Category: กระเป๋าสตางค์ Coin Wallets

ข้อมูลกระเป๋าสตางค์ Coin Wallets สำหรับ Bitcoin และ Altcoin

ก่อนจะเริ่มใช้บิทคอยน์ หรือเหรียญดิจิตอลอื่นๆ เราต้องมี กระเป๋าบิทคอยน์ (wallet) เสียก่อน เพราะ ถ้าไม่มีกระเป๋าบิทคอยน์ เราก็จะไม่สามารถรับ เก็บ หรือใช้บิทคอยน์ได้ กระเป๋าสตางค์บิทคอยน์เปรียบเสมือนตัวกลางที่เชื่อมระหว่างเรากับระบบบิทคอยน์ เช่นเดียวกับการที่หน้าเว็บธนาคารเป็นตัวกลางเชื่อมไปสู่ระบบการเงิน

5 กระเป๋าบิทคอยน์ Hardware Wallet ปลอดภัย และน่าเชื่อสุดในปี 2023

แม้ว่าสินทรัพย์ดิจิตอลหรือเหรียญคริปโต จะไม่สามารถจับต้องได้เหมือนเหรียญและธนบัตร แต่ก็จำเป็นต้องมีกระเป๋าเอาไว้เก็บเหมือนกัน ซึ่งสิ่งนี้เรียกว่า Hardware Wallet (ฮาร์ดแวร์ วอลเล็ต) และสิ่งที่เก็บเอาไว้ภายในก็ไม่ใช่เหรียญดิจิตอล แต่เป็น Private Key ที่เอาไว้ใช้เข้าถึงเหรียญดิจิตอลของเรานั่นเอง นักลงทุนที่เป็นมือใหม่อาจจะงงๆ ไม่เข้าใจว่า Hardware Wallet คือ อะไร ใช้งานอย่างไร บทความนี้จะมาอธิบายพร้อม แนะนำ 5 Hardware Wallet น่าซื้อในปี 2023 ตามไปดูกันได้เลย

แนะนำ 5 กระเป๋าบิทคอยน์ Hardware Wallet ยอดนิยม

1. Trezor Model T

Trezor Model T

ตัวเครื่องมีขนาดเล็กกะทัดรัด มาพร้อมหน้าจอระบบสัมผัส ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการตรวจสอบและทำธุรกรรมได้อย่างง่ายดาย รองรับระบบปฏิบัติการ Windows, MacOS และ Linux ติดตั้งง่าย พร้อมใช้งานทันที เก็บเหรียญดิจิตอลได้มากกว่า 1,400 สกุล เช่น Bitcoin, Ethereum, Cardano, Monero มีช่องใส่ MicroSD Card และช่องเสียบ USB-C ระบบรักษาความปลอดภัยแน่นหนา ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูล


2. Ledger Nano X

Ledger Nano X

Hardware Wallet สัญชาติฝรั่งเศส ลักษณะเหมือนแฟลชไดรฟ์ ขนาดเล็ก พกพาสะดวก แต่หน้าจอก็ค่อนข้างเล็กมากเช่นเดียวกัน ใครที่สายตาไม่ดีอาจจะต้องเปลี่ยนตัวเลือกอื่น การตั้งค่าใช้งานง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่ ใช้ระบบปฏิบัติการ BOLOS ที่ออกแบบมาสำหรับ Hardware Wallet ของ Ledger โดยเฉพาะ พร้อมชิปที่มีความปลอดภัยสูง เชื่อมต่อสมาร์ตโฟนได้ผ่านบลูทูธ นอกจากจะรองรับสกุลเงินดิจิตอลแล้ว ยังรองรับ NFT ด้วย


