลืม สังเกตดูให้ดีดี)

บทสรุป

บัตรเดบิตบิทคอยน์ ePayments MasterCard เป็นอีกหนึ่งทางเลือกหนึ่ง ในการถอนเงินสดหรือใช้รูดซื้อสินค้าต่างได้อย่างง่ายดาย  สามารถกดเงินสดที่ไหนก็ได้ทั่วโลก แนะนำ นักลงทุนเหรียญบิทคอยน์ หรือเหรียญ Crypto Currency อื่นๆ ควรมีติดตัวไว้ เพราะจะช่วยอำนวยความสะดวกของเราได้อย่างมาก เวลาต้องการใช้เงินสด ที่สำคัญ ePayments ยังมี Application บนมือถือ Android ให้ดาวโหลดมาใช้งานได้อีกด้วย

สำหรับนักลงทุนดิจิตอลที่สนใจ บัตรกดเงินสด บิทคอยน์ สามารถสมัครลงทะเบียนได้ที่นี่ => ePayments.com

**สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เข้าใจ  หรือมีคำถามอื่นๆ สามารถสอบถาม หรือ ติดต่อเราได้ที่ https://www.facebook.com/GoalBitcoin/

 



10 บริษัทยักษ์ใหญ่ในอเมริกา รับชำระเงินโดยบิทคอยน์

10 บริษัทยักษ์ใหญ่ในอเมริกา  รับชำระเงินโดยบิทคอยน์

การดำเนินชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไปจากเดิมมาก เพียงแค่มี Smart Phone เครื่องเดียวก็สามารถจัดการธุรกรรม แผนการใช้ชีวิตที่ยุ่งยากในแต่ละวันให้จบในเวลาอันสั้น รวดเร็ว ดังนั้น การมาของฟินเทค หรือเทคโนโลยีด้านการเงิน ทำให้วันนี้ผู้คนใช้ชีวิตง่ายขึ้น

“เงินดิจิทัล” เป็นตัวอย่างสำคัญที่เราสัมผัสได้ และสกุลเงินดิจิทัลที่เรียกว่า “บิทคอยน์” (BitCoin) มีแนวโน้มจะกลายเป็นเงินสกุลหลักในการทำธุรกรรมทั่วโลกได้เช่นกัน

วันนี้เราจะไปดูว่า มี  10 บริษัทยักษ์ใหญ่ในอเมริกา  ที่สามารถรับชำระเงินโดยบิทคอยน์


10. Paypal

PayPal เป็นบริการธนาคารออนไลน์ , บริการชำระเงินออนไลน์ กำลังมาเป็นผู้เล่นหลักใน Digital Currency อย่างบิตคอยน์และเหรียญอื่น จากที่ผู้บริหาร PayPal หลายคนได้แสดงทัศนะไว้ต่อ Bitcoin ที่ดี และอ้าแขนต้อนรับอย่างอบอุ่น


9. Dell

เป็นบริษัทผลิตฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์จากรัฐเทกซัส อเมริกา ปัจจุบันทำธุรกิจในการพัฒนา ผลิตและประกอบคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล, เซิร์ฟเวอร์, อุปกรณ์สำรองข้อมูล เป็นผู้ผลิตคอมพิวเตอร์นับเป็นจำนวนเครื่องมากที่สุดในโลก Dell ก็ออกมายอมรับบิทคอยน์ เพื่อซื้อสินค้าในเครือ dell เอง


8. WordPress

เป็น open source web software เพื่อสร้างเว็บไซต์, blog หรือcommunity โดยมีระบบจัดการบทความ หรือ Content Management System (CMS) ทำให้ง่ายต่อการใช้งาน ซึ่ง WordPress สร้างขึ้นโดย Matt Mullenweg และ Mike Little ในปี 2003 นับว่ามีการพัฒนามาถึง 14 ปีแล้ว และในปี 2012 ได้ประกาศยอมรับบิทคอยน์ ในการทำธุรกรรมต่างๆได้


