Category: ซื้อ ขาย Bitcoin

ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับมือใหม่ ซื้อ ขาย Bitcoin

ปัจจุบัน สกุลเงินดิจิตอล กำลังมีบทบาทอย่างมากในโลกออนไลน์ ซึ่งเราสามารถใช้ช่องทางการลงทุนในตลาดใหม่นี้ สร้างโอกาสผลกำไรจากการลงทุนในตลาดเงินดิจิตอลนี้ได้ในอนาคต

เราจะพาคุณไป รีวิวแหล่งซื้อขาย Bitcoin ในไทย ที่มือใหม่ สามารถเป็นสมาชิกได้เลยทันทีค่ะ จากการที่ได้ลงทุนในบิทคอยน์ มาระยะหนึ่งแล้ว จึงอยากนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์ มาถ่ายทอดให้นักลงทุนมือใหม่ ที่กำลังจะเข้ามาในวงการ Crypto Currency นี้ได้รู้จัก แหล่งซื้อขาย บิทคอยน์ เพื่อง่ายในการตัดสินใจ ซื้อขาย Bitcoin

5 วิธีเริ่มต้นเล่นบิทคอยน์ สำหรับมือใหม่

บิทคอยน์ กำลังเป็นกระแสที่คนกำลังพูดถึงกันมากขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นเรื่องที่หลายๆคน กำลังติดตามราคาของ บิทคอยน์ หรือ สกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ (Altcoin ) กันมากขึ้น  แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังไม่เข้าใจว่า บิทคอยน์ ที่กำลังเป็นกระแสอยู่นี้คืออะไร  เชื่อว่า ต่อไปนี้เราจะได้เห็นข่าวและคนโพสต์ราคา บิทคอยน์ กันมากยิ่งขึ้น และสำหรับคนที่ไม่รู้จักหรือเพียงได้ยินแค่คำว่า บิทคอยน์ ก็อาจจะมึนงงว่าที่มันข่าวอะไรกัน หลายคนเข้ามาเล่นบิทคอยน์โดยที่ยังไม่เข้าใจดีพอด้วยซ้ำ

 

วันนี้จึงขอใช้พื้นที่นี้ อธิบายให้กับมือใหม่ ในวงการ Bitcoin ให้ได้เข้าใจ ในการเริ่มต้นเล่นบิทคอยน์ กันอย่างคร่าวๆ   โดยขอเริ่มอธิบายความหมายง่ายๆของ Bitcoin ก่อนเลย

 

Bitcoin คือ หนึ่งในกลุ่มสกุลเงินดิจิตอล  หรือที่เรียกว่า Cryptocurrency เป็นเงินดิจิตอล ที่สามารถนำไปแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการได้ บิทคอยน์มีความแตกต่างกับสินทรัพย์แบบอื่นที่ไม่อิงกับทองหรือถูกพิมพ์ออกมา  บิทคอยน์มีจำนวนจำกัดเพียงแค่ 21 ล้านเหรียญเท่านั้น  เป็นสกุลเงินดิจิตอลที่เกิดขึ้นมาช่วงปี 2008 โดยบุคคลที่ใช้นามแฝงว่า ซาโตชิ นากะโมโตะ

 

คุณสมบัติเด่นของ บิทคอยน์ คือ

  • เป็นเงินดิจิตอล 100 % จับต้องไม่ได้
  • ไม่ต้องมีบัญชีธนาคารก็ใช้ได้ เพียงแค่มีอินเตอร์เน็ต เท่านั้น
  • ไม่มีองค์กรใด หรือ มีรัฐ มาคอยควบคุมกำกับ
  • การทำธุรกรรมไม่จำเป็นต้องผ่านแบงค์
  • ทุกธุรกรรมจะถูกบันทึกและเปิดเผย
  • ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนจริงๆ

 

ข้อดีของบิทคอยน์

ข้อเสียของบิทคอยน์

  • มูลค่าของมันไม่ได้ตกอยู่ในการควบคุมของรัฐบาล ถือว่าเราเป็นเจ้าของเงินอย่างแท้จริง
  • มูลค่าสูงขึ้น เนื่องจากความต้องการมากขึ้น ในขณะที่จำนวนบิทคอยน์เท่าเดิม
  • เราสามารถรับหรือส่งบิทคอยน์ให้กับใครก็ได้ในโลกนี้ได้อย่างรวดเร็วด้วยตัวของเราเอง
  • ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตโดยไม่ต้องตัวกลางเช่น bank, paypal, moneygram
  • เสียค่าธรรมเนียมน้อยมากๆ
  • ราคามีความผันผวนสูง
  • ยังไม่มีกฎหมายรองรับ จากธนาคารแห่งประเทศไทย
  • ยังไม่เป็นที่นิยมแพร่หลายในไทย และบางประเทศ
  • การซื้อ ขาย และการใช้งาน อาจจะดูยุ่งยาก สำหรับมือใหม่
  • มีหลายกลุ่มใช้ BitCoin เป็นช่องทางของธุรกิจด้านมืด
  • มีความเสี่ยงในการถูก Hack

 

3 เว็บเทรด Bitcoin ต่างประเทศ ที่น่าเชื่อถือ และมีการซื้อขายสูงสุดปี 2020

ใครที่อยากลองเทรดในตลาดต่างประเทศ เพื่อกระจายความเสี่ยง บทความนี้ เรามาดูกันว่า 3 เว็บเทรด Bitcoin ต่างประเทศ ที่น่าเชื่อถือ และมีปริมาณการซื้อขายสูงสุดในปี 2020 มีเจ้าไหนบ้าง ไปดูกัน

อ่านต่อที่นี่

มือใหม่ต้องการเล่นบิทคอยน์ ต้องทำอย่างไร ?

ขั้นตอนในการเริ่มต้นเล่นบิทคอยน์ มีคร่าวๆดังนี้  

1. ต้องศึกษา ทำความเข้าใจพื้นฐานเรื่องบิทคอยน์ก่อน ว่า บิทคอยน์ คือ อะไร?

อย่าพึ่งลงทุน หากยังไม่มีความรู้เรื่องบิทคอยน์

 

2.ต้องลงทะเบียนสมัคร กับ บริษัทซื้อขายบิทคอยน์ในประเทศไทย

การเริ่มต้นซื้อบิทคอยน์ เราสามารถเลือกซื้อได้หลายเว็บไซต์ แต่ส่วนใหญ่คนไทยจะใช้บริการซื้อบิทคอยน์ที่ BX.in.th เนื่องจากเป็นบริษัทอันดับ 1 ในไทย ที่น่าเชื่อถือที่สุด ดูรายชื่อเว็บไซต์ที่ให้บริการซื้อขายบิทคอยน์ทั้งหมดได้ ที่นี่..เลย

5 เว็บไซต์ซื้อขาย Bitcoin ในไทย มือใหม่ห้ามพลาด!

ถูกถามกันมาเยอะมาก ว่า ซื้อบิทคอยน์ ได้ที่ไหน เว็บไหนน่าเชื่อถือ ? ถ้าคุณกำลังมองหาแหล่งซื้อขายเงินบิทคอยน์ วันนี้เรามีบทความที่จะพาคุณไปทำความรู้จัก กับ 5 เว็บไซต์ซื้อขาย Bitcoin ในไทย ที่คุณเป็นสมาชิกได้ทันที!

>>>อ่านต่อ ที่นี่<<<

 

3. หลังจากที่มีบัญชีเป็นของตัวเองแล้ว ก็สามารถทำการซื้อบิทคอยน์ได้ 

มือใหม่สามารถเข้าไปดูการเปิดบัญชี และ การซื้อบิทคอยน์ ได้ที่นี่

มาดู วิธีใช้งาน กับ bx.in.th เว็บเทรดเหรียญอันดับ 1 ในเมืองไทย

หลังจากที่ระบบอนุมัติบัญชีให้แล้วเรามาดูกันว่า จะเริ่มฝากเงินอย่างไร เข้าเทรดอย่างไร และระบบของ bx.in.th เป็นอย่างไร ไปดูกันเลย

>>>อ่านต่อ ที่นี่<<<

คุณสามารถซื้อบิทคอยน์ ได้ตามกำลังทรัพย์ที่มี ยกตัวอย่างเช่น

สมมุติ ราคา 1 บิทคอยน์ วันนี้ เท่ากับ 500,000 บาท           1 บิทคอยน์ มีหน่วย เท่ากับ 1.00 000 000  Satoshi 

ถ้าคุณมีเงิน 500 บาท สามารถซื้อบิทคอยน์ ได้ประมาณ 100 000 Satoshi  หรือ 0.00100000 BTC

ถ้ามีเงิน 1000 บาท สามารถซื้อบิทคอยน์ ได้ประมาณ 200 000 Satoshi  หรือ 0.00200000 BTC

บิทคอยน์ที่คุณซื้อจะถูกเก็บไว้ในกระเป๋าบิทคอยน์ เว็บไซต์ซื้อขายบิทคอยน์จะมีบริการกระเป๋าบิทคอยน์ฟรีให้ผู้ใช้บริการอยู่แล้ว ในกระเป๋าบิทคอยน์จะมีกระเป๋า รับ ส่ง ซึ่งต้องระวังให้ดี อย่ากดสลับกันนะ เพราะมือเก่าแล้วยังเคยกดผิดบ่อยๆ

หน้าตาของกระเป๋าบิทคอยน์ ในเว็บ BX.in.th

 

4.เมื่อคุณได้บิทคอยน์ มาครอบครองแล้ว คราวนี้มาถึงการตัดสินใจว่าเราอยู่สายไหน 

  • ถ้าเป็นสายลงทุนระยะยาว ควรย้าย บิทคอยน์ ไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัย เช่น กระเป๋าแบบ Hardware Trazer Nano หรือ กระเป๋าบิทคอยน์ ที่มีระบบความปลอดภัย เชื่อถือได้

รวบรวม กระเป๋าบิทคอยน์ ประเภทต่าง ๆที่คุณควรรู้

ก่อนจะเริ่มใช้บิทคอยน์ หรือเหรียญดิจิตอลอื่นๆ เราต้องมี กระเป๋าบิทคอยน์ (wallet) เสียก่อน เพราะ ถ้าไม่มีกระเป๋าบิทคอยน์ เราก็จะไม่สามารถรับ เก็บ หรือใช้บิทคอยน์ได้ กระเป๋าสตางค์บิทคอยน์เปรียบเสมือนตัวกลางที่เชื่อมระหว่างเรากับระบบบิทคอยน์

>>>อ่านต่อ ที่นี่<<<
  • ส่วนใครที่เป็นนักเทรดสามารถทำการโอนย้ายบิทคอยน์ไป เทรดในเว็บไซต์ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงได้ เช่น Binance.com, Bitfinex.com, Bittrex.com เป็นต้น
  • สำหรับผู้เขียนจะซื้อเหรียญบิทคอยน์ที่ BX.in.th แล้วโอนบิทคอยน์ไปเทรดทำกำไรในตลาดที่มีการซื้อขายสูง เช่น Binance.comBitfinex.comBittrex.com เมื่อทำกำไรได้ก็โอนบิทคอยน์ มาขายที่ BX ซึ่งสามารถขายและถอนเงินบาทได้อย่างรวดเร็วมาก

10 เว็บเทรด Bitcoin ที่มีการซื้อขายสูง ที่อาจทำให้คุณรวย!!

สำหรับมือใหม่หลายคน ไม่รู้จะเลือกเทรดบิทคอยน์ที่ไหนดี?? การเลือกเว็บเทรดบิทคอยน์ที่ดีนั้น จะมีผลต่อการเทรดของคุณอย่างมาก มันอาจจะเป็นตัวชี้วัดในการทำกำไรในอนาคตของคุณเลยก็ว่าได้

>>>อ่านต่อ ที่นี่<<<

การเทรดเหรียญ Altcoin หรือเหรียญดิจิตอลทางเลือก

มีเหรียญดิจิตอลให้เทรดทำกำไรมากกว่า 2,000 ตัว สามารถเข้ามาเช็คได้ที่ Coinmarketcap.com  เพื่อให้ไปศึกษาให้รู้จักตัวย่อเหรียญเบื้องต้นก่อน   ในการซื้อเหรียญ Altcoin จะต้องมี Bitcoin หรือ Etherium ซึ่งเป็นเหรียญมาตรฐานในการซื้อขาย แลกเปลี่ยนก่อนเสมอ

วิธีการเลือกเทรดขั้นต้น สำหรับมือใหม่ไม่เคยทราบข้อมูลเกี่ยวกับแวดวงเงินดิจิตอล แนะนำให้ลองเลือกเทรด จาก Top 20 เหรียญในตารางการซื้อขายดูก่อน  โดยทำการศึกษาข้อมูลของเหรียญแต่ละตัว ให้เข้าใจ และ เรียนรู้การดูกราฟเทคนิคอลเบื้องต้น ในการเข้าใจจังหวะในการลงทุนก่อนที่จะตัดสินใจซื้อเหรียญด้วย

Altcoin คือ อะไร? แนะนำวิธีหารายได้กับ Altcoin

เมื่อได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และ มันใกล้ตัวเรา มากขึ้นแล้ว เลยต้องศึกษาและติดตามมันให้ทันซะหน่อย เพราะเงินสกุลเงินดิจิตอล เป็นเรื่องที่น่าสนใจ และใกล้ตัวเราเรื่อยๆๆ วันนี้จึงอยากหยิบยกเรื่อง Altcoin สกุลเงินดิติตอลทางเลือก มาฝากกัน จะได้ทันโลกไม่ตกยุค

>>>อ่านต่อ ที่นี่<<<

 

5. หาข้อมูล ข่าวสารเกี่ยวกับบิทคอยน์ ให้มากๆ

สำหรับมือใหม่ อยากจะเน้นให้มองภาพใหญ่ของตลาดบิทคอยน์ก่อน เพราะมีความสำคัญมากๆต่อเหรียญรายตัว  บิทคอยน์มีข่าว ทั้งด้านบวก ด้านลบ มันส่งผลให้ราคาผันผวนอย่างมาก อันนี้ต้องใช้วิจารณญาณให้มากๆด้วย สำหรับมือใหม่ไม่รู้เทคนิคขั้นเทพ ลองศึกษาดูทีละขั้นไป ส่วนคนที่เล่นมาก่อน เล่นเก่งแล้วต้องปล่อยเค้าไป อย่าไปตาม การศึกษาการลงทุนบิทคอยน์ถือว่าเป็นเรื่องใหม่มากในบ้านเรา อาจจะต้องใช้เวลาศึกษา และ เริ่มอย่างระวังดีกว่า




เรามาดู Step by Step คร่าวๆการเล่นบิทคอยน์ ให้เห็นภาพชัดๆกันอีกที 

ยกตัวอย่าง เช่น นาย B ต้องการเริ่มเล่นบิทคอยน์ โดยมีเงินลงทุน 1,000 บาท

Step แรก : นำเงิน 1,000 บาท ไปแลกซื้อบิทคอยน์ ที่ Bx.in.th ได้บิทคอยน์จำนวน 0.00150000 บิทคอยน์นี้จะถูกเก็บในกระเป๋าบิทคอยน์ที่ BX 

Step สอง : เมื่อได้บิทคอยน์แล้ว ต่อไปก็เป็นการตัดสินใจว่าจะไปสายไหน

  • สายลงทุน : นำบิทคอยน์ ไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัย ถือระยะยาว เมื่อได้ราคาที่พอใจ ก็นำมาขายที่ Bx.in.th
  • สายเทรด : นำบิทคอยน์ไปเทรดในตลาดที่มีการซื้อขายปริมาณสูง เช่น  Binance.comBitfinex.comBittrex.com เมื่อได้กำไรก็นำเหรียญมาแลกเงินบาทที่ Bx.in.th  >>หาข้อมูลเรื่อง เว็บเทรดบิทคอยน์ ที่นี่ 
  • สายเทรดหรือลงทุนในเหรียญทางเลือกอื่นๆ (Altcoin) : นำบิทคอยน์ไปแลกซื้อเหรียญดาวรุ่งอื่นๆ เช่น OMG, TRX, ADA อื่นๆ เพื่อถือไว้ระยะยาว หรือ เทรดระยะสั้น เมื่อได้กำไรก็นำเหรียญมาแลกเงินบาทที่ Bx.in.th เช่นกัน >> หาข้อมูลเรื่องเหรียญทางเลือก Altcoin ได้ที่นี่
  • สายขุด : นำบิทคอยน์ไปซื้อกำลังขุดเหรียญบิทคอยน์ หรือ ขุดเหรียญทางเลือกอื่นๆได้ เข้าไปดูกำลังขุดที่ Genesis Mining, ViaBTC.comezacoin.com >> หาข้อมูลเรื่องการขุดเหรียญต่างๆได้ ที่นี่

**สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เข้าใจ ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง หรือมีคำถามอื่นๆ สามารถสอบถาม หรือ ติดต่อเราได้ที่ https://www.facebook.com/GoalBitcoin/

————————————————————————————————————————————————-

เป็นกำลังใจให้ทุกคน และขอให้ทุกคนโชคดี ร่ำรวย และทำกำไรจากตลาด Cryptocurrency

ได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ 




คำเตือน : ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนบิทคอยน์ มือใหม่ถอดด้ามทุกคนต้องศึกษาหาความรู้ก่อนลงสนามจริง !!!