3. Electrum

Electrum จะแตกต่างจาก Hardware Wallet คือเป็นซอฟต์แวร์ที่เอาไว้ใช้งานกับ Hardware Wallet อีกที จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยสูงสุด รวมถึงความสะดวกในการใช้งานด้วยคุณสมบัติที่หลากหลาย มีระบบการยืนยันตัวตน 2 ขั้น (2 Factor Authentication) แต่ข้อจำกัดคือเป็นกระเป๋าเงินที่รองรับบิทคอยน์เท่านั้น และการใช้งานค่อนข้างซับซ้อนเนื่องจากเป็นระบบที่ใช้งานมาตั้งแต่ปี 2011 และยังไม่มีการพัฒนาเพิ่มเติม


4. Mycelium

Mycelium จะคล้ายกับ Electrum คือเป็นแอปพลิเคชันที่รองรับบิทคอยน์เท่านั้น สามารถใช้กับ Hardware Wallet ได้หลากหลาย เช่น Ledger, Trezor, KeepKey จุดเด่นคือ สามารถปรับความเร็วในการทำธุรกรรม ด้วยอัตราค่าธรรมเนียมที่นักลงทุนเลือกได้เอง หากธุรกรรมมีมูลค่าสูง หรือต้องทำธุรกรรมด่วน การจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น จะทำให้ธุรกรรมถูกประมวลผลอย่างรวดเร็ว ในทางกลับกันหากไม่ได้เร่งรีบ ต้องทำธุรกรรมอย่างรวดเร็ว ก็มีตัวเลือกให้นักลงทุนจ่ายค่าธรรมเนียมน้อยลง


5. Exodus

Exodus สามารถใช้งานได้ทั้งคอมพิวเตอร์ และสมาร์ตโฟน ใช้งานได้ทุกระบบทั้ง Windows, Mac, Linux, iOS และ Android มีความปลอดภัยสูง รองรับเหรียญมากกว่า 100 สกุล รูปแบบการใช้งานง่าย หน้าตาสวยงาม เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน ฟังก์ชันครอบคลุม ประมวลผลการทำธุรกรรมได้รวดเร็ว และมีคู่มือให้สำหรับนักลงทุนมือใหม่

สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในสินทรัพย์ดิจิตอล ไม่ว่าจะเป็นเหรียญอะไรก็ตาม Hardware Wallet เป็นสิ่งที่ต้องมีเป็นอันดับแรก และยังจำเป็นมากสำหรับผู้ที่ถือสินทรัพย์ดิจิตอลในระยะยาว เพื่อป้องกันการสูญหาย หรือโดนโจรกรรมข้อมูล เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญในการเลือก Hardware Wallet จึงควรเน้นที่ระบบรักษาความปลอดภัยเป็นหลัก อาจจะต้องใช้เวลายืนยันตัวตนมากหน่อย แต่เชื่อเถอะว่าคุ้มกว่าเงินหายวับไปในพริบตาแน่นอน


Hardware wallet เก็บบิทคอยน์

Hardware Wallet คืออะไร ? แตกต่างจาก Software Wallet อย่างไร ?

Hardware Wallet คือ อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ขนาดเล็ก ลักษณะเหมือนแฟลชไดรฟ์ ทำหน้าที่เก็บรักษา Private Key ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่ใช้ในการเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัล เวลาเราทำธุรกรรมต่างๆ ก็แค่เชื่อมต่อ Hardware Wallet เข้ากับคอมพิวเตอร์ โดยไม่จำเป็นต้องมีอินเทอร์เน็ต จึงช่วยลดความเสี่ยงในการถูกแฮ็กหรือโจรกรรม ส่วน Software Wallet เป็นซอฟต์แวร์ที่ถูกติดตั้งบนคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ตโฟน หลักการทำงานคล้ายกับ Hardware Wallet คือ เป็นที่เก็บรักษา Private Key แต่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วย ข้อดีคือสะดวกสบายกว่า ไม่ต้องคอยเชื่อมต่ออุปกรณ์ทุกครั้งที่ใช้งาน แต่ข้อเสียคือความเสี่ยงที่อาจถูกแฮ็กได้ง่าย ซึ่งการเก็บสินทรัพย์ดิจิตอลนั้นความปลอดภัยถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด จึงทำให้คนส่วนใหญ่นิยมใช้ Hardware Wallet มากกว่า และให้ Software Wallet เป็นเพียงกระเป๋าชั่วคราวที่เอาไว้ใช้สำหรับการเทรดเท่านั้น

เหตุผลที่ควรใช้ Hardware wallet คืออะไร ?