7. Dish

ผู้ให้บริการโทรทัศน์ดาวเทียม ยักษ์ใหญ่ในอเมริกา ประกาศยอมรับการชำระเงินโดยใช้บิทคอยน์ ตั้งแต่ 2014


6. Wikipedia

เป็น สารานุกรมออนไลน์ และแหล่งรวบรวมบทความมากมาย เปิดรับบริจาคโดยใช้บิทคอยน์ เช่นกัน


5. Subway

เป็นร้านอาหารอเมริกันประเภทแฟรนไชส์ มีสินค้าหลักคือ แซนวิช และสลัด ดำเนินการโดย Doctor’s Associates, Inc. (DAI) เป็นหนึ่งในแฟรนไชส์ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกด้วยร้านอาหาร 37,881 ร้านใน 98 ประเทศ Subway ก็เป็นอีกบริษัทที่ยอมรับการชำระเงินโดยบิทคอยน์


4. Ebay

เป็นตลาดกลางในการ ซื้อ-ขาย-ประมูล สินค้าต่างๆ จากทั่วโลก ปัจจุบันมีสินค้ามากกว่า 400 ล้านชิ้น มีจำนวนผู้ที่เข้าไปซื้อ-ขาย-ประมูล สินค้า มากกว่า 200 ล้านคน มียอดซื้อ-ขายสินค้ามากกว่า 140,000 ล้านบาท/ปี ถือว่าเป็นตลาดออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ซึ่ง Donahoe CEO ของ eBay ก็ยังเคยพูดว่าบิตคอยน์เป็นสิ่งที่ทรงพลังมาก อีกทั้ง eBay ก็อนุญาตให้ประกาศขายบิตคอยน์ได้ในหมวด Classified


3. Microsoft

Microsoft ยักษ์ใหญ่ของวงการคอมพิวเตอร์และไอที ก่อตั้งโดยบิลล์ เกตส์  ได้ทำการประกาศว่า ลูกค้าสามารถชำระเงินกับทางบริษัทได้โดยใช้บิทคอยน์  สามารถชำระสำหรับส่วนของ apps games และวีดีโอ รวมทั้งยังสามารถใช้งานรวมกันกับ Windows Phone รุ่นเก่าและรุ่นใหม่ที่กำลังจะออกตามมา รวมไปถึง Xbox ด้วย


2. Apple Store

App Store แหล่งรวม Application มากมายจาก Apple  เป็นช่องทางที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดได้จาก iPhone , iPod และ iPad ผ่านตัวเครื่องได้ทันที ภายใน App Store มีหมวดหมู่ Application ต่างๆไว้อย่างชัดเจน ให้เลือกดาวน์โหลดทั้งแบบฟรีและเสียค่าใช้จ่าย  รวมไปถึงหน้าแนะนำ Application ยอดนิยมต่างๆไว้อีกด้วย และก่อนดาวน์โหลดสิ่งที่ผู้ใช้งานทุกคนต้องมีคือ Apple ID ซึ่ง ตอนนี้ ทาง Apple ได้เพิ่มทางเลือกการชำระเงิน โดยใช้บิทคอยน์  ไว้ใน App Store ด้วย


1. Amazon

หากกล่าวถึง Amazon คงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อนี้ในวงการเว็บไซต์ นั่นเพราะ amazon เป็นเจ้าพ่อยักษ์ใหญ่ในวงการตลาดสินค้าของโลกซึ่งมีสาขาอยู่มากมายหลายประเทศ ถึงแม้ตอนนี้ทาง Amazon ยังไม่ได้ออกมาประกาศยอมรับการชำระสินค้าด้วยบิทคอยน์อย่างเต็มตัว แต่นักชอปทั้งหลาย สามารถเข้าไปชื้อสินค้าทั้งหมดที่ลิสใน Amazon โดยผ่านเว็บไซต์ Purse.io ซึ่งเป็นเว็บไซต์ตัวกลางในการชำระด้วยบิทคอยน์ แถมยังได้ส่วนลด 5-30% อีกด้วย