4 เว็บเทรดบิทคอยน์ในไทย ที่ได้รับการรับรอง จาก ก.ล.ต ประจำปี 2563

วันนี้เราได้รวบรวม 4 เว็บเทรดบิทคอยน์ในไทย ที่ได้รับการรับรอง จาก ก.ล.ต โดยเว็บเทรดทั้ง 4 นี้ สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามบทเฉพาะกาลตามคำสั่งของ ก.ล.ต. หรือ ได้รับ License แล้วนั่นเอง

อ่านต่อที่นี่

คนรวยด้วยบิทคอยน์ มีสักกี่คน? มือใหม่อยากรวย ตามมาดูกัน

เดี๋ยวนี้หันหน้าไปทางไหนก็มีแต่คนพูดถึง บิทคอยน์ บิทคอยน์ แล้วก็บิทคอยน์ อ้าว…บิทคอยน์ คือ อะไรล่ะ? กลายเป็นคำถามที่มีแต่คนอยากรู้? เพราะมีข่าวว่าบางคนสามารถทำรายได้จากบิทคอยน์วันละหลายพัน หลายหมื่น ถือว่าไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ เลย  แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่า บิทคอยน์ คือ อะไร ผู้เขียนแนะนำให้หาข้อมูลในเว็บ GoalBitcoin นี้ก่อน หรือ หาข้อมูลเพิ่มเติมในอินเตอร์เน็ตที่มีอยู่มากมายได้เช่นกัน

ราคาบิทคอยน์วันนี้ ทะลุ New high ไปอยู่ที่ $10,327.50  หรือ เท่ากับ 340,000 บาท (อ้างอิงตาม Coinmarketcap)สำหรับใครที่เป็นนักลงทุนหรือนักเทรด หรือหน้าใหม่ในวงการบิทคอยน์  ผู้เขียนก็ยังแนะนำให้ทะยอยซื้อบิทคอยน์เก็บสะสมไว้  ตามกำลังทรัพย์ที่มี  แล้วอีกหน้าปีค่อยมาเช็คราคากันอีกที

 

วันนี้ผู้เขียนอยากจะมาคลายข้อสงสัย ว่า ราคาบิทคอยน์ วิ่งทะลุไป $10,000 ยังเข้าทันมั้ย? คนที่ถือ Bitcoin ในโลกนี้มีมากน้อยแค่ไหน? และมีคน รวยจาก Bitcoin สักกี่คน ?? 

 

คนที่ถือบิทคอยน์ Bitcoin ในโลกนี้มีมากน้อยแค่ไหน?

จากสถิติบัญชี Bitcoin ทุกบัญชีทั่วโลกมาเปิดให้ดูกันเลย

อ้างอิง https://bitinfocharts.com/

จากสถิติบัญชี Bitcoin ในภาพทำให้เห็นว่า

  • ทั่วโลกมีบัญชี Bitcoin 23.15 ล้านบัญชี  บัญชีบิทคอยน์ มีการใช้งานไม่ต่างกับเลขบัญชีธนาคาร และหนึ่งคนสามารถมีได้หลายบัญชี แสดงว่า น่าจะมีคนที่มีบัญชี Bitcoin ประมาณ 15-20 ล้านคนทั่วโลก
  • เมื่อนำทุกบัญชีทั่วโลกมาหาค่าเฉลี่ย ยอดบิทคอยน์เฉลี่ย คือ 0.72 BTC 
  • แต่บัญชีบิทคอยน์ส่วนใหญ่คือ 13.22 ล้านบัญชี  มี Bitcoin อยู่ในบัญชีไม่เกิน 0.001 BTC  เหมือนเปิดบัญชีไว้ลองเล่นเฉยๆ
  • บัญชีที่มี Bitcoin ตั้งแต่ 10,000 BTC  ซึ่งอาจจะเรียกกลุ่มนี้ว่าเป็นมหาเศรษฐี Bitcoin มีจำนวน 111 บัญชีทั่วโลก
  • บัญชี Bitcoin ที่มียอดคงเหลือมากกว่า 100,000 BTC มี 2 บัญชีในโลกเท่านั้น มี Bitcoin รวมกัน 252,798 BTC
  • บัญชี Bitcoin ที่มียอดคงเหลือมากที่สุดในโลก ถือ Bitcoin อยู่ 130,215 BTC  ซึ่งมีการเปิดเผยว่าเป็นบัญชีของ Bitfinex ที่เป็นเว็บเทรดซื้อขายเหรียญดิจิตอลใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก



เห็นตัวเลขเหล่านี้ พอจะสรุปได้ว่า

  • Bitcoin มีการกระจุกตัวอยู่ในมือคนจำนวนไม่มาก Bitcoin 96.29% อยู่ในมือคนแค่ 2.93%
  • แม้เราจะได้ยินเรื่อง Bitcoin กันคุ้นหู มีคนกล่าวถึงตลอด แต่จำนวนคนที่มี Bitcoin อยู่ในมือจริง ๆ อย่างมากก็ไม่เกิน 23 ล้านคนทั่วโลก ถ้าเทียบกับประชากรโลกที่ี 7,600 ล้านคน ก็แค่ 0.3% ….. แปลว่า ทุก ๆ 1,000 คนในโลก จะมีแค่ 3 คนเท่านั้นที่มีบัญชี Bitcoin จึงนับว่ายังเป็นเรื่องใหม่มากสำหรับยุคนี้มาก (แม้จะถือกำเนิดมา 8 ปีแล้วก็ตาม) ซึ่งก็แปลว่า ถ้า Bitcoin ไม่ล้มหายตายจากไปซะก่อน ยังมีโอกาสอีกมากในการเข้าถึงคนอีกหลายร้อยหลายพันล้านคนทั่วโลก
  • นอกจากนั้น ถ้าเทียบปริมาณ Bitcoin ทั่วโลก ซึ่งมีมูลค่ารวมกัน 1.67 แสนล้านเหรียญ เมื่อเทียบกับปริมาณเงิน USD ทั้งหมดที่มี 13.74 ล้านล้านเหรียญ Bitcoin ก็แค่ 1.2% เท่านั้น .. Bitcoin ยังถือว่าน้อยมากๆๆ (ข้อมูล US Money Supply M2 )
  • ทั้งนี้ ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ราคา Bitcoin ขยับขึ้นมาแล้ว 12.60 เท่าตัว จาก $737 มาเป็น $10,327 .. แต่ถ้าคิดว่า 12.60 เท่าเยอะแล้ว ก็ยังเทียบไม่ได้กับเหรียญ Ethereum ที่ช่วง 1 ปีที่ผ่านมาพุ่งขึ้นมา 53.22 เท่าตัว จาก $8.81 มาเป็น $473 และถ้าเทียบกับเงินสกุล Dash ที่พุ่งขึ้นมา 67.28 เท่าตัว จาก $9.12 มาเป็น $622 ราคา Bitcoin ที่พุ่งขึ้นมา ก็แค่ธรรมดา ๆ ไปเลย

มาดูหน้าตา 5  คนรวยระดับมหาเศรษฐีจาก Bitcoin กันหน่อย

1. Cameron and Tyler Winklevossสองศรีพี่น้อง Winklevoss ผู้อ้างว่าเป็นเจ้าของไอเดียสร้าง Facebook ฟ้อง Mark Zuckerberg  ผู้ก่อตั้ง Facebook สองพี่น้อง Winklevoss มีบิทคอยน์มูลค่ารวมมากถึง  400 ล้านดอลลาร์

2. Tony Gallippi  :เป็นผู้ก่อตั้งและเป็น CEO ของบริษัท Bitpay มีบิทคอยน์มูลค่ารวมมากถึง  100 ล้านดอลลาร์

3. Roger Ver :เป็นนักลงทุน ในบริษัท Start Up ที่เกี่ยวกับ Bitcoin  มีบิทคอยน์มูลค่ารวมมากถึง  52 ล้านดอลลาร์

4. Charlie Shrem  :เป็นนักลงทุนและเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Start Up ชื่อ BitInstant,มีบิทคอยน์มูลค่ารวมมากถึง  45 ล้านดอลลาร์

5. Jared Kenna : เป็นผู้ก่อตั้ง บริษัท Tradehill and Money & Tech  มีบิทคอยน์มูลค่ารวมมากถึง 30 ล้านดอลลาร์




การคาดการณ์ราคาบิทคอยน์ในปี 2020-2030

Bitcoin ถือเป็นเรื่องใหม่มากสำหรับยุคนี้ (แม้จะถือกำเนิดมา 8 ปีแล้วก็ตาม) ซึ่งก็แปลว่า ถ้า Bitcoin ไม่ล้มหายตายจากไปซะก่อน ยังมีโอกาสอีกมากในการเข้าถึงคนอีกหลายร้อยหลายพันล้านคนทั่วโลก

Note : การคาดการณ์อาจจะไม่เป็นตามในรูปก็เป็นได้  ขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่นของแต่ละคน โปรดใช้วิจารณญาณ!!

 

แล้วตอนนี้บิทคอยน์ ซื้ออะไรได้บ้าง?

รวมแหล่งร้านค้า รับชำระเงินด้วยบิทคอยน์ ที่คุณอาจยังไม่รู้

เทคโนโลยีที่ใกล้ตัวเรามากที่สุดเห็นจะเป็นเทคโนโลยีด้านการชำระเงิน โดยในปัจจุบันนั้น เราต่างก็เห็นการใช้จ่ายเงินผ่านมือถือ โดยที่เราไม่ต้องพกเงินสดกันอีกต่อไปแล้ว เราจะพาคุณไปดู แหล่งร้านค้า ที่รับชำระเงินด้วยบิทคอยน์ ที่คุณอาจยังไม่รู้

>>>อ่านต่อ ที่นี่<<<

ต้องบอกว่าปัจจุบันบิทคอยน์ไม่ใช่เรื่องไกลตัวของเราอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากชีวิตประจำวันของทุกคนต้องข้องเกี่ยวกับระบบอินเทอร์เน็ตแน่นอน และบิทคอยน์คงจะมีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ กับระบบการเงินของโลกในอนาคต ซึ่งผู้เขียนอยากให้ทุกท่านศึกษา เรียนรู้และทำความเข้าใจเรื่องนี้เอาไว้ซักหน่อยก็ไม่เสียหาย เพราะใครจะไปรู้อนาคตข้างหน้า “บิทคอยน์” อาจกลายเป็นสกุลเงินหลักที่ใช้กันอย่างแพร่หลายก็ได้

การลงทุนมีความเสียง แต่การลงทุนโดยที่ไม่มีความรู้นั้นมีความเสี่ยงมากที่สุด ก่อนลงทุนใน Bitcoin, Altcoin หรือ ICO ตัวไหน ควรศึกษาให้แน่ใจก่อนทุกครั้ง



10 เว็บเทรด Bitcoin ที่มีการซื้อขายสูง ที่เหมาะสำหรับนักเทรด!!

ปัจจุบันมี เว็บเทรด Bitcoin เพื่อซื้อขายแลกเปลี่ยนเหรียญผุดขึ้นมามากมายทั่วโลก สำหรับมือใหม่หลายคน ไม่รู้จะเลือกเทรดบิทคอยน์ที่ไหนดี?? การเลือกเว็บเทรดบิทคอยน์ที่ดีนั้น จะมีผลต่อการเทรดของคุณอย่างมาก มันอาจจะเป็นตัวชี้วัดในการทำกำไรในอนาคตของคุณเลยก็ว่าได้ มีเว็บเทรดจำนวนมากก็จริง แต่เว็บเทรดที่น่าเชื่อถือ และมีปริมาณการซื้อขายสูงมีอยู่ไม่กี่เจ้า

>>>อ่านต่อ ที่นี่<<<

Credit: Coinmarketcap.com, thailandinvestmentforum.com/

6 กลโกงการลงทุนบิทคอยน์ มือใหม่ทุกคนต้องระวัง!

ลงทุนบิทคอยน์กระแสความนิยมของ Bitcoin และ Alcoin เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ราคาบิทคอยน์นับวันจะยิ่งสูงขึ้นทะลุดาวอังคาร ทำ New high ทุกวัน ล่าสุด 1 บิทคอยน์ มีค่าเท่ากับ 320,000 บาท ($9953) ข้อมูลจาก Coinmarketcap.com วันที่ 28 พฤศจิกายน 2560

การลงทุนบิทคอยน์ หรือ Cryptocurrency ตัวอื่นๆ จึงเริ่มเป็นอะไรที่คนทั่วโลกสนใจ ทำให้เกิดการดึงดูดให้คนที่ไม่ได้ศึกษา และไม่ได้มีความรู้ ความเข้าใจที่แท้จริงเข้ามาลงทุน ลงเงินในแวดวงสกุลเงินดิจิตอลนี้  คนเหล่านี้อาจจะโดนหลอกลวงโดยนำบิทคอยน์ มาบังหน้าได้ และเมื่อเกิดการโกงที่มากขึ้น ข่าวแย่ๆเหล่านี้จะส่งผลร้ายแรงต่อภาพลักษณ์ของ บิทคอยน์ ในสายตาของคนส่วนมาก ยิ่งทำให้คนต่อต้านการลงทุนบิทคอยน์ มากขึ้น

ในบทความนี้ Goalbitcoin จะมาสร้างภูมิคุ้มกันให้มือใหม่ทุกๆท่าน ปลอดภัยจากภัยหลอกลวงอันตรายจากการลงทุนในบิทคอยน์ และเหรียญ Cryptocurrency อื่นๆกัน  รูปแบบกลโกงแฝงจากการนำบิทคอยน์ และ Cryptocurrency มาใช้เป็นเครื่องมือในการหลอกลวง ฉ้อโกงนั้น หลักๆแล้วมักจะมีอยู่ 6 ประเภทด้วยกัน คือ

 

1.เว็บเทรดบิทคอยน์ หลอกลวง (Fake Bitcoin Exchange)

การเทรดบิทคอยน์ หรือ Cryptocurrency อื่นๆ เป็นช่องทางการลงทุนที่ง่ายที่สุด แต่เสี่ยงมากเช่นกัน เมื่อเจอภาวะผันผวนของตลาด ปัจจุบันมี เว็บเทรด Bitcoin  เพื่อซื้อขายแลกเปลี่ยนเหรียญผุดขึ้นมามากมายทั่วโลก สำหรับมือใหม่หลายคน ยังไม่ได้ศึกษาให้ดี ไม่รู้จะเลือกเทรดบิทคอยน์ที่ไหน อาจจะทำให้เลือกเว็บเทรดปลอม ที่หลอกลวงนักลงทุน เกิดปัญหาในการโอนเหรียญออกไม่ได้ ไม่มี Support ช่วยเหลือ หรือไม่ยอมจ่ายเหรียญได้

 ในโลกออนไลน์มีเว็บเทรดจำนวนมากก็จริง แต่เว็บเทรดที่น่าเชื่อถือ และมีปริมาณการซื้อขายสูงมีอยู่ไม่กี่เจ้า

วิธีป้องกันตัวเองเว็บเทรดบิทคอยน์ หลอกลวง

  • ศึกษาที่มาที่ไปของบริษัทเว็บเทรด และดูประวัติเจ้าของบริษัท CEO ว่าเคยมีข่าวเสียหายหรือไม่ และจดทะเบียนมานานแค่ไหน ผลประกอบการเป็นอย่างไร ได้รับการรับรองอนุมัติจากประเทศนั้นๆหรือไม่
  • ศึกษาข้อมูลความโปร่งใสของบริษัท ว่ามีการแจกแจงชัดเจน เช่น https://bx.in.th/info/transparency/ แบบนี้หรือไม่ และถ้ามีแล้ว ให้เข้าไปตรวจสอบด้วยว่าข้อมูลเหล่านี้จริงเท็จแค่ไหน เราอาจจะเจอกรณีแปลกๆที่ปริมาณเหรียญที่เทรดๆกันอยู่ อาจจะมากกว่าปริมาณที่เว็บเทรดถือไว้ ณ ปัจจุบันก็ได้
  • ดูระบบความปลอดภัยที่เว็บเทรดนั้นๆมีให้ ถ้ามีระบบอย่าง 2 Factor Authentication หรือ SMS Verification และมาตรการความปลอดภัยที่ดูมีมาตรฐานเป็นสากล ก็จะเพิ่มความน่าเชื่อถือ แต่ถ้าไม่มี หรือมีแค่ไม่กี่อย่างและทำงานได้ไม่ดีด้วย ก็ให้เพิ่มความระมัดระวัง
  • นำเหรียญที่อยู่ในเว็บเทรดออกไปเก็บใน Wallet ที่ปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ เพราะถึงแม้เป็นบริษัทที่น่าเชื่อถือแค่ไหนก็ตาม ก็มีโอกาสถูกขโมยเหรียญจากเว็บเทรดได้  อย่างเช่น MTGOX บริษัทใหญ่ที่เคยเป็นอันดับหนึ่งในการเทรดบิทคอยน์ ถูกขโมยเหรียญ ทำให้บริษัทต้องถูกฟ้องล้มละลาย

3 เว็บเทรด Bitcoin ต่างประเทศ ที่น่าเชื่อถือ และมีการซื้อขายสูงสุดปี 2020

ใครที่อยากลองเทรดในตลาดต่างประเทศ เพื่อกระจายความเสี่ยง บทความนี้ เรามาดูกันว่า 3 เว็บเทรด Bitcoin ต่างประเทศ ที่น่าเชื่อถือ และมีปริมาณการซื้อขายสูงสุดในปี 2020 มีเจ้าไหนบ้าง ไปดูกัน