  1. ความปลอดภัย Hardware Wallet (ฮาร์ดแวร์ วอลเล็ต) มีความเสี่ยงที่จะถูกแฮ็กหรือขโมยข้อมูลน้อยกว่า เพราะไม่ได้เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ และไม่ต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ยังต้องใส่รหัส PIN Code ก่อนเชื่อมต่ออุปกรณ์ทุกครั้ง จึงช่วยเพิ่มความปลอดภัยอีกหนึ่งขั้น โดยเฉพาะในกรณีที่ทำ Hardware Wallet หาย คนอื่นก็ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลของเราได้ นอกจากนี้เรายังสามารถใช้ Recovery Seed เพื่อกู้คืน Private Key และเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลได้อีกด้วย
  2. รองรับสกุลเงินดิจิตอลที่หลากหลาย Hardware Wallet รุ่นใหม่ๆ สามารถรองรับ Private Key ได้ไม่จำกัด จึงสามารถใช้เก็บเหรียญสกุลเงินดิจิตอลได้หลากหลาย ทั้งนี้ก่อนซื้อควรตรวจสอบข้อมูลในแน่ใจอีกครั้งว่าเก็บเหรียญอะไรได้บ้าง เพราะแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น มีความแตกต่างกัน
  3. พกพาสะดวก Hardware Wallet คือ อุปกรณ์ที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา ประมาณเท่าแฟลชไดรฟ์ ทำให้สะดวกต่อการเก็บรักษาและพกพา
  4. ใช้งานง่าย ใช้ได้ทุกที่ทุกเวลาโดยไม่จำเป็นต้องมีอินเทอร์เน็ต

สรุป Hardware Wallet ยี่ห้อไหนดี

นักลงทุนบิทคอยน์ และสกุลเงิน คริปโต  อื่น ๆ ควรคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก โดยเลือก Hardware Wallet ที่น่าเชื่อถือ ปลอดภัย เพื่อป้องกันการโจมตีของมัลแวร์และอาชญากรรมอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้น หรือหากไม่แน่ใจลองเลือกศึกษาจากทั้ง 5 Hardware Wallet  ข้างต้น เพราะมี Hardware Wallet ที่น่าสนใจมากมายทั้ง Trezor Model T และ Ledger Nano X ที่ นักลงทุนบิทคอยน์ ส่วนใหญ่ยกให้เป็น Hardware Wallet ที่ดีที่สุดในปี 2023


คำถามที่ถามบ่อย FAQ

ถาม : Hardware Wallet Ledger ดีไหม ?

ตอบ : Hardware Wallet Ledger เป็นหนึ่งใน Hardware Wallet ที่ได้รับความนิยมมาก มีให้เลือกหลายรุ่น อย่างเช่น รุ่น Ledger Nano X  โดดเด่นเรื่องการใช้งานที่ง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น เชื่อมต่อบลูทูธได้ รองรับเหรียญกว่า 5,500 ประเภท ทั้ง Bitcoin, Ethereum, Ripple, Tether, Polkadot ระบบรักษาความปลอดภัยก็ถือว่าดีทีเดียว

ถาม : Hardware Wallet Trezor Model T มีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง ?

ตอบ : ข้อดีของ Hardware Wallet Trezor Model T คือระบบความปลอดภัยสูง รองรับสกุลเงินดิจิตอลหลายชนิด ใช้งานง่าย มีคู่มือสำหรับนักลงทุนมือใหม่ ข้อเสียคือราคาที่ค่อนข้างสูง การใช้งานไม่รองรับ iOS และ Chrome นอกจากนี้ผู้ใช้งานบางส่วนยังมองว่าหน้าจอมีขนาดเล็กเกินไป

ถาม : Hardware Wallet App ไหนดี ?