>>> 5 เว็บไซต์ซื้อขาย Bitcoin ในไทย มือใหม่ห้ามพลาด! <<<

แท้จริง บิทคอยน์ ไม่ได้เพิ่งถูกยอมรับ แต่บิทคอยน์ เคยถูกนำไปใช้ในหลายๆ ร้านค้าเมื่อ 3-4 ปีก่อนหน้านี้ บางร้านค้าให้ส่วนลดซื้อสินค้า เมื่อชำระด้วยบิทคอยน์ด้วยซ้ำ ในอเมริกา พบว่า มีการออก บิทคอยน์ กิฟท์ การ์ด ด้วยการบรรจุเงินบิทคอยน์ลงในการ์ดเหมือนบัตรเดบิต และนำไปชำระสินค้า แน่นอนว่า ร้านค้าชื่อดังยินดีรับ ไม่ว่าจะเป็น Amazon, Target, Walmart , Nike  และร้านค้าดังทั่วอเมริกา

เว็บไซต์ ebay.com ระบุว่า วันนี้มีมากกว่า 100 บริษัท/ร้านค้า ที่ยอมรับบิทคอยน์ เช่น  1–800–FLOWERS ร้านดอกไม้ชื่อดังในอเมริกา , Expedia.com ออนไลน์ ทราเวลชื่อดัง, Home Depot  ร้านจำหน่ายเครื่องใช้สำนักงานชื่อดัง , Reddit ชอปปิงสารคดี บทความระดับพรีเมียม โดยจ่ายเป็นบิทคอยน์ได้ , Victoria’s Secret , Tesla, Overstock, shopify รวมถึงค่ายเกมออนไลน์ต่างๆ ที่คุณต้องมีบิทคอยน์ซื้อไอเทมในเกม

  และแน่นอนว่า คุณสามารถสั่งพิซซ่าร้านดังๆ ของโลก และจ่ายเป็นบิทคอยน์ได้ด้วยเช่นกัน จะเห็นว่า กลุ่ม บริการหลักๆ ที่รับบิทคอยน์ จะอยู่ในกลุ่มบริการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม กลุ่มร้านอาหาร กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มห้างสรรพสินค้าชอปปิงออนไลน์ รวมถึงบริษัทที่จัดจำหน่ายอุปกรณ์ไอที ซอฟต์แวร์ชื่อดังของโลก ล้วนแต่เป็นบริการที่วนเวียนอยู่ในชีวิตประจำวันทั้งสิ้น

5 เว็บไซต์ซื้อขาย Bitcoin ในไทย มือใหม่ห้ามพลาด!

ถูกถามกันมาเยอะมาก ว่า ซื้อบิทคอยน์ ได้ที่ไหน และเว็บไหนน่าเชื่อถือ ? วันนี้เราจะพาคุณ ไปรีวิวกับ 5 เว็บไซต์ซื้อขาย Bitcoin ในไทย ที่คุณเป็นสมาชิกได้เลย ทันที ฟรีค่ะ!! ถ้าคุณกำลังมองหาแหล่งซื้อขายเงินบิทคอยน์ วันนี้เรามีบทความที่จะพาคุณไปทำความรู้จัก กับ 5 เว็บไซต์ซื้อขาย Bitcoin ในไทย ที่คุณเป็นสมาชิกได้ทันทีค่ะ!

>>>อ่านต่อ ที่นี่<<<




รวมแหล่งร้านค้า รับชำระเงินด้วยบิทคอยน์ ที่คุณอาจยังไม่รู้

ชำระเงินด้วยบิทคอยน์ รวมแหล่งร้านค้า รับ ชำระเงินด้วยบิทคอยน์ ที่คุณอาจยังไม่รู้ 

เทคโนโลยีในปัจจุบันที่ก้าวกระโดดกว่าสมัยก่อนนั้นเข้ามามีบทบาทในชีวิตเราค่อนข้างมากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีในเรื่องการคมนาคม หรือว่าเทคโนโลยีการขนส่ง เทคโนโลยีในอุตสาหกรรม หรือเทคโนโลยีอื่นๆ แต่ถึงกระนั้นแล้วเทคโนโลยีที่ใกล้ตัวเรามากที่สุดเห็นจะเป็นเทคโนโลยีด้านการชำระเงิน โดยในปัจจุบันนั้น เราต่างก็เห็นการใช้จ่ายเงินผ่านมือถือ โดยที่เราไม่ต้องพกเงินสดกันอีกต่อไปแล้ว