อ่านต่อที่นี่

2.กระเป๋าบิทคอยน์ปลอม (Fake Bitcoin Wallets)

ในช่วงหลังๆมานี้ การใช้กระเป๋าอิเล็กทรอนิคสำหรับเงินดิจิตอลต่างๆ หรือที่เรียกว่า วอลเล็ท (wallet ) มีความนิยมเพิ่มมากขึ้นมาก จึงทำให้พวกแฮกค์เกอร์ต่างๆจ้องที่จะฉกข้อมูลการเข้า wallet ของเหรียญชนิดต่างๆของเรา โดยส่วนมากพวกนี้จะส่งข้อความเข้ามาในอีเมล์เรา หลอกให้เราคลิ๊กลิงค์ โดยการส่งข้อความประมาณว่า บัญชี wallet ของเราจะถูกปิดถ้าเราไม่เข้าไปยืนยันตัวเอง ทั้งที่เรายืนยันตัวตนแล้ว หรือประมาณว่าเว็บไซต์มีการอัพเดท อะไรประมาณนี้ทั้งนี้ ขอให้ทุกท่านโปรดตรวจสอบ ที่อยู่ผู้ส่งอีเมลล์ที่ส่งมาให้เรา ว่าเป็นของทางเว็บจริงหรือไม่ บางทีแค่ชื่ออีเมลล์ที่ส่งมา ตัวอักษรขนาดเล็กหรือใหญ่ ก็ทำให้เปลี่ยนเป็นคนละเว็บไซต์แล้ว

ดังตัวอย่างเช่น  จากตัวอย่าง blogchain.Info อันที่จริงควรจะเป็น blockchain.info

 

วิธีป้องกันตัวจากกระเป๋าบิทคอยน์ปลอม

  • ศึกษาข้อมูลของบริษัทกระเป๋าบิทคอยน์ให้ดี ว่ามีความน่าเชื่อถือ ปลอดภัย สามารถเข้าไปเช็ครายชื่อกระเป๋าที่น่าเชื่อถือที่ Bitcoin.org
  • ตรวจสอบลิงค์ให้แน่ใจ ว่าใช้ลิงค์จากบริษัทกระเป๋าจริงๆ
  • กระเป๋าแบบฮาร์ดแวร์มีความปลอดภัยและสะดวกสบาย ถึงแม้ว่าตัวเครื่องอุปกรณ์จะหาย ถูกขโมย หรือชำรุด หากเรามีการสร้างรหัสแบคอัพสำรองไว้ บิทคอยน์ก็จะไม่หายไปไหน กระเป๋าแบบฮาร์ดแวร์เปรียบเสมือนห้องนิรภัยใต้ดินของเรา ถ้าใครมีบิทคอยน์มาก ๆ ก็ควรที่จะเลือกเก็บบิทคอยน์ ในกระเป๋าแบบฮาร์ดแวร์ แทนกระเป๋าแบบออนไลน์

รวบรวม กระเป๋าบิทคอยน์ ประเภทต่าง ๆที่คุณควรรู้

ในการใช้งานจริง สิ่งที่ต้องเก็บรักษาอย่างปลอดภัยไม่ใช่ตัวบิทคอยน์โดยตรง แต่เป็นกุญแจส่วนตัวของแต่ละคนที่ใช้อนุมัติการทำธุรกรรมบิทคอยน์ แต่ละกระเป๋าสตางค์จะมีโค๊ดยาวๆเป็นตัวอักษรสลับตัวเลข เรียกว่า Address เป็นบัญชี แบบฝาก และถอน เวลาใครจะส่งบิทคอยน์มาให้เรา เราก็ให้ Address แบบฝากได้เลยค่ะ ในทางกลับกัน ถ้าเราจะส่งเงิน เราก็ต้องมี Address แบบถอน การฝากถอนทำได้ง่าย และรวดเร็วมาก

>>>อ่านต่อ ที่นี่<<<

3.โจรกรรมข้อมูลทางเว็บไซต์ หรือ อินเตอร์เน็ต (Phishing Scams)

เว็บไซต์หลอกลวงเป็นภัยทางอินเตอร์เน็ตที่จะแอบอ้างเป็นธนาคาร เว็บไซต์บริการด้านธุรกรรม หรือบริการชำระเงินออนไลน์ที่คุณใช้บริการอยู่ เพื่อหลอกเอาข้อมูล Password หรือข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆในการเข้าถึงบัญชีกระเป๋าของคุณ

วิธีป้องกันตัวจากโจรกรรมข้อมูลทางเว็บไซต์

ต่อไปนี้เป็นวิธีการง่ายๆและรวดเร็วที่จะทำให้บัญชีของคุณปลอดภัยจากมิจฉาชีพ

1) ตรวจสอบ URL หรือลิงค์โดยละเอียดก่อนกดเข้าไป

พวกเว็บไซต์หลอกลวงต่างๆมักจะสร้างลิ้งค์เว็บไซต์ปลอมที่ดูคล้ายคลึงกับเว็บไซต์ที่คุณใช้บริการอยู่ ควรตรวจสอบให้ละเอียดก่อนกดเข้าไปว่าเป็นลิ้งค์เว็บไซต์ที่ใช้งานอยู่จริงและสังเกตว่าหน้าเว็บไซต์ที่ปรากฏแตกต่างจากเว็บไซต์ที่ใช้งานอยู่ปกติหรือไม่ หากเข้าไปในเว็บนั้นแล้ว อย่ากรอกข้อมูลใดๆลงไป

2) กรอกข้อมูลส่วนบุคคลในเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้เท่านั้น

HTTPS เป็นกระบวนการที่ใช้ในเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้เพื่อการติดต่อสื่อสารทางอินเตอร์เน็ตที่ปลอดภัย เมื่อใดก็ตามที่กรอกข้อมูลส่วนตัวหรือทำธุรกรรม ต้องแน่ใจว่ามีสัญลักษญ์รูปแม่กุญแจปรากฏอยู่ที่สเตตัสบาร์ร่วมกับ “https:” เสมอ โดยตัว s นั้นย่อมาจาก secure

3) ตั้งพาสเวิร์ดที่คาดเดาได้ยาก

โดยปกติเรามักใช้ username และพาสเวิร์ดเดิมซ้ำๆกันในหลายบัญชีที่เราสมัคร และนี่คือช่องโหว่ที่ก่อให้เกิดการโจรกรรมข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตได้ ดังนั้น เวลาตั้งพาสเวิร์ดควรกำหนดให้มีความซับซ้อนและคาดเดาได้ยากโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบัญชีที่มีข้อมูลสำคัญหรือข้อมูลทางการเงิน

4) เปิดการใช้งานเครื่องมือ two-factor authentication (2FA) กับบัญชีของคุณ

Two-factor authentication (2FA) หรือเครื่องมือยืนยัน 2 ขั้นตอน เพิ่มความปลอดภัยให้บัญชีของคุณมากยิ่งขึ้น ด้วยการยืนยันเพื่อความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นอีกขั้น บัญชีของคุณจะถูกโจรกรรมข้อมูลได้ยากยิ่งขึ้น คุณสามารถเปิดการใช้งาน 2FA สำหรับบัญชี coins.co.th ได้ เพียงแค่เข้าไปที่ Account Settings(การจัดการบัญชี)แล้วเปิดใช้ด้วยแอพพลิเคชั่น Google Authenticator

5) หลีกเลี่ยงการติดตั้งโปรแกรมหรือโปรแกรมเสริมที่ไม่น่าเชื่อถือลงในคอมพิวเตอร์

ติดตั้งและอัพเดทโปรแกรมแอนตี้ไวรัส, ไฟร์วอลล์(Firewall-เครื่องมือที่ใช้ในการป้องกันเน็ตเวิร์กจากการสื่อสารทั่วไปที่ไม่ได้รับ อนุญาต)รุ่นล่าสุดลงในคอมพิวเตอร์ส่วนตัวหรือคอมพิวเตอร์สำนักงาน เปิดใช้งานโปรแกรมเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ




4.การลงทุนแชร์ลูกโซ่โดยใช้ Cryptocurrency (Ponzi Scams)

หลาย ๆ ครั้งเราคงได้พบกับเพื่อนสนิท หรือคนรู้จัก สักคนที่ชอบมาแนะนำการลงทุนที่ดีให้กับเรา ทั้งการบอกว่านี่เป็นโอกาสที่จะสร้างอนาคตให้ตัวเอง หรือแม้แต่บอกว่าต้องการแบ่งปันสิ่งดี ๆ ให้กับเรา และหลายครั้งอีกเช่นกันที่เรามักจะเผลอเชื่อใจคนสนิทและลงทุนไปกับการลงทุนที่ “ดูท่าทาง” จะไปได้สวย บางธุรกิจนั้นดูดีและน่าเชื่อถือจริง ๆ แถมยังมีคนดังๆ ผู้เชี่ยวชาญร่วมลงทุนในโครงการนี้ไปอีกตั้งเยอะ ในเมื่อคนที่มีความรู้มากกว่าเรายังลงทุนไปกับโครงการนี้ แล้วทำไมเราถึงไม่ลงทุนตามเขาไป ดูยังไงโอกาสกำไรก็เห็นอยู่ชัด ๆ

ซึ่งทุกครั้งการต้มตุ๋นทางการเงินเองก็มีจุดประสงค์ให้เราเชื่อเช่นนั้นจริง ๆ เพื่อจะทำการหลอกลวงเงินจากผู้ลงทุนจำนวนมากมาย ก่อนที่จะเชิดเงินหายไปอย่างไร้ร่องรอย ทิ้งไว้เพียงคราบน้ำตา (กับความซวยและหนี้) ของนักลงทุนที่ไม่ใส่ใจกับการลงทุนของตนเอง โดยการต้มตุ๋นเหล่านี้หลายครั้งสามารถลอยนวลอยู่ได้นับสิบปี และกวาดเงินไปได้หลายพันล้านเลยทีเดียว

 

วิธีป้องกันตัวจากการลงทุนแชร์ลูกโซ่โดยใช้ Cryptocurrency

  • อยากให้ทุกท่านฉุกคิด และทำความเข้าใจว่า การลงทุนไม่ว่าอะไรก็ตาม แม้แต่สุดยอดนักลงทุน ก็ต้องมีจังหวะขาลงที่ขาดทุนบ้าง การที่เราเจอกับโฆษณาชวนเชื่อว่าเป็นการลงทุนที่มีแต่ได้กับได้ ด้วยกำไรที่สูงและสม่ำเสมอนั้น แทบเป็นไปไม่ได้จริง
  • การลงทุนที่สำเร็จไม่ใช่การที่เราชนะตลอด ไม่ใช่การที่เราหยั่งรู้ได้ล่วงหน้าอย่างถูกต้องแม่นยำว่าควรจะลงทุนกับอะไรในจังหวะไหน แต่การกระจายและจัดการกับความเสี่ยงอย่างชาญฉลาดและรอบคอบต่างหากที่สร้างความสำเร็จให้กับการลงทุน เพราะเราไม่สามารถตอบได้เลยว่าเราจะได้หรือเราจะเสียกันแน่

3 คดีดังแชร์ลูกโซ่ ล่าเหยื่อ“คนอยากรวย” (รู้ทันการต้มตุ๋นทางการลงทุน)

วันนี้จะขอเล่าถึงการต้มตุ๋นทางการลงทุน รูปแบบที่เคยส่งผลกระทบต่อผู้คนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งก็คือ กลยุทธ์ต้มตุ๋นแบบพอนซี (Ponzi’s Scheme) และ แบบปิรามิด (Pyramid Scheme) นั่นเอง พร้อมทั้ง 3 คดีดัง ที่ยังคงเป็นที่กล่าวถึงในปัจจุบัน

>>>อ่านต่อ ที่นี่<<<

5.Cloud Mining ปลอม (Fake Cloud mining)

Cloud Mining ถือเป็นสิ่งที่สร้างความสะดวกสบายให้กับนักลงทุน Cryptocurrency ระดับเริ่มต้นที่สนใจการขุดเหรียญได้เป็นอย่างดี โดยการที่เราไม่จำเป็นต้องเสียเวลา และทรัพยากรในการดูแลเหมืองขุดของเราเอง แต่เราจะทำการซื้อหรือเช่ากำลังขุดจากเหมือง Cloud Mining นี้ สำหรับบางที่ มีการเปิดเผยชัดเจนว่าเหมืองอยู่ที่ไหน มีการถ่ายวีดีโอทัวร์รอบโรงงาน แต่สำหรับบางเจ้าก็ไม่ได้มีการเปิดเผยที่ภาพถ่าย โดยที่ Cloud Mining บางเจ้าก็อาจจะไม่ได้เป็นเจ้าของกำลังขุดที่ปล่อยขายอยู่ 100% บางส่วนอาจจะทำการซื้อกำลังขุดมาจาก Cloud Mining เจ้าอื่นก็ได้ แต่ยังไงก็ตาม Cloud Mining ก็เป็นการลงทุนที่เสี่ยง ถึงแม้เจ้าที่เราลงเงินไปจะมีชื่อเสียงก็ตาม แต่ไม่ได้แปลว่าเขาพลาดไม่ได้ หรืออย่างล่าสุด Cloud mining สายเสี่ยง ที่ชื่อ bitpetite ก็ปิดเว็บหนี พร้อมกับเหรียญที่นักลงทุนทั่วโลก นำมาฝากขุดที่เว็บนี่

 

วิธีป้องกันตัวจาก Cloud Mining ปลอม

  • เลือกผู้ให้บริการที่โปร่งใส จัดการอย่างมีระบบ น่าเชื่อถือ ไม่มีข่าวเสียหายในอดีต หรือถ้ามีก็ต้องพิจารณาจากการแก้ปัญหานั้นๆว่าทำได้อย่างถูกต้องและยุติธรรมต่อลูกค้าหรือไม่
  • หมั่นนำเงินที่ได้จากการขุด Cloud Mining ออกมาเก็บในที่ที่ปลอดภัยอยู่เป็นประจำ

รีวิว Cloud mining คืออะไร สร้างรายได้จริง? ไม่หลอกลวง?

บริษัท Cloud mining ส่วนใหญ่นั้นตั้งอยู่ในฐานต่างประเทศมันจึงมีความเสี่ยงอยู่พอสมควร ซึ่งในอดีตมีบริษัท Cloud mining ที่ตั้งขึ้นหลอกๆ ที่ปิดตัวลงไป เราจึงต้องระมัดระวังกับเรื่องนี้ ดังนั้นแนะนำผู้ที่ลงทุนใน Cloud mining ไม่ควรลงเงินกับที่เดียวควรจะกระจายความเสี่ยงออกไปหลายๆแห่ง

>>>อ่านต่อ ที่นี่<<<

6.เหรียญปลอม (Fake Cryptocurrency)

เงินดิจิตอลสกุลใหม่ ICO ปรากฏตัวขึ้นมาแทบทุกๆวัน แต่ละเหรียญนั้นก็มีข้อแตกต่างและจุดประสงค์ของตัวเองในการสร้างมันขึ้นมา เหรียญเหล่านี้มักมีอะไรที่เหมือนๆกัน อย่างเช่น ใช้ Blockchain เหมือนกัน ใช้ Proof of Work สำหรับการขุดเหมือนกัน หรือถูกใช้งานเหมือนเป็นสกุลเงินได้เหมือนกัน แต่ภัยร้ายที่มักแอบแฝงเข้ามาได้คือ Cryptocurrency ปลอมที่อาจจะสร้างโดยองค์กรแชร์ลูกโซ่ที่จะล่อลวงให้คนมาเข้าร่วมกลุ่มและลงทุนในสิ่งนี้ อีกทั้งอาจจะยังมีการแบ่งลำดับขั้นให้สำหรับผู้ที่ชักชวนคนมาลงทุนเพิ่มพร้อมสิทธิประโยชน์อีกมากมาย

ถึงแม้เหรียญจอมปลอมบางเจ้าจะทำการบ้านมาดี อ้างว่าตนเองนั้นตั้งอยู่บน Blockchain อันสุดแสนจะน่าเชื่อถือก็ตาม พร้อมทั้งมี Blockexplorer ของตัวเองด้วย ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะพูดจริงตามที่ว่ามา มันอาจจะเป็นเว็บที่ทำหลอกๆให้ดูเหมือนว่ามี Block และ Transaction เกิดขึ้นเรื่อยๆก็ได้ อย่างล่าสุด เหรียญปลอมที่ชื่อ Confido ปิดเว็บหนี ทำให้ราคาเหรียญล่วงลงมาถึงจุดต่ำสุด

 

วิธีป้องกันตัวจากเหรียญปลอม

  • ศึกษาหลักการทำงานของเหรียญแต่ละเหรียญที่จะลงทุนให้เข้าใจ
  • สิ่งที่ควรเน้นคือการศึกษาว่าเหรียญนี้มีความโดดเด่นต่างจากเหรียญอื่นๆยังไง ถ้าเหรียญนี้ไม่ได้นำเสนออะไรที่ใหม่ๆ ให้โยนทิ้งได้เลย เพราะในเมื่อในตลาดมันมีอยู่แล้ว มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ของซ้ำๆเดิมๆจะมาทำรายได้หรือมีอนาคต
  • อย่าหลงเชื่อคำกล่าวอ้างว่ามีคนดัง ที่น่าเชื่อถือเป็นผู้พัฒนาและเป็นเจ้าของ หรือใช้เทคโนโลยี Blockchain เหมือนเหรียญอื่นๆ ให้ศึกษาและพิสูจน์ด้วยตัวเองก่อนว่าคนดังเหล่านี้น่าเชื่อถือจริงแน่ๆนะ และ Blockchain นี้มันย้อมแมวหรือเหล่า
  • ถ้าเข้าเว็บไซต์ Coinmarketcap.com  แล้วไม่เจอชื่อเหรียญนี้ ก็ควรจะคิดทบทวนซ้ำๆก่อนลงทุนแล้วล่ะครับว่าจะเสี่ยงกับเหรียญนี้หรือไม่ เพราะเว็บนี้คือเว็บที่รวบรวมข้อมูลอย่างละเอียดถี่ถ้วนทั้ง Market Cap และ Daily Trade Volume ของแต่ละเหรียญ ถ้ามาอยู่ในเว็บนี้แล้ว แปลว่าต้องมีความน่าเชื่อถือในระดับหนึ่ง