ตอบ : Hardware Wallet App ที่คนนิยมใช้ เช่น Ledger Live ของ Ledger, Trezor Suite ของ Trezor หรือ Exodus และ MetaMask ที่ใช้กับ Hardware Wallet ได้ทั้ง Ledger, Trezor เป็นต้น

ถาม : Hardware Wallet Bitkub ดีไหม ?

ตอบ : Bitkub คือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Hardware Wallet หลายๆ ยี่ห้อที่เป็นที่นิยม เช่น Ledger, Trezor, SafePal ฯลฯ จึงมั่นใจได้ว่าเป็นของแท้ แต่จะเลือก Hardware Wallet ตัวไหนดี ก็ขึ้นอยู่กับความชอบ และความเหมาะสมในการใช้งาน จึงควรศึกษาข้อมูลและคุณสมบัติของแต่ละรุ่นให้ละเอียด


บทความที่เกี่ยวข้อง

ขุดบิทคอยน์ คืออะไร ? คุ้มค่าไหมที่จะลงมือขุดเอง ?

เรื่องเล่าในวงการบิทคอยน์ ที่โด่งดังไปทั่วโลก

blockchain คือ อะไร? ทำไมถึงเป็นเทคโนโลยีมาแรงสำหรับยุคนี้

6 กลโกงการลงทุนบิทคอยน์ มือใหม่ทุกคนต้องระวัง!

คนรวยด้วยบิทคอยน์ มีสักกี่คน? มือใหม่อยากรวย ตามมาดูกัน


A side profile of a woman in a russet-colored turtleneck and white bag. She looks up with her eyes closed.

“การลงทุนมีความเสี่ยง แต่การลงทุนโดยที่ไม่มีความรู้นั้นมีความเสี่ยงมากที่สุด ก่อนลงทุนใน บิทคอยน์ Bitcoin, Altcoin หรือ เหรียญตัวไหน ควรศึกษาให้แน่ใจก่อนทุกครั้ง สุดท้ายนี้ พวกเรา GoalBitcoin ขอให้ทุกคนโชคดี ร่ำรวย มั่งคั่ง มีความสุขกับการลงทุนใน Cryptocurrency นี้ ด้วยกันทุกคน”

— GoalBitcoin Team

Top 10 Bitcoin Wallets กระเป๋าสตางค์บิทคอยน์  ที่มือใหม่ควรทำความรู้จัก

กระเป๋าสตางค์บิทคอยน์เมื่อพูดถึง บิทคอยน์ หรือสกุลเงินดิจิทัล นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักสกุลเงินดิจิตัลที่ว่านี้ จุดเด่นของ บิทคอยน์ นั่นก็คือ สามารถโอนเงินให้กันได้อย่างง่ายดาย โดยไม่มีตัวกลาง โอนได้ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ หรือผ่านเครือข่ายของบิทคอยน์เอง แต่ก่อนจะใช้รับหรือส่งบิทคอยน์ได้ เราคงต้องมี กระเป๋าสตางค์บิทคอยน์ เสียก่อน

 

อะไรคือสิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาในการเลือก กระเป๋าสตางค์บิทคอยน์ ?

 

สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณา ในการเลือกใช้กระเป๋าสตางค์ บิทคอยน์ นั่นควรประกอบไปด้วย ชื่อเสียงของบริษัท, โปรแกรมที่บริษัทนำมาใช้ (Open Source หรือซอฟท์แวร์ควรเปิดเผยแหล่งที่มาของเทคโนโลยี) ความปลอดภัย, การรักษาความเป็นส่วนตัวของลูกค้า, บัญชี ฟีเจอร์รองรับหลายลายเซ็น (MultiSig), ฟีเจอร์สำหรับสำรองข้อมูล (Backup features) และการเข้าถึงข้อมูลทางเว็บไซต์ (Web Platform Availability)