ตัวอย่างเช่น บิทคอยน์ เป็นต้น โดยบิทคอยน์เป็นสกุลเงินดิจิตอลที่กำลังเป็นที่สนใจอยู่ในปัจจุบันนี้ ราคาขึ้นไปแตะ $6000 หรือ ประมาณ 200,000 บาท เลยทีเดียว แต่ใครกันละ ที่จะคิดว่า มันสามารถจับจ่ายใช้สอยในร้านค้าชั้นนำ ได้ทั่วโลก

 

วันนี้เราจะพาคุณไปดู แหล่งร้านค้า ที่รับชำระเงินด้วยบิทคอยน์ ที่คุณอาจยังไม่รู้

 

สินค้าใน Amazon ชำระด้วยบิทคอยน์

Amazon เป็นอีกบริษัทยักษ์ใหญ่ที่รับชำระด้วยบิทคอยน์  คุณสามารถเข้าไปที่  https://purse.io

เว็บนี้เป็นตัวกลางที่ใช้ในการซื้อสินค้าใน Amazon ทุกชนิด ด้วย บิทคอยน์ คุณจะได้รับส่วนลดมากกว่าปกติ 5-30 % เลยทีเดียว

 

จองโรงแรม

บิทคอยน์นั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่สินทรัพย์ดิจตอล แต่คุณยังสามารถใช้มันในการจองห้องในโรงแรมในทริปการเดินทางของคุณ อย่างเช่นโรงแรมในเครือ Howard Johnson นั้นก็รับบิทคอย และพวกเขาก็มีสาขาในประเทศต่างๆทั่วโลก ในขณะเดียวกันถ้าคุณมีโรงแรมขาประจำที่ชอบใช้บริการอยู่แล้ว แต่พวกเขาไม่รับบิทคอย คุณสามารถเข้าไปที่ TravelForCoins.com ที่ให้บริการเปรียบเสมือนเป็นตัวกลางในการบุคตั๋วเครื่องบินและโรงแรมด้วยบิทคอยน์ และพวกเขาจะจ่ายโรงแรมเหล่านั้นเป็นค่าเงินธรรมดา สำหรับในประเทศไทยเราก็มีบางที่ที่รับบิทคอยน์ อย่างเช่น Chelona Beach ในหัวหิน และ Good Dream Guesthouse ในกระบี่ที่รับบิทคอยด้วยเช่นกัน

 

จองตั๋วเครื่องบิน

ต้องการจะท่องเที่ยวภายในหรือนอกประเทศและจ่ายค่าตั๋วด้วยบิทคอย? มีทางออกอยู่ประมาณสองทาง ทางแรกคือใช้ TravelForCoins.com ที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น ส่วนทางที่สองมี CheapAir.com

 

จ่ายค่าเล่าเรียนศึกษา

นอกเหนือจากการท่องเที่ยวและโรงแรมแล้ว สถานศึกษาบางแห่งก็เริ่มที่จะตระหนักถึงความสำคัญของบิทคอยน์และเริ่มที่จะรับบิทคอยน์เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการใช้จ่ายค่าเล่าเรียนแล้วเช่นกัน โดยมี University of Nicosia แห่ง Cyprus ที่ิได้ขึ้นชื่อว่าเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของโลกที่รับบิทคอยน์ โดยมีมหาวิทยาลัยอื่นๆอีกมากมายตามมาอาทิเช่น University of Cumbria แห่งประเทศอังกฤษ และ King’s College แห่ง New York ส่วนในประเทศไทยนั้นถึงแม้จะยังไม่มีมหาวิทยาลัยไหนที่เริ่มรับบิทคอยน์ แต่ก็มีโรงเรียนสอนดนตรี KPN ในกรุงเทพฯที่รับบิทคอยเป็นช่องทางในการเรียนดนตรี