เว็บ BadBitcoin.org เป็นที่รวมเว็บไซต์หรือเหรียญที่หลอกลวงชาวบ้านไว้โดยเป็นฝีมือของผู้ใช้งานทั่วไปในวงการ Cryptocurrency ที่ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ถ้ามีชื่ออยู่ในเว็บนี้ก็ให้ระวังตัวไว้ให้มากยิ่งขึ้น

 

ทุกวันนี้เทคโนโลยีก้าวไปไกลมากขึ้น เมื่อมีทั้งการเกิดขึ้นมาของ Bitcoin, Blockchain หรือ Cryptocurrency ตัวอื่นๆมากมาย ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ก็ทำเงินได้อย่างมหาศาล ทำให้เป็นสิ่งที่ดึงดูดคนที่ชอบฉวยโอกาสจากความไม่รู้ ความประมาท และความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของคน เพื่อหาประโยชน์เข้าตัวเอง หลังจากอ่านบทความนี้จบ ผู้เขียนเชื่อว่าผู้อ่าน จะสามารถตื่นตัวในการระมัดระวังแชร์ลูกโซ่และการหลอกลวงที่ใช้การลงทุนบิทคอยน์ หรือ Cryptocurrency มาบังหน้าได้มากขึ้น เพื่อลดโอกาสการโดนหลอกและทำให้สังคมของ Cryptocurrency เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้และสังคมแห่งความเป็นไปได้ของเทคโนโลยีแห่งอนาคตนี้ สืบต่อไป



Credit: https://australianfintech.com.au , https://siamblockchain.com

 

Top 100 เหรียญดิจิตอล กับคำอธิบายแบบสั้นๆ

เหรียญดิจิตอลบิทคอยน์ ไม่ใช่แค่ผู้นำเทรนด์ของตลาดเหรียญดิจิตอลเท่านั้น มันยังเป็นมาตรฐานให้กับเหรียญดิจิตอลที่มีรูปแบบ Peer to Peer เงินดิจิตอลตัวอื่นๆอีกมากมายที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก บิทคอยน์ ซึ่งแต่ละอย่างก็ได้พัฒนารูปแบบของตัวเองจาก บิทคอยน์ เหรียญดิจิตอลบางเหรียญก็ขุดง่ายกว่า บิทคอยน์ บางเหรียญก็มีลูกเล่นอื่นๆ ที่น่าสนใจ ซื้อขายง่ายกว่า รวมถึงอาจจะมีความเสี่ยงที่มากกว่า ดังนั้น ก่อนที่จะลงทุนซื้อเหรียญดิจิตอลตัวใด ต้องศึกษาให้ดีก่อน

เหรียญดิจิตอล มีมากมายให้เลือกมากกว่า 1320 สกุล และมีตลาดซื้อขายเหรียญดิจิตอลทั่วโลกมากกว่า 6881 เว็บเทรด  ปริมาณการซื้อขายบิทคอยน์ และเหรียญ Alcoin เพิ่มสูงขึ้นมากทุกวัน (ดูได้จาก Coinmarkapcap.com)

 

วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จัก Top 100 เหรียญดิจิตอล กับการอธิบายแต่ละเหรียญอย่างย่อๆ กัน

10 เว็บเทรด Bitcoin ที่มีการซื้อขายสูง ที่อาจทำให้คุณรวย!!

สำหรับมือใหม่หลายคน ไม่รู้จะเลือกเทรดบิทคอยน์ที่ไหนดี?? การเลือกเว็บเทรดบิทคอยน์ที่ดีนั้น จะมีผลต่อการเทรดของคุณอย่างมาก มันอาจจะเป็นตัวชี้วัดในการทำกำไรในอนาคตของคุณเลยก็ว่าได้ มีเว็บเทรดจำนวนมากก็จริง แต่เว็บเทรดที่น่าเชื่อถือ และมีปริมาณการซื้อขายสูงมีอยู่ไม่กี่เจ้า

>>>อ่านต่อ ที่นี่<<<

ชื่อเหรียญ

ตัวย่อ

คำอธิบายอย่างย่อ

Bitcoin

BTC

Digital gold                            

Ethereum ETH

Programmable contracts and money

Bitcoin Cash   

BCH

Bitcoin clone                           

Ripple

XRP

Enterprise payment settlement network   

Litecoin

LTC

Faster Bitcoin                          

Dash

DASH

Privacy-focused Bitcoin clone    

NEM

XEM

Batteries-included digital assets       

Monero

XMR

Private digital cash                    

BitConnect 

BCC

Madoff-like investment fund

NEO 

NEO

Chinese-market Ethereum                 

IOTA

MIOTA

Internet-of-things payments             

Ethereum Classic

ETC

Ethereum clone                          

OmiseGO 

OMG

Banking, remittance, and exchange       

Qtum

QTUM

Ethereum contracts on Bitcoin           

Zcash

ZEC

Private digital cash                     

Lisk  

LSK

Decentralized applications in JavaScript

Tether

USDT

Price = 1 USD                           

Cardano 

ADA

Layered currency and contracts          

EOS  

EOS

Decentralized applications on WebAssembly

Stellar Lumens 

XLM

Digital IOUs                            

Hshare

HSR

Blockchain switchboard                  

Waves 

WAVES

Decentralized exchange and crowdfunding 

Stratis 

STRAT

Decentralized applications in C#        

Ark  

ARK 

Blockchain switchboard                  

Komodo 

KMD

Decentralized ICOs                      

Electroneum

ETN

Monero clone                            

Bytecoin 

BCN

Privacy-focused cryptocurrency          

Steem 

STEEM

Reddit with money voting

Ardor 

ARDR

Blockchain for spawning blockchains     

Binance Coin   

BNB

Pay Binance exchange fees               

Augur

REP 

Decentralized prediction market         

Populous

PPT  

Invoice trading futures                 

Decred

DCR

Bitcoin with alternative governance     

TenX

PAY  

Cryptocurrency credit card              

MaidSafeCoin

MAID

Rent disk space                         

BitcoinDark

BTCD

Zcoin close                             

BitShares

BTS  

Decentralized exchange                  

Golem

GNT

Rent other people’s computers           

PIVX  

PIVX  

Inflationary Dash clone                 

Gas 

GAS  

Pay fees on Neo                         

TRON

TRX  

In-app-purchases                        

Vertcoin   

VTC

Bitcoin clone                           

MonaCoin   

MONA

Japanese Dogecoin                       

Factom

FCT 

Decentralized record keeping

Basic Attention

BAT

Decentralized ad network                 

Dogecoin 

DOGE

Serious meme bitcoin clone              

Kyber Network  

KNC

Decentralized exchange                  

SALT    

SALT    

Cryptocurrency-backed loans             

DigixDAO   

DGD

Organization manages tokenized gold     

Walton  

WTC  

IoT Blockchain                          

Veritaseum 

VERI

Vaporware                               

Byteball Bytes 

GBYTE

Decentralized database and currency     

SingularDTV

SNGLS

Decentralized Netflix                   

Bytom

BTM

Physical assets as tokens               

GameCredits 

GAME

Video game currency                     

Metaverse ETP  

ETP

Chinese Ethereum plus identity          

GXShares

GXS

Decentralized Chinese Equifax           

Syscoin 

SYS  

Decentralized marketplace               

Status

SNT

Decentralized application browser       

Siacoin

SC   

Rent disk space                         

0x

ZRX

Decentralized exchange                  

Verge  

XVG

Privacy Dogecoin                        

Civic

CVC 

Identity and Authentication App 

Lykke

LKK  

Digital asset exchange                  

Aeternity

AE

Decentralized apps (prototype)          

Blocknet 

BLOCK

Decentralized exchange                  

Iconomi 

ICN  

Digital asset investment funds          

Metal  

MTL

Payments with rewards program           

DigiByte 

DGB  

Faster Bitcoin                          

Ripio Credit   

RCN

Co-signed Cryptocurrency Loans          

Bancor

BNT

Token Index Funds                       

ATMChain 

ATM

Advertising network                     

Gnosis 

GNO

Decentralized prediction market         

Pura   

PURA 

Cryptocurrency      

VeChain

VEN 

Supply chain item IDs                   

Particl

PART

Privacy marketplace and chat            

Bitquence  

BQX 

Mint for cryptocurrency investments     

KuCoin Shares  

KCS  

Profit-sharing exchange fees            

FunFair

FUN

Decentralized casino                    

ChainLink

LINK 

External data for contracts             

Nxt   

NXT

Cryptocurrency and marketplace          

Power Ledger   

POWR

Airbnb for electricity                  

Monaco

MCO

Cryptocurrency credit card              

Cryptonex

CNX

Zerocoin clone                          

MCAP 

MCAP

Mining investment fund                  

Storj

STORJ

Rent disk space                         

ZenCash

ZEN

Privacy-focused Bitcoin clone           

Nexus

NXS 

Bitcoin clone                           

Neblio 

NEBL 

Decentralized application platform      

Zeusshield

ZSC

Decentralized insurance                 

Streamr DATAcoin

DATA

Real-time data marketplace              

B3Coin

B3

Proof of Stake Coin

ZCoin 

XZC

Private digital cash                    

AdEx

ADX

Advertising exchange                    

NAV Coin       

NAV

Bitcoin with private transactions       

Open Trading   

OTN

Decentralized exchange                  

SmartCash 

SMART

Zcoin clone with rewards                

Bitdeal

BDL

Bitcoin clone                           

FairCoin    

FAIR 

Bitcoin that rewards savers

Edgeless

EDG  

Decentralized casino                    

Loopring   

LRC  

Decentralized exchange  



Credit: bitcoinnewbies.com, techcrunch.com 

10 เรื่องราวของ “บิทคอยน์” ที่หลายคนอาจไม่รู้

ในช่วงนี้ กระแสของบิทคอยน์ กำลังมาแรงและเป็นที่กล่าวถึงกันในหลายวงการด้วยกันไม่ว่า จะเป็นวงการทางเศรษฐกิจ การเงิน การธนาคาร รวมทั้งการลงทุน ซึ่งต่างก็ให้ความสนใจใน บิทคอยน์ แต่ก็ยังไม่ทราบถึงข้อเท็จจริง ตลอดจนเรื่องราวต่างๆ ของบิทคอยน์ ดีนัก

ดังนั้นในวันนี้ เราจึงขอนำเสนอ เรื่องราวข้อเท็จจริงของ เงินดิจิตอลที่เรียกว่า “บิทคอยน์” กัน

 

เรื่องจริงข้อที่ 1: ผู้ให้กำเนิดบิทคอยน์

ผู้ให้กำเนิดบิทคอยน์

Satoshi Nakamoto คือ ชื่อบุคคล (หรืออาจเป็นของกลุ่มคน) ผู้ที่ก่อตั้งบิทคอยน์เป็นคนแรกของโลก ในปี 2009 เชื่อกันว่า Nakamoto อาจจะมีบิทคอยน์อยู่ประมาณ 1 ล้านบิทคอยน์ หรือมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท แต่อย่างไรก็ตามนั้น ไม่มีใครรู้ว่า ตัวตนที่แท้จริงของ Satoshi Nakamoto นั้นเป็นใครกัน บางทีอาจจะเป็นแค่ชื่อสมมติก็อาจเป็นได้ มีทฤษฎีอื่นอีกว่าบริษัทอิเลคทรอนิคส์ คือ โตชิบา ซัมซุง นากามิชิ และโมโตโลร่า คือ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังของการสร้างบิทคอยน์ (หรืออาจจะเป็นแค่เรื่องโจ๊ก พูดเล่นกันเท่านั้น ) ถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถยืนยันได้แน่นอน จนกลายมาเป็นปริศนาถึงวันนี้

 

เรื่องจริงข้อที่ 2: WikiLeaks

-บริษัท WikiLeaks ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2006 ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่เอาข่าวฉ้อฉลภายในของรัฐบาลอเมริกา ออกมาตีแผ่ผ่านเว็บไซต์ พวกเขาหาเลี้ยงชีพด้วยการรับเงินบริจาคเท่านั้น  WikiLeaks นั้นพึ่งพาบิทคอยน์เป็นอย่างมากในการดำเนินงาน โดยมีการรับบริจาคเงินผ่านบิทคอยน์ เนื่องจากสถาบันการเงินที่อื่นๆ ปฏิเสธที่จะร่วมทำธุรกรรมกับ WikiLeaks

ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ผู้ก่อตั้ง WikiLeaks  ได้ขอบคุณรัฐบาลอเมริกาที่มาบล็อกบัญชีธนาคารของพวกเขา รวมถึงโพสภาพกราฟของราคา Bitcoin ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2010 และ 14 ตุลาคม 2017 โดยทางผู้ก่อตั้ง WikiLeaks กล่าวว่าทางพวกเขาได้หันมาพึ่งพิง Cryptocurrency หลังจากที่ถูกรัฐบาลเล่นไม่ซื่อกับพวกเขา ทำให้พวกเขามีกำไรไปประมาณ 50,000%

 

เรื่องจริงข้อที่ 3: การแบนการใช้บิทคอยน์

– เดือน ก.ค. ปี 2013 ประเทศไทย เป็นประเทศแรกในโลกที่มีการสั่งแบนและสั่งห้ามการใช้เงินบิทคอยน์ แต่หลังจากนั้นก็ได้มีการอนุญาตให้มีการใช้กันได้ในเวลาต่อมา

– รัฐบาลจีนสั่งห้ามธนาคารทำการค้าขายหรือแลกเปลี่ยนบิทคอยน์ ในปี 2013 แต่ยังอนุญาตให้เอกชนนั้นทำธุรกิจเกี่ยวกับบิทคอยน์ได้
– กระทรวงการคลังของอเมริกาสั่งปิดบริษัทที่ผลิตเครื่องมือที่เกี่ยวกับเงินบิทคอยน์ไปจำนวนหนึ่ง

เรื่องจริงข้อที่ 4: เงินบิทคอยน์ และ Silk Road 


– ในเว็บไซต์ของขาย Silk Road ใช้เงินบิทคอยน์เป็นตัวกลางในการซื้อขายสินค้าที่ผิดกฎหมายต่างๆ  เช่น ยาเสพติด และสารตั้งต้นชนิดต่างๆ ดังนั้นเมื่อเจ้าของเว็บไซต์ Silk Road ได้ถูกจับกุมและยึดทรัพย์ จึงเชื่อได้ว่า ยังมีเงินบิทคอยน์อีกมากกว่าครึ่งถูกซ่อนไว้

 

เรื่องจริงข้อที่ 5: มูลค่ารวมของบิทคอยน์

– เดือน พ.ย. ปี 2011 บิทคอยน์ มีมูลค่าประมาณ 60 บาท แต่หลังจากนั้น 2 ปี คือ ปี 2013 บิทคอยน์ มีมูลค่าเพิ่มขึ้นคือ มากกว่า 30,000 บาท ปัจจุบัน ปี 2017  1 บิทคอยน์ ราคา พุ่งสูงสุดที่ 255,000 บาท

– ในช่วงนี้ บิทคอยน์มีมูลค่ามากกว่าทองคำ หลายเท่า

– ตู้เอทีเอ็มที่สามารถถอนเงินได้จริงจากบิทคอยน์เครื่องแรกของโลก ตั้งอยู่ที่เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา

 

 

เรื่องจริงข้อที่ 6: เงินบิทคอยน์มีจำนวนจำกัด


– เงินบิทคอยน์มีจำนวนจำกัด 21 ล้านบิทคอยน์

– จำนวนบิทคอยน์ที่ขุดได้จะลดลงครึ่งหนึ่ง ทุก 4 ปี และ ค่าความยากในการขุด (Difficulties) เพิ่มมากขึ้นด้วย

– ในปี 2140 คาดว่า จะไม่สามารถขุดบิทคอยน์ได้อีกต่อไป แต่จะยังได้รับการค่าธรรมเนียมจากธุรกรรมของบิทคอยน์ที่มีอยู่ต่อไป

– ทุกวันนี้ประมาณ 64% ของบิทคอยน์ที่อยู่ในระบบนั้นไม่ได้ถูกนำมาใช้

 

เรื่องจริงข้อที่ 7: ข้อมูลของบิทคอยน์

– เป็นเงินดิจิตอล ผู้ถือเงินไม่มีโอกาสได้สัมผัสรูปร่างหน้าตาว่า บิทคอยน์ เป็นยังไง นอกจากเป็นกระแสของอิเล็กทรอนิคส์ ในคอมพิวเตอร์และเครื่องมืออิเลคทรอนิคส์เท่านั้น
– ยังไม่มีสถาบันทางการเงินใดๆ เข้ามาควบคุมได้ ดังนั้นมูลค่าของบิทคอยน์จึงขึ้นอยู่กับปริมาณดีมานด์และซัพพลายล้วนๆ

 

เรื่องจริงข้อที่ 8: ซื้อสินค้าด้วยบิทคอยน์


– Virgin Galactic ของเซอร์ริชาร์ด แบรนด์สัน รับเงินบิทคอยน์ ในการจองเที่ยวบินไปยังอวกาศ ที่กำลังจะมาถึงในอนาคตนี้
– รถยนต์ยี่ห้อแลมโบกินี่ เป็นยี่ห้อแรก ที่รับเงินบิทคอยน์

 

เรื่องจริงข้อที่ 9: ปริมาณของบิทคอยน์


– เงินบิทคอยน์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันนั้น ได้มาจากกระบวนการขุดบิทคอยน์ โดยผ่านการประมวลผลของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ขึ้น
– พลังของการประมวลผลคอมพิวเตอร์ที่ขุดบิทคอยน์ทั้งหมดรวมกันมีมากกว่า ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์รวมกัน 500 เครื่อง

 

เรื่องจริงข้อที่ 10: เงินบิทคอยน์และการล้มลาย


– ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2014 Mt Gox โบรกเกอร์ชื่อดังของบิทคอยน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในขณะนั้นถูกโจรกรรมข้อมูลไป และขาดทุนไปเกือบ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ จนทำให้ต้องประกาศล้มละลายลงในที่สุด
ทั้งหมดนี้คือ 10 เรื่องราวข้อเท็จจริงของบิทคอยน์ที่คุณควรจะทราบ ดังนั้น ก่อนที่คุณจะเริ่มลงทุนในสิ่งใด รวมทั้งบิทคอยน์ก็ตาม ควรคำนึงถึงประโยคนี้เป็นอันดับแรก “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน” แล้วสุดท้าย การลงทุนในบิทคอยน์ก็จะเป็นไปได้ด้วยดี




10 เว็บเทรด Bitcoin ที่มีการซื้อขายสูง ที่อาจทำให้คุณรวย!!