 

วันนี้เราจะพา มาทำความรู้จักกับกระเป๋าสตางค์บิทคอยน์ Bitcoin Wallets 10 อันดับยอดนิยมในปี 2560 กัน

 

1. Mycelium

Mycelium เป็นกระเป๋าสตางค์ที่นิยมใช้มากที่สุดบน Android เนื่องจากใช้งานในการรับและจ่ายบิทคอยน์ได้ง่าย มีการสอนวิธีการสำรองข้อมูลหรือการแบคอัพไว้อย่างละเอียด

 

2Copay

Copay เป็นกระเป๋าสตางค์บิทคอยน์ อีกแบบที่ช่วยรักษาความปลอดภัยให้เงินทุนส่วนตัวของคุณ ด้วยการใช้หลายลายเซ็นหรือแค่ลายเซ็นเดียวก็ได้ รองรับโปรโตคอลการชำระเงินด้วยบิทคอยน์อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งมีความปลอดภัยสูงมาก ปัจจุบันนี้ Copay มีอยู่ใน ios stores , Google Play, Windows Store

 

3. Armory

Armory เป็นกระเป๋าสตางค์ที่ปลอดภัยและมีลูกเล่นครบถ้วนที่สุดสำหรับผู้ใช้งาน สามารถออกและเก็บ private key ของบิทคอยน์ ได้

 

4. Breadwallet

เราเห็นว่า breadwallet และ Copay  เป็นกระเป๋าบิทคอยน์ที่ดีที่สุดสำหรับ iPhone เพราะป็น open source และให้อำนาจแก่ผู้ใช้เต็มที่ในการควบคุมกุญแจส่วนตัวของตน นอกจากนี้แล้วดีไซน์ยังดูสะอาดตา ทำให้การรับส่งบิทคอยน์เป็นเรื่องง่าย

 

5. Electrum

Electrum เป็นโปรแกรมกระเป๋าสตางค์บิทคอยน์สำหรับ Mac, Linux และ Windows ตัวโปรแกรมขนาดเล็กไม่หนักเครื่อง Electrum เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2011 ฟีเจอร์หลักของโปรแกรมได้แก่ การรองรับกระเป๋าฮาร์ดแวร์ (เช่น TREZOR, Ledger Nano และ KeepKey) และการจัดเก็บบิทคอยน์อย่างปลอดภัยไว้ในคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้เชื่อมต่อออนไลน์ Electrum เป็นตัวเลือกที่ดีไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือผู้ใช้ที่มีความชำนาญ

 

6. MultiBit

MultiBit HD เป็นผลิตภัณฑ์ของ KeepKey บริษัทผลิตกระเป๋าสตางค์บิทคอยน์แบบฮาร์ดแวร์  สามารถเชื่อมต่อกับเดสก์ท็อป (desktop)ได้โดยตรงเช่นเดียวกับ Breadwallet  ช่วยให้คุณสำรองข้อมูล (backup) ในกระเป๋าสตางค์ได้ง่าย

 

7. AirBitz

Airbitz กระเป๋าสตางค์สำหรับ iPhone และ Android ที่ใช้ง่ายด้วยดีไซน์หน้าล็อกอินที่คุ้นตา ทำให้ผู้ใช้บิทคอยน์มือใหม่เข้าถึงได้ง่าย แอพกระเป๋าสตางค์จะสร้างแบคอัพสำรองข้อมูลโดยอัตโนมัติ ตัดปัญหาความยุ่งยากในการต้องทำแบคอัพด้วยตนเอง

 

8. Blockchain.info

Blockchain.info มีชื่อเสียงจากบริการ Blockchain explorer แต่ก็ให้บริการกระเป๋าสตางค์ด้วย เป็นอีกกระเป๋าสตางค์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย

 

9. Trezor Wallet

TREZOR เปิดตัวเดือนสิงหาคม 2014 โดยถือเป็นกระเป๋าฮาร์ดแวร์ ตัวแรกที่นำเสนอการจัดเก็บบิทคอยน์อย่างปลอดภัย พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานแบบ hot wallet อุปกรณ์ TREZOR มีขนาดเล็ก หน้าตาคล้ายอุปกรณ์ธัมป์ไดรฟ์ USB.