 

พิซซ่า

แม้แต่การสั่งพิซซ่าก็ยังสามารถใช้บิทคอยน์ในการจ่ายได้ โดยเว็บ PizzaForCoins.com ได้ทำให้การสั่งพิซซ่าด้วยบิทคอยน์เป็นเรื่องง่าย โดยเว็บดังกล่าวดูเหมือนว่าจะรองรับบริษัทพิซซ่าในประเทศไทยอย่าง Pizza Hut ด้วย วิธีการของเว็บไซต์ก็คือคุณทำการออเดอร์พิซซ่าด้วยบิทคอยน์ หลังจากนั้นทางเว็บไซต์ก็จะทำการส่งออเดอร์และจ่ายเงินเป็นสกุลเงินธรรมดาให้กับร้านพิซซ่าเหล่านั้น

 

ผู้ให้บริการ VPN

ถ้าหากคุณอาศัยอยู่ในประเทศจีน หรือต้องการจะใช้บริการ VPN ในการปกปิดตัวตนที่แท้จริงของคุณ คุณอาจจะต้องการใช้งาน Virtual Private Network หรือ VPN ที่สามารถอำนวยความสะดวกให้คุณสามารถใช้อินเทอร์เนตแบบไร้ตัวตน แถมยังสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกบล็อกได้อีกด้วย แต่ของฟรีที่ดีนั้นไม่มีในโลก การลงทุนเพื่อซื้อ VPN ดีๆและเร็วสักตัวจึงเป็นเรื่องที่จำเป็น โดยมีผู้ให้บริการ VPN ที่มีชื่อเสียงและรับบิทคอยเป็นช่องทางในการซื้ออย่าง Private Internet Access, NordVPN และ Express VPN

 

เครื่องเพชร

มีร้านค้าเครื่องเพชรพลอยหลายๆร้านในปัจจุบันเริ่มที่จะรับบิทคอยเป็นช่องทางในการใช้จ่ายแล้ว ซึ่งนั่นหมายความว่าคุณสามารถที่จะซื้อแหวนหมั้นให้กับสุดที่รักของคุณ หรือแม้แต่นาฬิกาข้อมือฝังเพชร และเพชรแบบก้อนด้วยบิทคอย โดยปัจจุบันมีกลุ่ม Reeds Jewelers ซึ่งเป็น chain ร้านค้าเครื่องเพชรแบรนด์เดียวที่ประกาศรับบิทคอย โดยคุณสามารถสั่งซื้อทางออนไลน์ได้ หรือแม้แต่เดินเข้าไปชมที่ร้านของพวกเขาที่มีถึง 65 สาขา

 

คอมพิวเตอร์

บริษัทขายคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่อย่าง Dell นั้นเริ่มที่จะรับบิทคอยเป็นช่องทางในการใช้จ่ายสำหรับซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านหุ้นส่วนอย่าง Coinbase แล้ว โดยคุณสามารถซื้อได้โดยการโยนสินค้าที่คุณต้องการเข้ามาไว้ในตะกร้าสินค้าของคุณ และทำการเช็คเอาท์ด้วยบิทคอย หลังจากนั้นเว็บจะทำการรีไดเร็คคุณไปยังหน้าเว็บของ Coinbase.com เพื่อทำการจ่ายด้วยบิทคอย หรือถ้าหากคุณมีบัญชีของ Coinbase อยู่แล้ว มันก็จะกลายเป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น

 