เว็บเทรด Bitcoin เพื่อซื้อขายแลกเปลี่ยนเหรียญผุดขึ้นมามากมายทั่วโลก สำหรับมือใหม่หลายคน ไม่รู้จะเลือกเทรดบิทคอยน์ที่ไหนดี?? การเลือกเว็บเทรดบิทคอยน์ที่ดีนั้น จะมีผลต่อการเทรดของคุณอย่างมาก มันอาจจะเป็นตัวชี้วัดในการทำกำไรในอนาคตของคุณเลยก็ว่าได้ ในโลกออนไลน์มีเว็บเทรดจำนวนมากก็จริง แต่เว็บเทรดที่น่าเชื่อถือ และมีปริมาณการซื้อขายสูงมีอยู่ไม่กี่เจ้า

>>>อ่านต่อ ที่นี่<<<




เศรษฐกิจขาลง แล้ว บิทคอยน์ ทำไมถึงอยู่ในช่วงขาขึ้น

บิทคอยน์

เศรษฐกิจขาลง แล้ว บิทคอยน์ ทำไมถึงอยู่ในช่วงขาขึ้น

พูดถึงเรื่องเศรษฐกิจในตอนนี้ ใครๆก็นึกถึงเงินมาก่อนเป็นอันดับแรก เงินเท่านั้นที่จะช่วยบันดาลทุกสิ่งทุกอย่างตรงหน้าให้เกิดขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกได้ งานนี้บอกเลยว่า สกุลเงินอย่าง Bitcoin กำลังเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ

บางคนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อเจ้าสกุลเงินบิทคอยน์นี้มาก่อน เพราะจะรู้จักกันแค่สาวกที่ชอบนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์เท่านั้น เป็นเงินสำหรับการใช้จ่ายสำหรับกลุ่มที่ซื้อขายอะไรผ่านทางคอมพิวเตอร์ หรือผ่านแอพพลิเคชั่นกันบ่อยๆ ซึ่งดูเหมือนว่ามันจะกลายเป็นแค่ของเล่นในหน้าจอเท่านั้น ไม่อาจจะที่เอาออกมาทำให้กลายเป็นจริงๆ ใช้จริงๆได้เลย

เพราะอีกปัจจัยหนึ่งก็คือ สกลุเงิน “บิทคอยน์” ที่โลดแล่นอยู่ตามหน้าจอคอมพิวเตอร์ ไม่ได้ถูกดูแลด้วยรัฐบาล ไม่ได้ถูกดูแลด้วยธนาคารกลาง หรือมีความเป็นทางการตามกฎหมายใดใดเลย แต่ใครจะรู้ถึงอนาคตได้ว่าในเวลาต่อมา เงิน “บิทคอยน์” นั้นจะมีค่าพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจที่กำลังอยู่ในช่วงขาลง

          ราคาบิทคอยน์ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2560 อยู่ที่ 7,436 ดอลล่าร์  หรือ 1 บิทคอยน์ เท่ากับ 245,000 บาท

            และเมื่อมีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นเหตุการณ์ที่โปรแกรมเมอร์ชาวอเมริกัน ได้ทดลองซื้อพิซซ่า 2 ถาด ด้วยเงินบิทคอยน์ ในตอนนั้นด้วยราคาถูกจำนวน 10,000 บิทคอยน์ แต่ปรากฏว่าในตอนนี้ มันมีมูลค่ามากกว่า 74 ล้าน ดอลล่าร์ไปแล้ว ซึ่งการซื้อขายไม่ว่าจะเป็นการซื้อตั๋ว ซื้อสินค้า ซื้ออาหาร ผ่านเว็บไซต์ ทางธุรกิจใหญ่ๆของแต่ละองค์กรที่ทำการซื้อขายในตอนนี้ ตัวอย่างเช่นร้านอาหาร เว็บไซต์สำหรับจองตั๋วในการเดินทาง หรือการซื้อขาย Microsoft หรืออาจจะเป็น App อะไรต่างๆนานาที่จำเป็นต้องใช้และมันสะดวกที่จะใช้กระเป๋าเงินดิจิตอลอย่าง Bitcoin หันมาให้การยอมรับ “บิทคอยน์” กันมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ถึงแม้ว่ามันอาจจะเป็นสกุลเงินที่ดูไม่มั่นคงมากนัก แต่ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนบางกลุ่มที่อยู่ในช่วงเศรษฐกิจขาลงได้ดีทีเดียว และกำลังสร้างความมั่นคงให้เป็นทางเลือกสำหรับผู้อื่นได้มากยิ่งขึ้น

 

มองและให้คุณค่า กับ “บิทคอยน์”

เชื่อหรือไม่ว่าในสมัยก่อนนั้น เจ้าเงินตรานี่ก็คือเหล่าใบไม้และเปลือกหอย รวมไปถึงแร่ธาตุต่างๆที่เราให้คุณค่ามันเพียงเพราะว่ามันมีคุณสมบัติที่เด่น เงินบิทคอยน์ก็เช่นเดียวกัน แม้มันอาจจะเป็นเงินดิจิตอลที่ไม่สามารถจับต้องเป็นตัวเงินได้ แต่การมองว่าบิทคอยน์เป็นเงินก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร และด้วยความที่มันคือเงินที่อยู่ในระบบดิจิตอล ผู้คนจึงมักกังวลในเรื่องของการ Hack ข้อมูลกันมาก

เพราะนั่นหมายความว่ากระเป๋าเงินแบบดิจิตอลของคุณก็อาจจะถูกขโมยออกไปได้ง่ายๆด้วย อีกทั้งความผันผวนที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ ทำให้บิทคอยน์ยังคงต้องพัฒนามากขึ้นอีกเยอะ ยังไงก็ยังคงไม่ได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็วแน่นอน ยังต้องแพ้สกุลเงินหลักๆอยู่ดี แต่ในอนาคตนั้นไม่แน่ เพราะเมื่อมันมีการพัฒนา ก็อาจจะทำให้บิทคอยน์กลายเป็นตัวเลือกที่ดีได้ไม่ยากเลย แล้วเงินดิจิตอลอย่างบิทคอยน์ จะมีการเปลี่ยนแปลง ได้รับผลกระทบมากขึ้นอันเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ลง ซึ่งผลกระทบเหล่านั้นแม้จะเป็นความพังของเศรษฐกิจ แต่เจ้าตัวบิทคอยน์ เองกลับถูกให้ค่ามากยิ่งขึ้น


ปัญหาเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อราคาบิทคอยน์ (Bitcoin)

ประเทศเวเนซุเอลา จากคำบอกกล่าวของคนกลุ่มหนึ่งที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในเวเนซุเอลาที่กำลังอยู่ในช่วงขาลงสุดๆ ดูเหมือนว่าช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่บ้านเมืองหมดหนทางไป เหมือนกำลังจะพังพินาศลงอย่างไม่เป็นท่า ผู้คนออกหาอาหารรับประทานแต่อาหารก็มีไม่เพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ต การออกจากบ้านในช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ตกดินกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อและน่ากลัว เงินเฟ้อสูงมากแบบที่ไม่น่าเกิดขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้อัตราและเปลี่ยนสกุลเงินในตอนนั้นก็คือ 1 ดอลล่าร์สหรัฐต่อ 6000 โบลิวาร์ของเวเนซุเอลาไปในทันที ดูจำนวนการแลกเปลี่ยนก็โหดอยู่พอสมควร ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับชาวเวเนซุเอลามากขึ้นเมื่อผู้คนหันมาใช้บิทคอยน์กันมากขึ้น จากผู้ใช้ที่อยู่ในหลักร้อยเท่านั้น เพียงในเวลาไม่นานที่เกิดความพังพินาศของเงินเฟ้อ ยอดผู้ใช้บิทคอยน์ ก็พุ่งสูงขึ้นในหลักแสน นั่นเป็นเพราะว่าพวกเขาก็เริ่มหมดความน่าเชื่อถือสกุลเงินของพวกเขาเสียแล้ว

ไม่ว่าภาวะเงินเฟ้อของเวเนซุเอลานี้จะเกิดขึ้นด้วยเหตุใด แต่ผลของมันกลายเป็นความพังพินาศของใครหลายคนที่กำลังใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินใดใดก็ตามที่มีอยู่ ก็แทบไม่มีค่าจนต้องถอนออกจากสกุลเงินโบลิวาร์เวเนซุเอลา และถึงแม้ว่าจะสามารถแลกเป็นเงินดอลล่าร์สหรัฐได้ แต่ก็ไม่ปลอดภัยเลยกับการที่ต้องซ่อนเอาไว้กับตัวหรือที่อยู่อาศัย เพราะใครๆต่างก็ต้องการมากขึ้น สำหรับคนที่มีความสามารถในการใช้เงินบิทคอยน์มากหน่อยก็เพียงแค่แลกเป็นเงินบิทคอยน์เพื่อสั่งซื้อของใช้มากขึ้นด้วย แต่ถ้ามีเพื่อนบ้าน มีญาติ ก็ยังสามารถฝากโอนบิทคอยน์เพื่อให้ญาติสั่งซื้อทั้งสินค้าและอาหารส่งมาให้ได้ แต่ก็คงไม่ใช่ทั้งหมด เพราะสำหรับคนที่ไม่มีความรู้ความสามารถทางดิจิตอลมากนัก ก็คงต้องทนทุกข์อยู่ไม่น้อยเมื่อพบเจอกับภาวะลุกเป็นไฟขนาดนี้

เหตุการณ์ต่างๆเหล่านี้ ระหว่างที่รอรัฐกำลังแก้ไขปัญหา พวกเขาประชาชนคนธรรมดาก็ยังต้องดิ้นรนให้ตัวเองพ้นจากไฟที่กำลังสุมเวเนซุเอลาอยู่ บิทคอยน์ ก็เลยเป็นตัวดึงดูดให้คนหันเข้ามาให้ความสนใจและใช้กันมากขึ้น ในขณะที่บิทคอยน์ชนะสกุลเงินหลักของประเทศ การจับจ่ายใช้สอยก็ยากขึ้น การเก็บทรัพย์สินในรูปแบบที่เคยเป็นก็เปลี่ยนไป เพราะอย่างไรการเอาตัวรอดของประชาชนก็คงต้องแลกเงินที่มีอยู่ให้เป็นบิทคอยน์เสียยังดีกว่าเก็บแผ่นกระดาษที่ไม่มีค่าเอาไว้ในมือ มันทำให้บิทคอยน์ เป็นเหมือนฮีโร่ของเวเนซุเอลาไปแล้วในขณะนั้น และภายในอนาคต เราไม่อาจรู้ได้ว่าสกุลเงินอย่างบิทคอยน์ นั้นจะสามารถขึ้นมาเป็นสกุลเงินที่มีผู้ใช้มากที่สุดในเวเนซุเอลาหรือไม่ แต่ในตอนนั้นก็คงได้รับการยอมรับมากยิ่งขึ้น และอาจจะนำหน้าสกุลเงินปกติของเวเนซุเอลาได้ด้วย

ประเทศซิมบับเว  วิกฤตของประเทศซิมบับเวที่กำลังพบเจออยู่ในขณะนี้ก็ไม่น้อยเลยทีเดียว เมื่อประเทศนั้นขาดอาหาร ขาดน้ำมัน ขาดยารักษาโรค ซึ่งมันก็คือปัจจัยหลักในการดำเนินชีวิต การสะสมเงินอาจจะไม่ใช่ทางออกสำหรับพวกเขาแล้วในประเทศซิมบับเว เพราะเงินสกุลหลักก็สูญเสียค่าของตัวเองไปแล้ว ใครๆต่างก็เริ่มหันมาสะสมข้าวของ อาหาร กักตุนน้ำมันกันมากยิ่งขึ้น และเจ้าทรัพย์สินดิจิตอลอย่าง บิทคอยน์ (Bitcoin) ก็กลายเป็นของสะสมหนึ่งของชาวซิมบับเวในช่วงที่ขาดอาหารขาดสินค้าแบบนี้ เพราะอย่างไรมันก็มีประโยชน์ในการสั่งซื้อสินค้าอย่างอาหารและสินค้าที่มีความจำเป็นอื่นๆมากักตุนไว้ได้

ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ของซิมบับเวก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงข้อดีของบิทคอยน์ ซึ่งนั่นก็คือมันเป็นเงินที่ไม่สามารถย่อยสลายไปตามกาลเวลาได้ ไม่เหมือนเงินที่อยู่ในรูปของธนบัตร ที่สามารถเสื่อมสภาพและย่อยสลายได้ไปตามกาลเวลา เมื่อเงินมาอยู่ในรูปของบิทคอยน์แล้ว การซื้อขายหรือว่าทำธุรกรรมใดใดก็จะง่ายแสนง่ายมากขึ้น อีกทั้งผู้ให้บริการอย่าง Bitmari นั้นก็เป็นบริการที่เข้าถึงได้ง่ายสำหรับคนใช้บิทคอยน์ แถมยังมีค่าบริการที่ถูกมากอีกด้วย คุณสมบัติทั้งความถูกของค่าบริการและความรวดเร็วของ Bitcoin ทำให้มันพัฒนาและเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วย คราวนี้ก็จะมีคนหันมาใช้งานกันมากขึ้นอย่างแน่นอน

ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศซิมบับเวยังคงต้องใช้ระยะเวลานานในการแก้ไขปัญหา และในช่วงระหว่างการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลนี้ ประชาชนที่กำลังประสบปัญหาด้วยตัวเองก็ยังต้องดิ้นรนด้วยตัวเองกันต่อไป ซึ่งบางวิธีนั้นก็อาจจะช่วยแก้ปัญหาไปได้บ้าง อย่างเช่นการแลกเงินเป็นสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐเพื่อให้สามารถใช้ได้จริง การซื้อพันธบัตรของรัฐบาลที่จำเป็นจะต้องซื้อเพื่อความอยู่รอด แต่ดูเหมือนว่าประชาชนที่กำลังประสบปัญหาส่วนหนึ่งนั้นก็หันมาใช้ บิทคอยน์ (Bitcoin) กันมากยิ่งขึ้นด้วย เพราะเมื่อดูจากปัญหาเศรษฐกิจแล้ว “บิทคอยน์” ก็เป็นทางเลือกที่ดีมากเช่นเดียวกันในภาวะที่เศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาลงสุดๆแบบนี้

5 เว็บไซต์ซื้อขาย Bitcoin ในไทย มือใหม่ห้ามพลาด!

ถูกถามกันมาเยอะมาก ว่า ซื้อบิทคอยน์ ได้ที่ไหน และเว็บไหนน่าเชื่อถือ ? วันนี้เราจะพาคุณ ไปรีวิวกับ 5 เว็บไซต์ซื้อขาย Bitcoin ในไทย ที่คุณเป็นสมาชิกได้เลย ทันที ฟรีค่ะ!! ถ้าคุณกำลังมองหาแหล่งซื้อขายเงินบิทคอยน์ วันนี้เรามีบทความที่จะพาคุณไปทำความรู้จัก กับ 5 เว็บไซต์ซื้อขาย Bitcoin ในไทย ที่คุณเป็นสมาชิกได้ทันทีค่ะ!

>>>อ่านต่อ ที่นี่<<<




10 เว็บเทรด Bitcoin ที่มีการซื้อขายสูง ที่อาจทำให้คุณรวย!!