 

10. Coinbase

Coinbase เป็นบริการแลกเปลี่ยนบิทคอยน์ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ในอเมริกา และใช้กันทั่วโลก ซึ่งนำเสนอกระเป๋าสตางค์ที่ใช้งานบนเว็บไซต์และอุปกรณ์พกพา Coinbase มีความยืดหยุ่นมากกว่า Bitcoin.info เพราะอนุญาตให้ผู้ใช้งานจัดการ Private Key ของตัวเอง อีกทั้งยังรองรับกระเป๋าสตางค์ที่ใช้หลายลายเซ็น

รวบรวม กระเป๋าบิทคอยน์ ประเภทต่าง ๆที่คุณควรรู้

ก่อนจะเริ่มใช้บิทคอยน์ หรือเหรียญดิจิตอลอื่นๆ เราต้องมี กระเป๋าบิทคอยน์ (wallet) เสียก่อน เพราะ ถ้าไม่มีกระเป๋าบิทคอยน์ เราก็จะไม่สามารถรับ เก็บ หรือใช้บิทคอยน์ได้ กระเป๋าสตางค์บิทคอยน์เปรียบเสมือนตัวกลางที่เชื่อมระหว่างเรากับระบบบิทคอยน์ เช่นเดียวกับการที่หน้าเว็บธนาคารเป็นตัวกลางเชื่อมไปสู่ระบบการเงิน

>>>อ่านต่อ ที่นี่<<<




Credit: https://atozforex.com/news/top-10-bitcoin-wallets-2017/, www.krungsrifinnovate.com ,

รวบรวม กระเป๋าบิทคอยน์ ประเภทต่าง ๆที่คุณควรรู้

กระเป๋าสตางค์ Bitcoin คืออะไร? ใช้งานอย่างไร?

ก่อนจะเริ่มใช้บิทคอยน์ หรือเหรียญดิจิตอลอื่นๆ เราต้องมี กระเป๋าบิทคอยน์ (wallet) เสียก่อน เพราะ ถ้าไม่มีกระเป๋าบิทคอยน์ เราก็จะไม่สามารถรับ เก็บ หรือใช้บิทคอยน์ได้ กระเป๋าสตางค์บิทคอยน์เปรียบเสมือนตัวกลางที่เชื่อมระหว่างเรากับระบบบิทคอยน์ เช่นเดียวกับการที่หน้าเว็บธนาคารเป็นตัวกลางเชื่อมไปสู่ระบบการเงิน

กระเป๋าบิทคอยน์ จะมีการใช้กุญแจส่วนตัว หรือรหัสลับที่ทำให้คุณใช้งานบิทคอยน์ได้

ในการใช้งานจริง สิ่งที่ต้องเก็บรักษาอย่างปลอดภัยไม่ใช่ตัวบิทคอยน์โดยตรง แต่เป็นกุญแจส่วนตัวของแต่ละคนที่ใช้อนุมัติการทำธุรกรรมบิทคอยน์   แต่ละกระเป๋าสตางค์จะมีโค๊ดยาวๆเป็นตัวอักษรสลับตัวเลข เรียกว่า Address เป็นบัญชี แบบฝาก และถอน เวลาใครจะส่งบิทคอยน์มาให้เรา เราก็ให้ Address แบบฝากได้เลยค่ะ ในทางกลับกัน ถ้าเราจะส่งเงิน เราก็ต้องมี Address แบบถอน  การฝากถอนทำได้ง่าย และรวดเร็วมาก