Application ของระบบปฏิบัติการ Windows

เมื่อคุณทำการซื้อคอมใหม่นั้น คุณสามารถที่จะซื้อแอพบน Windows ได้ด้วยบิทคอย แต่ในขณะนี้ระบบที่ว่ายังเปิดให้ใช้บริการแค่ลูกค้าที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น โดย Microsoft ได้อนุญาตให้ลูกค้าสามารถเติมบิทคอยเข้าไปในบัญชีของพวกเขาได้ และใช้บิทคอยน์ในการซื้อเกม, หนัง และ โปรแกรมไม่ว่าจะทั้งของคอมพิวเตอร์และ, Windows phone และ Xbox

 

Giftcard กิฟท์การ์ด

ถ้าหากคุณต้องการที่จะใช้บิทคอยน์ในการช็อปซื้อสินค้าในห้างร้านหรือบริการที่ไม่ได้รับบิทคอยเป็นช่องทางในการซื้อขายแล้วนั้น มันมีวิธีอื่นๆที่แก้ไขได้ โดยเข้าไปที่ Gyft.com ซึ่งเว็บดังกล่าวนี้จะสามารถช่วยให้คุณซื้อกิฟท์การ์ดต่างๆจากร้านค้าผู้ให้บริการถึง 200 แบรนด์ได้ด้วยบิทคอย รวมถึงบริหารจัดการกิฟท์การ์ดและจำนวนบิทคอยผ่านมือถือและคอมพิวเตอร์ของคุณ โดยคุณสามารถที่จะซื้อกิฟท์การ์ดของ Starbucks, Delta Air Lines, Amazon และอื่นๆอีกมากมายด้วยบิทคอยน์

ซึ่งปัจจุบันสกุลของบิทคอยน์ ที่ว่านี้มีร้านค้าและบริการทั่วโลก เปิดรับชำระด้วย บิทคอยน์เพื่อการแลกเปลี่ยนซื้อขายแล้วกว่า 100,000 ร้าน +ทั่วโลก และมีแนวโน้มว่าร้านค้าใน “ญี่ปุ่น” กว่า 300,000 ร้านพร้อมใจกันเปิดรับชำระด้วยบิทคอยน์ภายในปี 2017 ถึงกระนั้นแล้ว เมืองไทยก็เริ่มมีเทรนด์การรับชำระสินค้าด้วยบิทคอยน์กันหลายร้านค้าแล้ว

ไม่เว้นแม้แต่ “ลิ้มเหล่าโหงว” ยอดร้านในตำนานที่ถึงแม้จะเปิดมายาวนานกว่า 80 ปี แต่ก็ยังปรับตัวเพื่อให้ทันยุคทันสมัย วิ่งตามเทคโนโลยีอยู่ตลอดเวลา หลังจากนี้ก็ไม่ต้องกังวลในการลืมกระเป๋าตังค์กันอีกแล้ว เพราะวันนี้ ท่านสามารถชำระเงินด้วย “บิทคอยน์” ได้แล้วที่ในหลายร้านค้าในไทยและต่างประเทศ

สำหรับในประเทศไทยนั้น มีเว็บไซต์หนึ่งที่สามารถช่วยให้คุณค้นหาร้านค้าหรือบริการในประเทศที่รับบิทคอยน์ ซึ่งก็คือ Bitcoin Map Thailand โดยคุณสามารถที่จะใช้เครื่องมือนี้ในการค้นหาสถานที่เพื่อใช้ในการเดินทางได้อีกด้วย

5 เว็บไซต์ซื้อขาย Bitcoin ในไทย มือใหม่ห้ามพลาด!

ถูกถามกันมาเยอะมาก ว่า ซื้อบิทคอยน์ ได้ที่ไหน และเว็บไหนน่าเชื่อถือ ? ถ้าคุณกำลังมองหาแหล่งซื้อขายเงินบิทคอยน์ วันนี้เรามีบทความที่จะพาคุณไปทำความรู้จัก กับ 5 เว็บไซต์ซื้อขาย Bitcoin ในไทย ที่คุณเป็นสมาชิกได้ทันทีค่ะ!

>>>อ่านต่อ ที่นี่<<<




credit: https://siamblockchain.com