ปัจจุบันมี เว็บเทรด Bitcoin  เพื่อซื้อขายแลกเปลี่ยนเหรียญผุดขึ้นมามากมายทั่วโลก สำหรับมือใหม่หลายคน ไม่รู้จะเลือกเทรดบิทคอยน์ที่ไหนดี?? การเลือกเว็บเทรดบิทคอยน์ที่ดีนั้น จะมีผลต่อการเทรดของคุณอย่างมาก มันอาจจะเป็นตัวชี้วัดในการทำกำไรในอนาคตของคุณเลยก็ว่าได้  ในโลกออนไลน์มีเว็บเทรดจำนวนมากก็จริง แต่เว็บเทรดที่น่าเชื่อถือ และมีปริมาณการซื้อขายสูงมีอยู่ไม่กี่เจ้า (เราสามารถเช็คปริมาณการซื้อขายต่อวันได้ที่ Coinmarketcap.com)

 

ดังนั้น  ผู้เขียนอยาก จะขอนำเสนอ 10 เว็บเทรด Bitcoin ที่มีการซื้อขายสูง ที่อาจทำให้คุณสามารถทำกำไรได้!! เว็บเทรดบิทคอยน์เหล่านี้ คุณสามารถเลือกนำมาเป็นต้นแบบ เพื่อฝึกเทรดจากที่นี่ก่อน แล้วค่อยต่อยอดไปใช้บริการเว็บเทรดเจ้าอื่นๆได้

 

3 เว็บเทรด Bitcoin ต่างประเทศ ที่น่าเชื่อถือ และมีการซื้อขายสูงสุดปี 2020

ใครที่อยากลองเทรดในตลาดต่างประเทศ เพื่อกระจายความเสี่ยง เรามาดูกันว่า 3 เว็บเทรด Bitcoin ต่างประเทศ ที่น่าเชื่อถือ และมีปริมาณการซื้อขายสูงสุดในปี 2020 มีเจ้าไหนบ้าง

อ่านต่อได้ที่นี่

 

1. Bitfinex.com

เป็นเว็บกระดานเทรดเหรียญดิจิตอล  ที่ใหญ่ที่สุด สัญชาติไต้หวัน ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2012 เว็บนี้ยังมีเหรียญดิจิตอลอื่นๆให้เทรดจำนวนมากกว่า 64 คู่ อนุญาติให้เทรดแบบ margin ด้วย ปริมาณการซื้อขายต่อวันอยู่ที่ $1,765,985,568 นับว่าเป็นจำนวนที่สูงมาก ค่าธรรมเนียมในการซื้อขายเหรียญดิจิตอล อยู่ที่ 0.20 เปอร์เซ็นต์  เหรียญที่ได้รับความนิยมที่เว็บนี้ได้แก่  IOTA , BTC , ETH

 

2. Bittrex.com

เป็นเว็บกระดานเทรดเหรียญดิจิตอล  ที่มีความน่าเชื่อถือและปลอดภัย สัญชาติอเมริกัน  มีเหรียญดิจิตอลอื่นๆให้เทรดจำนวนมากกว่า 268 คู่ ปริมาณการซื้อขายต่อวันอยู่ที่ $840,352,881 เป็นอีกหนึ่งเว็บที่คนไทย มาซื้อ ขายแลกเปลี่ยนเหรียญดิจิตอล ทำกำไร กันที่เว็บนี้ ค่าธรรมเนียมในการซื้อขายเหรียญดิจิตอล อยู่ที่ 0.25 เปอร์เซ็นต์

 

3. Poloniex.com

เป็นเว็บกระดานเทรดเหรียญดิจิตอล  สัญชาติอเมริกัน  เคยเป็นเว็บเทรดที่มีการซื้อขายจำนวนมาก แต่มีปัญหาด้านเทคนิคและการบริการลูกค้าทำให้ ลูกค้าหลายรายหันไปเทรดที่อื่น มีเหรียญดิจิตอลอื่นๆให้เทรดจำนวนมากกว่า 102 คู่ ปริมาณการซื้อขายต่อวันอยู่ที่ $648,763,251 เป็นอีกหนึ่งเว็บที่คนไทย มาซื้อ ขายแลกเปลี่ยนที่นี้ ค่าธรรมเนียมในการซื้อขายเหรียญดิจิตอล อยู่ที่ 0.25 เปอร์เซ็นต์

 

4. Hitbtc.com

เป็นกระดานเทรดเจ้าใหญ่ของยุโรป ปัจจุบันมี Market Cap อยู่ที่ $401,226,170 มีเหรียญดิจิตอลอื่นๆให้เทรดจำนวนมากกว่า 300 คู่ ได้รับการร้องเรียนจากนักเทรดหลายราย เรื่อง ราคาและVolume บางเหรียญมีราคาสูงผิดปกติเมื่อเทียบกับเว็บเทรดที่อื่นๆๆ ดังนั้นนักเทรดต้องสังเกตและระวังไว้ด้วย ค่าธรรมเนียมในการซื้อขายเหรียญดิจิตอล อยู่ที่ 0.10 เปอร์เซ็นต์

 

5. GDAX.com

เป็นเว็บกระดานเทรดเหรียญดิจิตอล  สัญชาติอเมริกัน สำนักงานใหญ่อยู่ที่ ซานฟรานซิสโก เป็นเว็บในเครือของ Coinbase ซึ่งเป็นผู้ให้บริการซื้อขายบิทคอยน์และเหรียญดิจิตอล ที่มีความน่าเชื่อถือในอเมริกา  มีเหรียญดิจิตอลหลักให้ซื้อขายพียง Bitcoin, Litecoin, Etheruim   แต่ปริมาณการซื้อขายต่อวันจำนวนมากอยู่ที่ $376,763,600  ค่าธรรมเนียมในการซื้อขายเหรียญดิจิตอล อยู่ที่ 0.25 เปอร์เซ็นต์ แต่เว็บนี้ยังไม่อนุญาติให้นักเทรดต่างชาติ เทรดที่นี่

 

6. Binance.com

เป็นเว็บกระดานเทรดเหรียญดิจิตอล  สัญชาติ ฮ่องกง มีเหรียญดิจิตอลอื่นๆในกระแสให้เทรดจำนวนมากกว่า 130 คู่ ที่มีเหรียญชื่อดังที่อยู่ในกระแสมากมาย เพิ่มเข้ามาตลอด ได้แก่ IOTA, Power Ledger, HshareOmise Go, Kyber network และอื่นๆ ปริมาณการซื้อขายต่อวันอยู่ที่ $278,822,343 เป็นเว็บที่มีการตลาดที่ดี จูงใจนักเทรด เช่น ร่วม Vote เหรียญ,แจกเหรียญฟรี หรือ ให้รางวัลในการเทรดเหรียญ และผู้ถือเหรียญ NEO สามารถ นำมาฝากไว้ที่นี่ เพื่อจะได้ปันผลเป็นเหรียญ Gas ค่าธรรมเนียมในการซื้อขายเหรียญดิจิตอล อยู่ที่ 0.10 เปอร์เซ็นต์ 

Note: นักเทรดไทยหลายคนนำเหรียญ OMG และ เหรียญ Zcoin (เหรียญดังในไทย) มาเทรดทำกำไรที่เว็บเทรดนี้ รวมถึง Binance มีการจัดแข่งขันเทรดเหรียญเพื่อชิงรถและเหรียญฟรี ตลอดทั้งเดือนอีกด้วย ลองเข้าไปดูรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Binance.com

>>>รีวิว Binance (BNB) เว็บเทรด bitcoin ดาวรุ่ง มุ่งสู่ Top 5<<<

 

7. CEX.IO

เป็นเว็บซื้อขายเหรียญดิจิตอล  สัญชาติอังกฤษ  ที่มีความน่าเชื่อถือ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2013  มีเหรียญดิจิตอลอื่นๆให้เทรดจำนวน 15 คู่ ปริมาณการซื้อขายต่อวันอยู่ที่ $45,186,810 ค่าธรรมเนียมในการซื้อขายเหรียญดิจิตอล อยู่ที่ 0.20 เปอร์เซ็นต์

 

8. Yobit.net

เป็นเว็บเทรดเหรียญดิจิตอล สัญชาติรัฐเซีย ที่รองรับ 3 ภาษาคือ อังกฤษ รัซเซีย และจีน ก่อตั้งในปี 2015 มีลูกเล่นในเว็บมากมาย มีเหรียญแจกฟรี และมีให้ร่วมเล่นเกมส์เพื่อรับเหรียญ มีเหรียญดิจิตอลอื่นๆให้เทรดจำนวนมากกว่า 600 คู่ ปริมาณการซื้อขายต่อวันอยู่ที่ $29,234,118  ค่าธรรมเนียมในการซื้อขายเหรียญดิจิตอล อยู่ที่ 0.20 เปอร์เซ็นต์

 

9. BX.in.th

เว็บไซต์นี้เป็น เว็บ ชื้อขาย บิทคอยน์ และเหรียญดิจิตอล อันดับ 1 ของไทย  เปิดซื้อขายในรูปแบบของกระดานหุ้น มีเหรียญดิจิตอลอื่นๆให้เทรดจำนวนมากกว่า 23 คู่ ปริมาณการซื้อขายต่อวันอยู่ที่  $11,727,678 ค่าธรรมเนียมในการซื้อขายเหรียญดิจิตอล อยู่ที่ 0.25 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่มือใหม่หัดเทรดในไทยจะเริ่มต้นที่เว็บ BX นี้

>>>รีวิว และ ขั้นตอนการสมัคร BX เว็บซื้อ ขาย บิทคอยน์ แห่งแรกของไทย<<<

 

10. Kucoin.com

เป็นเว็บกระดานเทรดเหรียญดิจิตอลน้องใหม่  สัญชาติฮ่องกง ที่มีเหรียญชื่อดังที่อยู่ในกระแสมากมาย ถูกเพิ่มเข้ามาตลอด ได้แก่ NEO, Omise Go, Kyber network ,CIVIC , MTH , Red Pulse เป็นต้น ปริมาณการซื้อขายต่อวันอยู่ที่ $5,502,249 ความพิเศษของเว็บไซต์ Kucoin นี้คือ นโยบายการจ่ายปันผลให้กับผู้ที่ถือเหรียญ Kucoin บนเว็บ ซึ่งรายได้ที่นำมาจ่ายปันผลจะมาจากเงินค่าธรรมเนียม  ของการซื้อขายเหรียญทุกเหรียญในเว็บไซต์ ดังนั้นผู้ถือเหรียญจะมีรายได้แบบ Passive income ด้วย ค่าธรรมเนียมในการซื้อขายเหรียญดิจิตอล อยู่ที่ 0.10 เปอร์เซ็นต์

>>>รีวิว 2 เหรียญมีปันผล Neo และ Kucoin รายได้แบบ Passive income<<<

การที่เราจะเลือกเว็บเทรด Bitcoin ต้องดูจากหลายองค์ประกอบ เช่น

  1. เป็นเว็บเทรดที่มีมาตรฐาน และมีปริมาณการซื้อขายสูง
  2. มีความน่าเชื่อถือ และปลอดภัย
  3. การโอนหรือถอนเหรียญทำได้รวดเร็ว
  4. ความหลากหลายของบริการ และมีเหรียญให้เทรดหลายเหรียญ
  5. มีระบบ Support ทีม คอยบริการตลอด 24 ชั่วโมง
  6. ค่าธรรมเนียมไม่สูงมาก



ตารางเปรียบเทียบ 10 เว็บเทรด Bitcoin ที่มีการซื้อขายสูง เหมาะสำหรับทำกำไร หรือ ลงทุน

เว็บเทรด
บิทคอยน์
ข้อมูลเว็บไซต์
ข้อดี – ข้อเสีย
ปริมาณการ
ซื้อขาย
(Volume)
ค่า
ธรรมเนียม

    Bitfinex.com

เว็บกระดานเทรดเหรียญดิจิตอล  ที่ใหญ่ที่สุด สัญชาติไต้หวัน ข้อดี

*มีปริมาณซื้อขายสูงมากที่สุด

*มีความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือในระดับสูง

ข้อเสีย

*ไม่อนุญาติ US Citizen

$1,765,985,568

0.20%

Bittrex.com

 

เว็บกระดานเทรดเหรียญดิจิตอล ที่มีความน่าเชื่อถือ สัญชาติอเมริกัน

ข้อดี

*จดทะเบียนบริษัทในอเมริกา

*มีความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือในระดับสูง

* ไม่มีประวัติการ Hack

*มีเหรียญให้เทรดจำนวนมาก

ข้อเสีย

*ค่าธรรมเนียมสูง

$840,352,881 0.25%

Poloniex.com

กระดานเทรดเหรียญดิจิตอล เคยเป็นที่ 1  สัญชาติอเมริกัน ข้อดี

*จดทะเบียนบริษัทในอเมริกา

*มีเหรียญเก่าให้เทรดจำนวนมาก

ข้อเสีย

*Support ทำงานล่าช้า

*ไม่มีเหรียญใหม่เพิ่มในระบบมากนัก

*ค่าธรรมเนียมสูง

$648,763,251 0.25%

Hitbtc.com

เว็บกระดานเทรดเจ้าใหญ่ของยุโรป ข้อดี

*มีเหรียญให้เทรดจำนวนมาก

*ค่าธรรมเนียมถูก

ข้อเสีย

*เคยถูก Hack เมื่อปี 2016

*ข้อมูลบริษัทมีน้อย ความน่าเชื่อถือน้อย

*บางเหรียญ มีราคาและ Volume ผิดปกติ

$401,226,170 0.10%

GDAX.com

เว็บกระดานเทรดเหรียญดิจิตอล  สัญชาติอเมริกัน ข้อดี

*จดทะเบียนบริษัทในอเมริกา

*อยู่ในเครือ Coinbase น่าเชื่อถือ

ข้อเสีย

*มีเหรียญให้เทรดน้อย

*ค่าธรรมเนียมสูง

*ไม่อนุญาติ Thai Citizen

$376,763,600 0.25%

Binance.com

เว็บกระดานเทรดเหรียญดิจิตอลเจ้าใหญ่  สัญชาติ ฮ่องกง ข้อดี

*ถือ NEO ในเว็บ ได้ปันผล GAS

*รองรับภาษาจีน เกาหลี อังกฤษ

*มีเหรียญที่เป็นกระแสจำนวนมาก

*มีความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ ค่าธรรมเนียมถูก

ข้อเสีย

*ไม่อนุญาติ คนจีน เทรดที่เว็บนี้

$278,822,343 0.10%

CEX.IO

เป็นเว็บซื้อขายเหรียญดิจิตอล  สัญชาติอังกฤษ ข้อดี

*รองรับ Credit Card และโอนผ่านทางธนาคารได้

ข้อเสีย

*ดีไซน์ และ ชาร์ท ดูล้าสมัย

*มีเหรียญให้เทรดน้อย

$45,186,810 0.20%

Yobit.net

เว็บเทรดเหรียญฟังชั่นเยอะ สัญชาติรัฐเซีย ข้อดี

*มีเหรียญใหม่แจกฟรี

*Function เยอะ

*ลงทุนในเหรียญอื่นๆได้

ข้อเสีย

*มีระบบเดิมพันเหรียญ

$29,234,118 0.20%

BX.in.th

เว็บชื้อขายเหรียญแบบกระดานเทรด No. 1 ของไทย ข้อดี

*มีความน่าเชื่อถือสูง

*มีปริมาณซื้อขายสูงสุดในไทย

*ซื้อขายไม่จำกัด

ข้อเสีย

*ดีไซน์ที่ดูค่อนข้างล้าสมัย

$11,727,678

0.25%

Kucoin.com

กระดานเทรดเหรียญดิจิตอล น้องใหม่  สัญชาติฮ่องกง ข้อดี

*ถือเหรียญ Kucoin และ NEO ได้รับปันผล  จ่ายให้ทุกวัน

*มีเหรียญชื่อดังมีกระแสมากมาย

*อัตราการเติบโตสูงมาก

ข้อเสีย

* มีปริมาณการซื้อขายยังน้อย

$5,502,249

0.10%

4 เว็บเทรดบิทคอยน์ในไทย ที่ได้รับการรับรอง จาก ก.ล.ต ประจำปี 2563

วันนี้เราได้รวบรวม 4 เว็บเทรดบิทคอยน์ในไทย ที่ได้รับการรับรอง จาก ก.ล.ต โดยเว็บเทรดทั้ง 4 นี้ สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามบทเฉพาะกาลตามคำสั่งของ ก.ล.ต. หรือ ได้รับ License แล้วนั่นเอง

อ่านต่อที่นี่

3 เว็บเทรด Bitcoin ต่างประเทศ ที่น่าเชื่อถือ และมีการซื้อขายสูงสุดปี 2020

ใครที่อยากลองเทรดในตลาดต่างประเทศ เพื่อกระจายความเสี่ยง บทความนี้ เรามาดูกันว่า 3 เว็บเทรด Bitcoin ต่างประเทศ ที่น่าเชื่อถือ และมีปริมาณการซื้อขายสูงสุดในปี 2020 มีเจ้าไหนบ้าง ไปดูกัน

อ่านต่อที่นี่




 

5 เว็บเก็บ บิทคอยน์ฟรี 2017 (คนชอบของฟรีห้ามพลาด)

บิทคอยน์ฟรี 2017

เวลานี้กระแส Bitcoin กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง กลับพุ่งสูงขึ้น ทำ New high ทุกวัน ราคาล่าสุดในวันที่ 12 พ.ย 2560 พุ่งทะลุไปที่ 6400 ดอลลาร์ หรือ 222,000 บาท กระดานเทรดเหรียญคริปโตไทย BX.in.th มีความคึกคักเป็นอย่างมากจากโวลุ่มการซื้อเหรียญบิทคอยน์ ในช่วงนี้