สรุป กระเป๋าสตางค์บิทคอยน์ คือ Application เว็บไซต์ หรืออุปกรณ์ที่ทำหน้าที่จัดเก็บกุญแจส่วนตัวของบัญชี

กระเป๋าสตางค์ Bitcoin ประเภทต่าง ๆ

กระเป๋าบิทคอยน์ มีด้วยกัน  2 แบบ คือ

  1. กระเป๋าสตางค์แบบฮาร์ดแวร์ (Hardware Wallet หรือ Cold Wallet)
  2. กระเป๋าสตางค์แบบซอฟแวร์ (Software Wallet หรือ Hot Wallet)

เรามาเปรียบเทียบกันเลย ว่ากระเป๋าแต่ละแบบ คือ อะไร เราและควรเลือกใช้แบบไหน?

กระเป๋าสตางค์แบบฮาร์ดแวร์

(Hardware Wallet /Cold Wallet)

 กระเป๋าสตางค์แบบซอฟแวร์

(Software Wallet /Hot Wallet)

กระเป๋าสตางค์แบบฮาร์ดแวร์ เป็นอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ ที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะเพื่อใช้จัดเก็บบิทคอยน์ให้ปลอดภัย หลักการทำงานคือ จะต้องนำตัวอุปกรณ์จะต้องเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรือ แท็บเล็ท ก่อนจะสามารถใช้งานบิทคอยน์ได้ กระเป๋าแบบซอฟแวร์ หมายถึงกระเป๋าบิทคอยน์ที่เป็นระบบซอฟแวร์ สามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตโดยตรง เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรือ แท็บเล็ท กุญแจส่วนตัวที่สร้างจากระบบบิทคอยน์ ถือเป็น รหัสลับกระเป๋าแบบซอฟแวร์ ทำงานและสร้างกุญแจส่วนตัวอยู่บนอุปกรณ์ที่เชื่อมกับอินเตอร์เน็ต

  • กระเป๋าสตางค์แบบฮาร์ดแวร์เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก
  • กระเป๋าฮาร์ดแวร์มีความปลอดภัยสูงเนื่องจากเก็บกุญแจส่วนตัวไว้นอกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตโดยตรง
  • กุญแจส่วนตัวเก็บไว้แบบออฟไลน์ภายในตัวเครื่อง ดังนั้นจึงปลอดภัยแน่นอนแม้จะเอาตัวเครื่องไปเสียบกับคอมพิวเตอร์ที่มีไวรัส
  •  โดยแต่ละโบรกเกอร์ที่รับซื้อ ขาย หรือ เทรด เหรียญต่างๆจะมีกระเป๋าสตางค์ ไว้สำหรับผู้ใช้งาน ภายในเว็บไซต์อยู่ด้วย
  • ·รหัสที่สร้างจึงอาจไม่ปลอดภัย 100%
  •  ให้คิดว่ากระเป๋าแบบซอฟแวร์ เป็นเหมือนกระเป๋าสตางค์จริงที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เราอาจใช้ใส่เงินสด แต่ไม่ใช่เอาไว้ใช้สำหรับเก็บเงินทั้งหมดที่เรามี กระเป๋า แบบซอฟแวร์ ดีสำหรับการใช้งานบ่อย ๆ แต่ไม่ควรใช้เก็บบิทคอยน์จำนวนมาก