 

เมื่อ ราคา Bitcoin พุ่งสูงขึ้นมาระดับ New high ทุกวัน จนทำให้หลายๆๆคนอ้าปากค้าง เรียกร้องให้ราคาลงมา เพื่อจะได้ตามขบวนรถด่วนให้ทัน ช่วงนี้จึงมีผู้คนจำนวนมากพยายามหา Bitcoin มาไว้ในครอบครอง ไม่ว่าจะโดยการซื้อโดยตรง, การขุดเองโดยอุปกรณ์เฉพาะ ASIC MINER  ,การเข้าทำสัญญาเช่าขุด แบบ Cloud mining แต่วิธีการเหล่านี้เราต้องลงเงินทุนพอสมควร เพื่อจะได้บิทคอยน์มา ส่วนใครที่ไม่มีงบประมาณ เราอยากจะเสนอทางเลือกนึง นั่นก็คือ เก็บบิทคอยน์ฟรี ตามเว็บไซต์แจกฟรีต่างๆ

 

วิธีหาบิทคอยท์ มีหลายสาย  ควรเลือกที่ตัวเองพร้อมและถนัด ดีที่สุด

  1. สายลงทุน ซื้อบิทคอยน์ เก็บๆ ไว้ระยะยาว รอจังหวะ Take Profit เมื่อราคาเป็นที่พอใจ
  2. สายลงทุน และ เทรด อันนี้ซื้อมาขายไป (เหมือนซื้อทอง หรือ ซื้อหุ้น)
  3. สายขุด ก็ต้องลงทุนซื้อเครื่อง มาขุดเอง หรือ จ้างคนอื่นขุดให้ (Could Mining)
  4. สายแนะนำ ก็แนะนำคน สายนี้ต้องลงแรงหน่อย
  5. สุดท้าย สายฟรี ก็คือเก็บฟรี เอาตามเว็บไซต์ที่มีแจกเหรียญฟรี

วันนี้เราจะพาไปดู สายเก็บ บิทคอยน์ฟรี ใครอยู่หน้าคอมว่างๆ สามารถลองได้เลย… มีให้เก็บหลายเว็บมาก แต่ก็ต้องระวังให้มากเช่นกัน

 

ก่อนไปเก็บ บิทคอยน์ฟรี สิ่งที่เราจะต้องรู้มีดังนี้ 

 

1. เราต้องมีกระเป๋าตังค์ เพื่อจะรับเหรียญก่อน

กระเป๋านี้เปรียบเสมือน ธนาคารออนไลน์  แต่อันนี้ไว้รับเหรียญ บิทคอยน์ หรือ เหรียญดิจิตอลอื่นๆ โดยเฉพาะ

ใครยังไม่มี.กระเป๋าบิทคอยน์. มาสร้างบัญชี  Bitcoin  ฟรีที่  2 เว็บนี้ (เป็น 2 เว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุดในไทย)

 1.1 BX.in.th เป็นเว็บไซต์ซื้อขายบิทคอยน์ อันดับ 1 ในไทย มีกระเป๋าบิทคอยน์ฟรี และมีกระเป๋า เหรียญดิจิตอลอื่นๆ อีก รวมทั้งสิ้น 21 กระเป๋า

 

1.2  TDAX เป็นเว็บไซต์ซื้อขายบิทคอยน์ ผู้ก่อตั้ง คือ คุณปรมินทร์ อินโสม ผู้สร้างเหรียญ ZCoin มีกระเป๋าบิทคอยน์ฟรี และมีกระเป๋าเหรียญอื่นๆอีกมากมาย

1.3  faucethub เป็นเว็บไซต์ กระเป๋าตัวกลาง   เว็บแจกบิทคอยน์ฟรีบางเว็บ มักส่งเงินให้นักเก็บบิทคอยน์ฟรีผ่านทางนี้ ที่เรียกว่ากระเป๋าพัก หรือกระเป๋าตัวกลาง ที่ต้องส่งผ่านกระเป๋าพวกนี้ ก็เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะเว็บนี้เก็บค่าธรรมเนียมน้อยกว่า การส่งบิทคอยน์หรือเหรียญอื่นๆไปกระเป๋าโดยตรงนั่นเอง

2.  การเก็บเหรียญบิทคอยน์ฟรีมีความเสี่ยง  เว็บไซต์ ให้เหรียญน้อย หรือ ไม่จ่ายเหรียญ

การเก็บบิทคอยน์ฟรี จากเว็บไซต์ เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการได้มาซึ่งเหรียญ bitcoin แต่ผู้เขียนเห็นว่าเป็นวิธีการที่อาจจะต้องรู้จักเลือกเสียหน่อย เพราะมีหลายเว็บที่แจกบิทคอยน์ฟรี แต่ให้จำนวนที่น้อยมาก ไม่คุ้มค่า หรือ ใครอยากลองวิธีนี้ ก็ต้องศึกษาให้ดี



3. ทำไมเว็บไซต์ใจดี แจกเหรียญฟรี มีจุดประสงค์อะไร? 

หลายคนสงสัยทำไมเว็บไซต์ใจดี แจกเหรียญฟรี มีจุดประสงค์อะไร เว็บเหล่านี้ รวยมากใช่มั้ย ถึงได้แจกเหรียญฟรี

คนที่เป็นเจ้าของเว็บจะเข้าใจดี แหล่งรายได้ของพวกเว็บเหล่านี้ แท้จริงไม่ใช่ใคร.. ก็คือพวกนักเก็บเหรียญฟรีที่กดเข้าเว็บนั่นเอง เมื่อคนเข้ามาเว็บจำนวนมาก ซึ่งนั่นก็เป็นโอกาสที่คนที่เข้าชมเว็บจะคลิกโฆษณา อันใดอันนึงโดยตั้งใจหรือบังเอิญ ยิ่งมีคนคลิกมาก เว็บก็จะมีรายได้มากจาก Google Adsense นั่นเอง

พวกเราสังเกตกันมั้ย??? ว่า  เว็บพวกนี้ส่วนใหญ่ติดโฆษณา ไว้รอบด้าน จนเราตาลาย หาปุ๋มคลิก รับเหรียญไม่เจอ ทำให้เราเผลอไปกดโฆษณามาแทน  ดังนั้นเราต้องรู้ทันบรรดาเว็บเก็บเหรียญฟรีเหล่านี้ไว้ด้วย

 

ยกตัวอย่าง เว็บไซต์ให้เหรียญฟรี ที่น่าเชื่อถือ สามารถถอนเหรียญออกมาได้ เมื่อครบจำนวนขั้นต่ำ

มีดังนี้ 

เว็บไซต์

เหรียญที่แจก แจกฟรี (Satashi) จ่ายเหรียญเมื่อครบ

ถอนผ่าน

freebitco.in เว็บแจกบิทคอยน์ฟรี

0.00000025-33 / ชม

30,000 Satoshi

BX, Tdex หรือ

Faucethub

freedoge.co.in เว็บแจกดอกคอยน์ฟรี

0.72 /ชม

200 Dogecoin

BX, Faucethub
eobot.com   

เว็บไซต์นี้ให้ขุดเหรียญฟรี และแจกเหรียญวันละครั้ง จากการเล่น Faucet

 

แจกเหรียญวันละครั้ง จากการเล่น Faucet

และสามารถขุดเหรียญอื่นๆตามกำลังขุดที่มี

0.002 BTC, 0.1 ETH/LTC/DASH/ZEC/XMR/ETC, 0.01 BCH, 10 STEEM/CURE, 20 XRP, 1 FCT/LSK, 10 BTS, 100 MAID/GRC/XEM/BCN/DOGE/GNT BX, TdexFaucethub
xbit.co.in เว็บแจกบิทคอยน์ฟรี 0.00000015/5นาที จะจ่ายเหรียญเมื่อครบกำหนดอัตโนมัต faucetsystem.com
bitlucky.io เว็บแจกบิทคอยน์ฟรี 0.00000001-20/5 นาที จะจ่ายเหรียญเมื่อครบกำหนดอัตโนมัต Faucethub

ขุดเหรียญฟรีที่ www.eobot.com

* มีเว็บไซต์แจกเหรียญฟรีจำนวนมาก แต่ผู้เขียนขอนำเสนอแค่ 5 เว็บไซต์เท่านั้น เพราะไม่อยากให้เสียเวลาเก็บฟรีมากเกินไป เว็บเหล่านี้ เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น และต้องการเก็บของฟรี ไม่ต้องลงทุนใดๆ แต่อย่างไรก็ตาม เราอาจจะได้เหรียญน้อยมาก ไม่คุ้มค่าแรง แถมบางเว็บไซต์หลอกให้คลิกโฆษณา หรือ อาจจะไม่จ่ายเหรียญเลยก็มี ดังนั้นต้องระวังให้มากด้วย

4 เว็บเทรดบิทคอยน์ในไทย ที่ได้รับการรับรอง จาก ก.ล.ต ประจำปี 2563

วันนี้เราได้รวบรวม 4 เว็บเทรดบิทคอยน์ในไทย ที่ได้รับการรับรอง จาก ก.ล.ต โดยเว็บเทรดทั้ง 4 นี้ สามารถดำเนินธุรกิจได้ตามบทเฉพาะกาลตามคำสั่งของ ก.ล.ต. หรือ ได้รับ License แล้วนั่นเอง

อ่านต่อที่นี่

3 เว็บเทรด Bitcoin ต่างประเทศ ที่น่าเชื่อถือ และมีการซื้อขายสูงสุดปี 2020

ใครที่อยากลองเทรดในตลาดต่างประเทศ เพื่อกระจายความเสี่ยง บทความนี้ เรามาดูกันว่า 3 เว็บเทรด Bitcoin ต่างประเทศ ที่น่าเชื่อถือ และมีปริมาณการซื้อขายสูงสุดในปี 2020 มีเจ้าไหนบ้าง ไปดูกัน

อ่านต่อที่นี่




7 ไอเดียสร้าง Passive Income 2017 ในวงการบิทคอยน์

Passive Incomeพวกเราคงได้ยินได้ฟัง เรื่อง การสร้าง Passive Income จากหลายสัมมนา หรือจากสื่อต่างๆกันไม่มากก็น้อย การที่เรามีรายได้แบบ Passive ถือเป็นสุดยอดของรายได้ชวนฝันที่ ทุกคนที่เป็นคนทำงานประจำ ต่างต้องการไปให้ถึง  ผู้เขียนเป็นคนนึงที่พยายามเสาะแสวงหา ลองผิดลองถูก เพื่อให้ได้มาซึ่งแหล่งรายได้ Passive ในรูปแบบต่างๆ

ผู้เขียน คิดว่าการมีรายได้แบบ Passive ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป เพียงแค่เรารู้วิธีการและลงมือทำอย่างจริงจัง (ในช่วงแรก) 

 

ดังนั้น วันนี้ ผู้เขียนขอใช้โอกาสนี้ในการแบ่งปันไอเดียและเทคนิค การหารายได้แบบ Passive ในวงการบิทคอยน์  สำหรับมือใหม่ทั้งหลาย ซึ่งมันอาจจะใช้ได้ผล หรือไม่ได้ผลก็ได้  แต่อย่างน้อย เรียนรู้วิธีไว้หน่อยก็ดีใช่ไหมละ

 

Passive income คือ อะไร?

ภาษาแบบง่ายๆของ Passive income คือ การลงมือสร้างแหล่งรายได้ สร้างเครื่องมือผลิตเงิน ที่สามารถสร้างรายได้ให้เรา ได้ด้วยตัวของมันเอง โดยที่เราอยู่เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไร แม้เราจะไม่สบาย หรือไปเที่ยวอยู่ มันก็จะไม่หยุดสร้างรายได้ให้กับเรา อย่างนี้เรียก รายได้แบบ Passive 

ขอยกตัวอย่างรายได้แบบ Passive รูปแบบที่เราเคยเห็นกัน เช่น ดอกเบี้ย, เงินปันผล , บ้านให้เช่า , ลิขสิทธิ์สินค้า 

 

Passive income มีอะไรบ้าง ในวงการบิทคอยน์  Cryptocurrency

 

1. Passive income จากการขุดบิทคอยน์

ปัจจุบันการขุดบิทคอยน์ ถือเป็นกระแสที่ทั่วโลกต่างให้ความสนใจ และนำมาซึ่งรายได้แบบ Passive ที่ง่ายและให้ผลลัพธ์ที่ดีมากๆ นักขุดสามารถทำกำไรจากการเก็บเหรียญบิทคอยน์ไว้ และขายมันเมื่อราคาสูงขึ้น (8 พ.ย 2560 1 บิทคอยน์ ราคา 243,650 บาท) ใครขุดและถือบิทคอยน์จำนวนเยอะๆ คุณคือ ผู้โชคดี แต่มีนักขุดจำนวนไม่น้อยที่ ขุดได้และขายไปทันที ทำให้สูญเสียรายได้จำนวนมหาศาล

ขุด bitcoin ยังไง ให้มีรายได้แบบ Passive income

การขุด bitcoin ยังไง ให้มีรายได้แบบ Passive income ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่ อาจจะยากต่อการเข้าใจ แต่เมื่อผู้อ่านได้ลองเปิดใจศึกษา ทดลองดู ผู้เขียนรับรองเลย ว่ามันง่ายมาก สามารถทำให้คุณมีรายได้แบบ Passive income แน่นอน!!!

>>>อ่านต่อ ได้ที่นี่<<<

 

2. Passive income จากการปันผล (Stake)

รายได้จากเงินปันผลนั้น ถือเป็นรายได้แบบ Passive ที่ดีมากเหมือนกัน เงินปันผลเกิดจากการลงทุนของเรา ไม่ว่าจะเป็นการซื้อหุ้นปันผล  ร่วมทุน รวมเป็นหุ้นส่วน ในการทำธุรกิจ หรืออื่นๆ ทั้งหลายเหล่านี้ล้วนแล้วสามารถออกดอกออกผลให้ได้เก็บกินตลอด ส่วนในวงการ Cryptocurrency ก็เช่นกันมีเหรียญดิจิตอลที่สามารถจ่ายปันผล (Stake) ที่สามารถสร้างรายได้เป็น Passive  ให้กับผู้ถือเหรียญ โดยคุณสามารถนำปันผล (Stake) ที่ได้รับไปขายในตลาดแลกเปลี่ยนต่างๆ และนำส่วนนี้ไปซื้อ หรือลงทุนในเหรียญอื่นๆได้อีก

รีวิว 2 เหรียญมีปันผล Neo และ Kucoin รายได้แบบ Passive income

แต่สำหรับใครที่คิดมองหาทางเลือกอื่นๆ นอกจากลงทุนใน บิทคอยน์ หรือกำลังมองหาเหรียญที่มีความปลอดภัย และได้ปันผลจริง แบบ Passive income เราจะพาไปทำความรู้จักกับ 2 เหรียญที่จ่ายปันผล (Stake) ที่สามารถสร้างรายได้เป็น Passive Income ให้กับผู้ถือเหรียญ เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังต้องการสร้างทรัพย์สินดิจิตอล ให้เกิดขึ้นจริง ตามไปดูกัน ว่ามีเหรียญไหนบ้าง

>>>อ่านต่อ ได้ที่นี่<<<

 

3. Passive income จากการสะสมเหรียญดิจิตอล

คุณซื้อเหรียญดิจิตอลเก็บไว้ในพอร์ตการลงทุนบ้างไหม ผู้เขียนคิดว่าคุณน่าจะมีเหรียญดิจิตอลเก็บไว้บ้าง ไม่มากก็น้อย

ผู้เขียนอยากจะแนะนำมือใหม่ว่า การที่เราถือเหรียญใดๆไว้ ควรพิจารณาหลายอย่างประกอบด้วย การที่เราแบ่งเงินลงทุน มาเพื่อกระจายความเสี่ยง และมาเพื่อถือเหรียญที่มีอนาคต ในระยะยาว ถือว่าคุ้มค่ามาก จะเห็นได้จากตัวอย่างในบทความด้านล่าง ที่ทำการทดลอง ถือเหรียญ Top 10 Best เหรียญดิจิตอล ในปีที่แล้ว โดยถ้าเราลงทุนเหรียญเหล่านี้ ตัวละ 1000 ดอลล่าร์ 1 ปี ผ่านไป เงินก้อนนี้จะมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น เป็น 240,279 ดอลล่าร์

สะสมเหรียญ Altcoin ที่น่าลงทุน ในตารางการซื้อขายเหรียญ

ในบทความนี้มีคำตอบให้คุณ เริ่มด้วยการมารู้จักกับสกุลเงินหลักเลย นั่นก็คือ Bitcoin ซึ่งเป็น CryptoCurrency หรือสกุลเงินดิจิตอลแรกของโลก และยังมีสกุลเงินอื่นที่เรียกว่า เหรียญ Altcoin หรือ Alternate Coin คือเหรียญ cryptocurrency ทุกๆเหรียญที่ไม่ใช่ Bitcoin เนื่องด้วยความที่เหรียญ Bitcoin นั้นคือต้นกำเนิดของทุกๆสิ่ง ทำให้เหรียญที่โผล่ออกมาหลังจากนั้นบนเทคโนโลยี Blockchain จึงถูกเรียกว่าเหรียญทางเลือกหมด

>>>อ่านต่อ ได้ที่นี่<<<

 

4. Passive income จากการ Copytrade

Copy Trade เป็นอีกรูปแบบนึงที่ นักเทรดฝีมือดี สามารถทำกำไร แบบ Passive ได้ พูดง่ายๆก็คือ อาชีพเทรดหุ้น แล้วมีคน Follow ตามก็สามารถรับส่วนแบ่งกำไรจากผู้ที่สมัครติดตามเราได้ด้วยนั่นเอง!!

ที่จริงแล้ว CopyTrade ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะฟินเทคของต่างประเทศอย่าง eToro เขาทำมานานแล้ว และมีคนไทยบางคนก็ไปเป็น Master ให้คนอื่นกดติดตามแล้วเช่นกัน

อธิบายรูปแบบการรับรายได้ของคนที่เป็น Master ก่อน คนพวกนี้จะมีรายได้สองสามทางคือ กำไรที่เกิดขึ้นจากการที่เขาเทรดสินค้าการลงทุนด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น หุ้น อนุพันธ์ สินค้าโภคภัณฑ์ หรือ เหรียญดิจิตอลต่างๆ แต่สินค้าที่นิยมใช้เป็น CopyTrade มากที่สุดก็คือ FOREX เนื่องจากเป็นสินค้าที่ผู้คนนิยมเทรดกันทั่วโลกและมีสภาพคล่องสูง

หาก Master คนใดที่มี Performance การเทรดที่ดี ก็จะมีคนกดติดตาม คนๆ นั้นก็จะได้ส่วนแบ่งทันที จากนั้นผู้ที่เป็น Follow ก็จะต้องยินยอมให้เจ้าของแพลตฟอร์มหรือโบรกเกอร์ (โบรกเกอร์ดังๆก็มี eToro, MT4) เทรดแทนเราให้อัตโนมัติ พูดง่ายๆ ก็คือ Master ที่เราติดตามเทรดอะไร ระบบก็จะเทรดตามด้วยทันที หากสามารถทำกำไรได้เราจะต้องหักส่วนแบ่งกำไรที่เกิดขึ้นให้กับคนเป็น Master ด้วย (แน่นอนว่าหากขาดทุนก็ต้องขาดทุนตามไปด้วย)

Copytrade คือ อะไร? มันทำเงินได้จริงเหรอ? รวยหรือหลอก?

ถือว่ายุคนี้มีข้อมูล ข่าวสาร และเครื่องมือ สามารถช่วยนักลงทุนมือใหม่ ให้สามารถลงทุนได้อย่างง่ายดายแค่ปลายนิ้ว เมื่อก่อนผู้เขียนเคยคิดว่า เราควรจะต้องสะสมเงินเย็นไว้ลงทุน ไหนจะต้องมีประสบการณ์ และต้องมีเทคนิคสารพัดจากกูรู หลายคนสงสัยว่า Copytrade คืออะไร มันจะช่วยนักลงทุนได้อย่างไร? วันนี้เรามาลองเจาะลึกลงไปเกี่ยวกับ Copytrade ให้ได้รู้กันชัดๆไปเลย

>>>อ่านต่อ ได้ที่นี่<<<

 

5. Passive income จากการ Affiliate

การสร้างรายได้แบบ Passive จากการทำ Affiliate นั้น ถือได้ว่าเป็นที่นิยมกันมาก ในแวดวงคริปโต สิ่งเดียวที่เราทำคือ การแนะนำ บอกต่อ  ให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเข้าไปใช้บริการ ผ่านจากลิ้งที่เราได้รับมา จากเจ้าของสินค้า เมื่อลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ทำการลงทะเบียน หรือทำการสั่งซื้อสินค้า เราก็จะได้รับเงินที่เป็นส่วนแบ่ง ส่วนการได้ส่วนแบ่ง มากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับราคา และสินค้าแต่ละชนิด

วิธีการนี้ง่ายมาก เพียงแค่คุณสร้างช่อง YouTube หรือ บล็อก  ทำการเผยแพร่บทความที่ดี มีประโยชน์ และมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการ ที่เราจะทำ Affiliate ต่อไปก็ทำการตลาด ให้ช่องของเรา ให้เป็นที่นิยม โดยที่คุณต้องขยันอัปข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมายบ่อยๆ หรือนำไปโปรโมทตามช่องทางแหล่งโซเซียลต่างๆ เพียงแค่นี้ก็จะมีคนเข้ามาในช่องเยอะขึ้น และผู้ชมเหล่านี้มีโอกาสที่จะซื้อหรือเลือกใช้บริการที่เรานำเสนอไป สร้างรายได้แบบ Passive ได้อย่างดีทีเดียว

 

6. Passive income จากกลุ่มสมาชิก

ถ้าเราต้องการมีรายได้แบบ Passive จากค่าสมัครของสมาชิก หรือค่าดูแลรายปี เราต้องสร้างกลุ่ม สร้างระบบ ที่มีประโยชน์ต่อสมาชิก ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายที่สุด เช่น สร้างเว็บไซต์หรือ แฟนเพจ ที่สมาชิกในกลุ่มสามารถเข้าไปใช้ โปรแกรม ต่างๆ ในการเทรดเหรียญดิจิตอล ฟรี ได้ตลอด มี RoBot ช่วยเทรด  พร้อมทั้งช่วยเลือกเหรียญที่น่าสนใจ สามารถทำกำไรได้ แต่การจะเข้าไปอ่านได้นั้น จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมรายเดือน หรือ รายปี สำหรับคนที่ไม่สมัครสมาชิก จะไม่สามารถเข้าไปใช้ โปรแกรมได้

ตัวอย่าง อาจจะมีค่าธรรมเนียมในการดูแลรักษาปีละ 1,000 บาทก็ได้ หากมีสมาชิก 1,000 คน เราจะได้เงินทุกปีแบบไม่ต้องทำอะไร อยู่ที่ปีละ 1,000,000 บาท

 

7. Passive income จากดอกเบี้ยออนไลน์ 

รายได้ Passive จากดอกเบี้ยออนไลน์  ถ้าให้พูดตามตรง คือ การปล่อยกู้ยืมเงินนั้นเอง มีรายได้เพิ่มขึ้นจากเงินต้นที่ออกดอกเบี้ยทุกๆ วัน หรือทุก เดือน อย่างต่อเนื่อง เป็นช่องทางที่หลายคนนิยมมาก เพราะเป็นวิธีการใช้เงินต่อเงินแบบง่ายๆ แต่ได้กำไรเยอะ ในแวดวงคริปโต ก็มีแหล่งให้ปล่อยเหรียญให้กู้ยืม ยกตัวอย่าง เช่น Poloniex

รายได้จากการลงทุน ดอกเบี้ยออนไลน์ ในช่องทางนี้อยากนำมาบอกเล่าเพื่อเป็นความรู้เท่านั้น แต่ผู้เขียนไม่ขอแนะนำ เพราะเป็น รายได้ Passive ที่อาจจะมีแต่ปัญหาภายหลัง และมีความเสี่ยงสูงมาก

อาจไม่ใช่ทุกคนที่สำเร็จจากการสร้างรายได้ Passive ในตลาดคริปโตนี้ แต่เมื่อมันเป็นโอกาส คุณก็น่าจะลองดูนะ! บางทีสิ่งที่คุณแสวงหามาทั้งชีวิต อาจเป็นแค่เรื่องราวที่อยู่ในบทความชิ้นนี้ก็ได้ ผู้เขียนขอให้คุณประสบความสำเร็จในการเข้ามาในตลาดคริปโตนี้ และสนุกกับอิสรภาพทางการเงิน และวิถีชีวิตที่จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงของคุณ!




10 บริษัทยักษ์ใหญ่ในอเมริกา รับชำระเงินโดยบิทคอยน์

10 บริษัทยักษ์ใหญ่ในอเมริกา  รับชำระเงินโดยบิทคอยน์

การดำเนินชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไปจากเดิมมาก เพียงแค่มี Smart Phone เครื่องเดียวก็สามารถจัดการธุรกรรม แผนการใช้ชีวิตที่ยุ่งยากในแต่ละวันให้จบในเวลาอันสั้น รวดเร็ว ดังนั้น การมาของฟินเทค หรือเทคโนโลยีด้านการเงิน ทำให้วันนี้ผู้คนใช้ชีวิตง่ายขึ้น

“เงินดิจิทัล” เป็นตัวอย่างสำคัญที่เราสัมผัสได้ และสกุลเงินดิจิทัลที่เรียกว่า “บิทคอยน์” (BitCoin) มีแนวโน้มจะกลายเป็นเงินสกุลหลักในการทำธุรกรรมทั่วโลกได้เช่นกัน

วันนี้เราจะไปดูว่า มี  10 บริษัทยักษ์ใหญ่ในอเมริกา  ที่สามารถรับชำระเงินโดยบิทคอยน์


10. Paypal

PayPal เป็นบริการธนาคารออนไลน์ , บริการชำระเงินออนไลน์ กำลังมาเป็นผู้เล่นหลักใน Digital Currency อย่างบิตคอยน์และเหรียญอื่น จากที่ผู้บริหาร PayPal หลายคนได้แสดงทัศนะไว้ต่อ Bitcoin ที่ดี และอ้าแขนต้อนรับอย่างอบอุ่น


9. Dell

เป็นบริษัทผลิตฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์จากรัฐเทกซัส อเมริกา ปัจจุบันทำธุรกิจในการพัฒนา ผลิตและประกอบคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล, เซิร์ฟเวอร์, อุปกรณ์สำรองข้อมูล เป็นผู้ผลิตคอมพิวเตอร์นับเป็นจำนวนเครื่องมากที่สุดในโลก Dell ก็ออกมายอมรับบิทคอยน์ เพื่อซื้อสินค้าในเครือ dell เอง


8. WordPress

เป็น open source web software เพื่อสร้างเว็บไซต์, blog หรือcommunity โดยมีระบบจัดการบทความ หรือ Content Management System (CMS) ทำให้ง่ายต่อการใช้งาน ซึ่ง WordPress สร้างขึ้นโดย Matt Mullenweg และ Mike Little ในปี 2003 นับว่ามีการพัฒนามาถึง 14 ปีแล้ว และในปี 2012 ได้ประกาศยอมรับบิทคอยน์ ในการทำธุรกรรมต่างๆได้


7. Dish

ผู้ให้บริการโทรทัศน์ดาวเทียม ยักษ์ใหญ่ในอเมริกา ประกาศยอมรับการชำระเงินโดยใช้บิทคอยน์ ตั้งแต่ 2014


6. Wikipedia

เป็น สารานุกรมออนไลน์ และแหล่งรวบรวมบทความมากมาย เปิดรับบริจาคโดยใช้บิทคอยน์ เช่นกัน


5. Subway

เป็นร้านอาหารอเมริกันประเภทแฟรนไชส์ มีสินค้าหลักคือ แซนวิช และสลัด ดำเนินการโดย Doctor’s Associates, Inc. (DAI) เป็นหนึ่งในแฟรนไชส์ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกด้วยร้านอาหาร 37,881 ร้านใน 98 ประเทศ Subway ก็เป็นอีกบริษัทที่ยอมรับการชำระเงินโดยบิทคอยน์


4. Ebay

เป็นตลาดกลางในการ ซื้อ-ขาย-ประมูล สินค้าต่างๆ จากทั่วโลก ปัจจุบันมีสินค้ามากกว่า 400 ล้านชิ้น มีจำนวนผู้ที่เข้าไปซื้อ-ขาย-ประมูล สินค้า มากกว่า 200 ล้านคน มียอดซื้อ-ขายสินค้ามากกว่า 140,000 ล้านบาท/ปี ถือว่าเป็นตลาดออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ซึ่ง Donahoe CEO ของ eBay ก็ยังเคยพูดว่าบิตคอยน์เป็นสิ่งที่ทรงพลังมาก อีกทั้ง eBay ก็อนุญาตให้ประกาศขายบิตคอยน์ได้ในหมวด Classified


3. Microsoft

Microsoft ยักษ์ใหญ่ของวงการคอมพิวเตอร์และไอที ก่อตั้งโดยบิลล์ เกตส์  ได้ทำการประกาศว่า ลูกค้าสามารถชำระเงินกับทางบริษัทได้โดยใช้บิทคอยน์  สามารถชำระสำหรับส่วนของ apps games และวีดีโอ รวมทั้งยังสามารถใช้งานรวมกันกับ Windows Phone รุ่นเก่าและรุ่นใหม่ที่กำลังจะออกตามมา รวมไปถึง Xbox ด้วย


2. Apple Store

App Store แหล่งรวม Application มากมายจาก Apple  เป็นช่องทางที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดได้จาก iPhone , iPod และ iPad ผ่านตัวเครื่องได้ทันที ภายใน App Store มีหมวดหมู่ Application ต่างๆไว้อย่างชัดเจน ให้เลือกดาวน์โหลดทั้งแบบฟรีและเสียค่าใช้จ่าย  รวมไปถึงหน้าแนะนำ Application ยอดนิยมต่างๆไว้อีกด้วย และก่อนดาวน์โหลดสิ่งที่ผู้ใช้งานทุกคนต้องมีคือ Apple ID ซึ่ง ตอนนี้ ทาง Apple ได้เพิ่มทางเลือกการชำระเงิน โดยใช้บิทคอยน์  ไว้ใน App Store ด้วย


1. Amazon

หากกล่าวถึง Amazon คงไม่มีใครไม่รู้จักชื่อนี้ในวงการเว็บไซต์ นั่นเพราะ amazon เป็นเจ้าพ่อยักษ์ใหญ่ในวงการตลาดสินค้าของโลกซึ่งมีสาขาอยู่มากมายหลายประเทศ ถึงแม้ตอนนี้ทาง Amazon ยังไม่ได้ออกมาประกาศยอมรับการชำระสินค้าด้วยบิทคอยน์อย่างเต็มตัว แต่นักชอปทั้งหลาย สามารถเข้าไปชื้อสินค้าทั้งหมดที่ลิสใน Amazon โดยผ่านเว็บไซต์ Purse.io ซึ่งเป็นเว็บไซต์ตัวกลางในการชำระด้วยบิทคอยน์ แถมยังได้ส่วนลด 5-30% อีกด้วย

>>> 5 เว็บไซต์ซื้อขาย Bitcoin ในไทย มือใหม่ห้ามพลาด! <<<

แท้จริง บิทคอยน์ ไม่ได้เพิ่งถูกยอมรับ แต่บิทคอยน์ เคยถูกนำไปใช้ในหลายๆ ร้านค้าเมื่อ 3-4 ปีก่อนหน้านี้ บางร้านค้าให้ส่วนลดซื้อสินค้า เมื่อชำระด้วยบิทคอยน์ด้วยซ้ำ ในอเมริกา พบว่า มีการออก บิทคอยน์ กิฟท์ การ์ด ด้วยการบรรจุเงินบิทคอยน์ลงในการ์ดเหมือนบัตรเดบิต และนำไปชำระสินค้า แน่นอนว่า ร้านค้าชื่อดังยินดีรับ ไม่ว่าจะเป็น Amazon, Target, Walmart , Nike  และร้านค้าดังทั่วอเมริกา

เว็บไซต์ ebay.com ระบุว่า วันนี้มีมากกว่า 100 บริษัท/ร้านค้า ที่ยอมรับบิทคอยน์ เช่น  1–800–FLOWERS ร้านดอกไม้ชื่อดังในอเมริกา , Expedia.com ออนไลน์ ทราเวลชื่อดัง, Home Depot  ร้านจำหน่ายเครื่องใช้สำนักงานชื่อดัง , Reddit ชอปปิงสารคดี บทความระดับพรีเมียม โดยจ่ายเป็นบิทคอยน์ได้ , Victoria’s Secret , Tesla, Overstock, shopify รวมถึงค่ายเกมออนไลน์ต่างๆ ที่คุณต้องมีบิทคอยน์ซื้อไอเทมในเกม

  และแน่นอนว่า คุณสามารถสั่งพิซซ่าร้านดังๆ ของโลก และจ่ายเป็นบิทคอยน์ได้ด้วยเช่นกัน จะเห็นว่า กลุ่ม บริการหลักๆ ที่รับบิทคอยน์ จะอยู่ในกลุ่มบริการดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม กลุ่มร้านอาหาร กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มห้างสรรพสินค้าชอปปิงออนไลน์ รวมถึงบริษัทที่จัดจำหน่ายอุปกรณ์ไอที ซอฟต์แวร์ชื่อดังของโลก ล้วนแต่เป็นบริการที่วนเวียนอยู่ในชีวิตประจำวันทั้งสิ้น

5 เว็บไซต์ซื้อขาย Bitcoin ในไทย มือใหม่ห้ามพลาด!

ถูกถามกันมาเยอะมาก ว่า ซื้อบิทคอยน์ ได้ที่ไหน และเว็บไหนน่าเชื่อถือ ? วันนี้เราจะพาคุณ ไปรีวิวกับ 5 เว็บไซต์ซื้อขาย Bitcoin ในไทย ที่คุณเป็นสมาชิกได้เลย ทันที ฟรีค่ะ!! ถ้าคุณกำลังมองหาแหล่งซื้อขายเงินบิทคอยน์ วันนี้เรามีบทความที่จะพาคุณไปทำความรู้จัก กับ 5 เว็บไซต์ซื้อขาย Bitcoin ในไทย ที่คุณเป็นสมาชิกได้ทันทีค่ะ!

>>>อ่านต่อ ที่นี่<<<