    ข้อดี  กระเป๋าสตางค์ แบบ ฮาร์ดแวร์
  • เป็นที่จัดเก็บบิทคอยน์ได้อย่างปลอดภัย
  • สะดวกสำหรับการสร้างแบคอัพสำรองข้อมูล
  • ป้องกันข้อผิดพลาดได้ เพราะติดตั้งและเริ่มใช้งานได้ง่ายแม้ไม่ถนัดด้านไอที
  • ข้อดี  กระเป๋าสตางค์ แบบ ซอฟแวร์ 
  •  เหมาะสำหรับจัดเก็บบิทคอยน์จำนวนน้อย
  •  สะดวกสบาย เพราะสามารถรับและจ่ายบิทคอยน์ได้อย่างรวดเร็ว
  • ส่วนใหญ่จะสามารถโหลดมาใช้งานได้ฟรี
  • ข้อเสีย กระเป๋าสตางค์ แบบ ฮาร์ดแวร์
  •  มีค่าใช้จ่ายในการซื้อ ฮาร์ดแวร์
  • ข้อเสีย  กระเป๋าสตางค์ แบบ ซอฟแวร์ 
  •  ไม่ปลอดภัยในการใช้เก็บบิทคอยน์มาก ๆ
  • กระเป๋าสตางค์แบบฮาร์ดแวร์ที่นิยมใช้กันมากที่สุด  คือ 
  • Ledger Nano S
  • KeepKey
  • Trezor
  • กระเป๋าสตางค์แบบซอฟแวร์ ที่นิยมใช้กันมากที่สุด  คือ
  • Electrum
  • Mycelium
  • Blockchain.info
  • บิทคอยน์เป็นเงินตราดิจิทัล ดังนั้นอาชญากรคอมพิวเตอร์มักจะพยายามล้วงข้อมูลจาก “กระเป๋าสตางค์แบบซอฟต์แวร์” (software wallet) เพื่อขโมยกุญแจส่วนตัว ดังนั้นการที่ใช้อุปกรณ์แยกต่างหากสำหรับสร้างและเก็บกุญแจส่วนตัวจึงทำให้มั่นใจได้ว่าไม่มีใครสามารถเข้ามาขโมยบิทคอยน์ได้แน่นอน หากต้องการขโมย จะต้องขโมยไปทั้งตัวเครื่อง แต่ยังไงแล้วเราก็ยังสามารถตั้งรหัส PIN เพื่อป้องกันได้

    กระเป๋าแบบฮาร์ดแวร์มีความปลอดภัยและสะดวกสบาย ถึงแม้ว่าตัวเครื่องอุปกรณ์จะหาย ถูกขโมย หรือชำรุด หากเรามีการสร้างรหัสแบคอัพสำรองไว้ บิทคอยน์ก็จะไม่หายไปไหน  กระเป๋าแบบฮาร์ดแวร์เปรียบเสมือนห้องนิรภัยใต้ดินของเรา แน่นอนว่าถ้าใครมีบิทคอยน์มาก ๆ ก็ควรที่จะเลือกเก็บบิทคอยน์ ในกระเป๋าแบบฮาร์ดแวร์

    สรุป การเลือกใช้ กระเป๋าสตางค์บิทคอยน์ กระเป๋าแต่ละอันมีข้อดีและข้อเสียต่างกัน และมีวัตถุประสงค์การใช้งานต่างกัน เราต้องรู้ก่อนค่ะว่า เราใช้ bitcoin เพื่ออะไร? หากใช้เพื่อการลงทุนหรือออมเงิน กระเป๋าสตางค์ฮาร์ดแวร์เป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด แต่สำหรับการใช้งานทั่วไปแล้ว กระเป๋าแบบ ซอฟท์แวร์จะสะดวกสบายกว่า และส่วนใหญ่จะสามารถโหลดมาใช้งานได้ฟรี

    >>> รีวิวแหล่งซื้อขาย Bitcoin เปรียบเทียบชัดๆกันไปเลย! <<<

    บิทคอยน์ Hardware wallet SiamBTC

    Hardware wallet เก็บบิทคอยน์

    บทความที่เกี่ยวข้อง

    เรื่องเล่าในวงการบิทคอยน์ ที่โด่งดังไปทั่วโลก

    blockchain คือ อะไร? ทำไมถึงเป็นเทคโนโลยีมาแรงสำหรับยุคนี้

    6 กลโกงการลงทุนบิทคอยน์ มือใหม่ทุกคนต้องระวัง!

    คนรวยด้วยบิทคอยน์ มีสักกี่คน? มือใหม่อยากรวย ตามมาดูกัน